ตำรวจผู้น้อยผวา ถูกผู้บังคับบัญชาใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่ หลังเข้าใจผิดคิดว่าถ่ายภาพชู้ไปฟ้องเมียเบอร์ 2

ตำรวจชั้นผู้น้อยผวา ถูกผู้กองรุ่นพี่ใช้อาวุธปืนยิงข่มขู่หน้าแฟลตตำรวจ หลังเข้าใจผิดคิดว่าตนแอบถ่ายภาพคุณนายที่ 3 ไปฟ้องเมียเบอร์ 2 จนถูกจับได้ แจ้งหัวหน้าสถานีบอกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย ล่าสุดต้นสังกัดสั่งย้ายแล้ว พร้อมตั้งคณะกรรมการสอบสวน

จากกรณี ส.ต.ต.จอห์น อายุ 24 ปี ตำรวจ สภ.โคสลุง อ.พัฒนานิคม จ.ลพบุรี ได้ส่งเรื่องราวมาร้องเรียนสื่อมวลชน ว่าวันที่ 5 ม.ค.68 ได้ถูกตำรวจยศ ร.ต.อ. รุ่นพี่ อายุ 57 ปี ยิงปืนขู่หน้าบ้านพัก ข้างโรงพัก เเละพูดจาข่มขู่ว่าจะยิงทะลุกำแพงบ้านพักข้าราชการ ไม่พอยังอ้างว่าจะสั่งหัวหน้างาน ป.ย้าย ส.ต.ต.จอห์น ภายใน 24 ชม. เพียงเพราะเข้าใจผิดคิดว่า ส.ต.ต.จอห์น เเอบถ่ายภาพขณะที่ ร.ต.อ. พาภรรยาคนที่ 3 เข้ามาที่บ้านพัก เมื่อไปแจ้งหัวหน้าสถานี ก็บอกว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย เเละยังเรียกให้มาคุยขอโทษกันเท่านั้น เเต่ตนเองรู้สึกกังวลเรื่องความปลอดภัย จึงตัดสินใจมาร้องสื่อในวันนี้

ทั้งนี้ทีมข่าวได้รับภาพจากกล้องวงจรปิด บริเวณหน้าบ้านพักราชการ 1.ความยาว 3.34 นาที วันที่ 5 ม.ค.68 เวลา 15.42 น. เห็น ร.ต.อ.พีรพงษ์ อินนา รอง.สว.สส.สภ.โคกสลุง ยืนสูบบุหรี่ อยู่หน้าประตูห้องพัก เเละยืนคุยกับ นางสาวอั้ม คุณนายที่ 3 อยู่โดยไม่ได้ปิดประตู

2.ความยาว 1.14 นาที เมื่อวันที่ 5 ม.ค.68 เวลา 15.47 น. จะเห็นว่า นางสาวอั้ม อายุ 27 ปี คุณนายที่ 3 ได้ยืนคุยกับ ร.ต.อ.พงษ์ หน้าประตูห้องพัก โดยไม่ได้ปิดประตู

และ 3.ความยาว 2.55 นาที วันที่ 5 ม.ค.68 เวลา 15.36 น. จะเห็น ร.ต.อ. เเละนางสาวอั้ม คุณนายที่ 3 ยืนคุยกันหน้าห้องพัก ก่อนที่ ร.ต.อ. จะไปหยิบอะไรบางอย่างที่รถยนต์ เเละเดินกลับมาหน้าห้องพัก ก่อนจะเดินออกไปทางหน้าห้อง จนเวลา 15.37.50 น. ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด เเละเสียงตะโกนว่า “ใคร” ก่อนหมู่จอห์น จะตอบว่า “ไม่ใช่ๆ ครับ ผมเเค่ซักผ้าเอามาตาก” ก่อนจะเรียกหมู่จอห์นมาหา จึงขับรถ จยย.เข้าใกล้ จะสังเกตเห็นว่าในมือของ ร.ต.อ.ถือปืนอยู่ด้วย ก่อนจะพูดข่มขู่ว่า “เดี๋ยวยิงเเม่งทะลุกำเเพงบ้านเลย เดี๋ยวถ้ามีความเคลื่อนไหวนะ” จากนั้น ก็เห็น ร.ต.อ.พงษ์ ถือถุงกระดาษเดินกลับเข้าไปในห้อง

ซึ่งในวันที่ 8 ม.ค.68 ส.ต.ต.จอห์น ก็ได้มีการไปลงบันทึกประจำวันไว้เเล้วที่ สภ.โคกสลุง เเต่ยังไม่ประสงค์จะดำเนินคดี

เวลา 10.30 น. วันที่ 16 ม.ค. 68 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่พบกับ ส.ต.ต.จอห์น ซึ่งตัวเขายังต้องทำงานอยู่ที่โรงพักเดียวกัน หลังจากที่แจ้งความเอาเรื่องไปแล้ว เล่าให้ฟังว่า ผู้กองพงษ์ อายุ 57 ปี ผู้ก่อเหตุ ซึ่งทำงานในโรงพักเดียวกัน เขามีพฤติกรรมเจ้าชู้ คบหาผู้หญิงพร้อมกัน 3 คน ซึ่งผู้กองพงษ์ มีภรรยาอยู่แล้ว 1 คน สมมติว่า ชื่อ “เก๋” เป็นภรรยาที่อยู่ต่างพื้นที่ แต่คบหากับผู้กองมานานกว่า 20 ปีแล้ว ลักษณะแบบไปๆ มาๆ ไม่ได้อยู่ด้วยกันที่แฟลตตำรวจ

ขณะที่แฟลตตำรวจ ผู้กองพงษ์อยู่กับผู้หญิงคนสนิทอีกคน สมมติว่าชื่อ “ส้ม” คบหากันมา ได้ 8-9 ปีแล้ว (คบซ้อน) โดยวันที่ 31 ธันวาคม วันเคานต์ดาวน์ ทั้งคู่ทะเลาะกัน ส้ม เปิดไปเจอภาพในสตอรี่ ที่เห็นว่า ผู้กองพงษ์ แอบไปเคานต์ดาวน์กับผู้หญิงคนใหม่ สมมติว่าชื่อ “อั้ม” จึงมีปากเสียงกัน วันที่ 1 มกราคม ผู้กองพงษ์เลยมายอมรับกับส้ม ว่ามีผู้หญิงคนใหม่จริง ทั้งคู่จึงทะเลาะกันเรื่อยมาก

กระทั่งวันที่ 4 มกราคม ส้ม ทนไม่ไหว ได้ย้ายข้าวของออกจากห้อง จึงทำให้ผู้กองพงษ์ โกรธ เข้าใจว่าตน เป็นคนถ่ายภาพไปฟ้อง ส้ม ผู้หญิงเบอร์ 2 จนวันที่ 5 มกราคม อั้ม ผู้หญิงเบอร์ 3 ได้ย้ายเข้ามาพักในแฟลตตำรวจ แทน ส้ม เบอร์ 2 ก่อนจะเป็นไปตามคลิปวงจรปิด ผู้กองพงษ์ ยิงปืนขู่ใส่ตน 1 นัด โดยเข้าใจว่าตนเป็นคนถ่ายภาพจนเขาถูกจับได้ แถมยังขู่อีกว่า “ถ้าไม่เลิกยุ่ง จะยิงทะลุกำแพงเข้าไปในห้อง” และ “จะให้ผู้บังคับบัญชาสั่งย้าย”

ตนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยตั้งแต่นั้นมา เกรงว่าถ้าวันไหน ผู้กองพงษ์เมาแล้วจะมาไล่ยิงตนอีก เพราะในวันที่ 5 มกราคมที่เกิดเหตุ เขามีดื่มเหล้าเข้าไปก่อนก่อเหตุด้วย จึงตัดสินใจแจ้งความเอาไว้ วันที่ 8 มกราคม แต่เรื่องก็ยังเงียบ ผู้กองพงษ์ ยังทำงานในโรงพัก ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่เป็นตำรวจ แต่ใช้ปืนยิงขู่ตำรวจด้วยกัน ที่ผ่านมาตน และครอบครัวต้องใช้ชีวิตด้วยความหวาดระแวง หัวหน้าสถานีไม่ได้ดำเนินการแต่อย่างใด

กระทั่งวันที่ 14 มกราคม เมื่อวานนี้ ตนได้ทักท้วงเรื่องนี้ในที่ประชุม หัวหน้าสถานีจึงยอมเรียก ตนและผู้กองพงษ์ไปพูดคุย สุดท้ายหัวหน้าสถานี้ได้ให้ ผู้กองพงษ์ ขอโทษตน เพื่อให้จบเรื่อง แต่ตนไม่อยากรบคำขอโทษ เพราะมองว่ามันเป็นการขอโทษเพื่อให้เรื่องจบไป ตนอยากให้ผู้กองพงษ์ถูกสั่งย้ายออกไป รับผิดชอบกับสิ่งที่เขาทำ

เวลา 11.00 น. ต่อมาทีมข่าวได้ลงพื้นที่ ไปที่แฟลตตำรวจที่เกิดเหตุ พบว่า มีห้องพักทั้งหมด 10 ห้อง โดยห้องของ ส.ต.ต.จอห์น อยู่ห้องที่ 2 ส่วนห้องของ ร.ต.อ.พงษ์ อยู่ห้องที่ 7 เมื่อทีมข่าวเดินไปตรวจสอบที่บริเวณหน้าห้องพักที่ 7 ทดลองเรียกก็ไม่มีคนตอบรับ ซึ่งหน้าห้องมีรถยนต์ซึ่งไม่ใช่ของเจ้าของห้อง จอดอยู่ 1 คัน ซึ่งไม่ใช่ของผู้กองพงษ์ ผู้สื่อข่าวได้โทรติดต่อปลายสายบอกไม่สะดวกคุย กำลังขับรถอยู่ และไม่สามารถติดต่อได้อีก

สำหรับปมสาเหตุในคลิปซึ่งอาจจะมาจากเรื่องผู้หญิงหรือไม่นั้น ตนยืนยันว่าไม่เกี่ยว และมองว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องส่วนตัว ซึ่งถ้าจะบอกว่าตนเจ้าชู้ มันก็มีกันบ้าง แต่ไม่ได้หมายความว่าตนจะไปยิงทำร้ายใคร ซึ่งถ้า ส.ต.ต.จอห์น ไม่สบายใจ ตนก็พร้อมจะย้ายตามที่เขาต้องการ แต่ขอให้เรื่องจบ

ล่าสุดเมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 16 ม.ค.68 พล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้เรียกตัว พ.ต.ท.ชาญ คำยวน สว.สภ.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม ลพบุรี มาเพื่อสอบถามความคืบหน้าเกี่ยวกับการสอบสวนกรณีดังกล่าว ซึ่งทาง สว.สภ.โคกสลุง กล่าวว่ายังอยู่ในช่วงดำเนินการสอบสวนข้อเท็จจริงทั้งสองฝ่าย รวมถึงอาวุธปืนที่ยิงออกไปว่าเป็นปืนแบลงค์กันที่อ้างว่ายิงนกพิราบ หรือปืนจริง (ที่มีหัวกระสุน)

โดยทางพล.ต.ต.อภิรักษ์ เวชกาญจนา ผบก.ภ.จว.ลพบุรี ได้สั่งการให้ ร.ต.อ.พีรพงษ์ ได้ปฎิบัติหน้าที่ชั่วคราวที่ สภ.พัฒนานิคม ให้ ส.ต.ต.จอห์น ยังปฎิบัติหน้าที่เดิม และให้ พ.ต.ท.ชาญ คำยวน สว.สภ.โคกสลุง อ.พัฒนานิคม ลพบุรีทำการสอบสวนให้แล้วเสร็จภายใน 7 วัน