สังคม
ผบ.ตร.ชม นายกฯ ไม่หลงกลถูกคอลเซ็นเตอร์หลอก
โดย nicharee_m
5 ชั่วโมงที่แล้ว
70 views
ผบ.ตร.ยันเหตุยิงอดีต สส.กัมพูชา เป็นความขัดแย้งส่วนตัว ไม่เกี่ยวการเมืองระหว่างประเทศ ย้ำพูดไม่ได้เอาใจใคร ส่วนคดีจีนเทาหลายพื้นที่ เตรียมเรียกทุกหน่วยงานขันน็อตวันที่ 20 ม.ค.นี้ พร้อมชมนายกรัฐมนตรีมีสติ ไม่หลงกลแก๊งคอลเซ็นเตอร์ หลังโทรอ้างเสียงผู้นำประเทศ
เมื่อวันที่ 15 ม.ค. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.เดินทางมาประชุมร่วมกับ กองบัญชาการตำรวจนครบาลเพื่อติดตามความคืบหน้าคดีสำคัญในพื้นที่นครบาล ว่า ได้เตรียมประสานฑูตแต่ละประเทศ รวมทั้งสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เพื่อคัดกรอง นักท่องเที่ยวที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศไทย จากที่ผ่านมามีคนร้ายใช้ประเทศไทยในการก่อเหตุอาชญากรรม ในหลายรูปแบบจึงทำให้ตนไม่สบายใจ วันนี้จึงได้สั่งการเน้นย้ำ กับกองบัญชาการตำรวจนครบาล เพื่อเร่งรัดและกวาดล้างดำเนินการ ตามกฎหมายให้ถึงที่สุด
โดยเฉพาะกรณี ที่มีประชาชนร้องเรียนว่าชาวจีน หลอกลงทุนเงิน USDT กันเองในหลายพื้นที่และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ตั้งแต่ขั้นตอนรับแจ้งความ และเรียกรับผลประโยชน์ โดยกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ สน.ประเวศ สน. พญาไท และสน.บางรัก ซึ่งส่วนนี้ถือเป็นการสร้างความสูญเสีย ภาพลักษณ์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างมาก จึงสั่งให้ผู้บัญชาการตำวจนครบาล ตั้งกรรมการขึ้นมาตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น หากพบมีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้อง ก็จะถูกดำเนินทั้งทางอาญาและทางวินัยอย่างเด็ดขาด
ส่วนคดีที่คนจีนหลอกลงทุนกันเอง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมด เพื่อให้ความเป็นธรรม ทั้งยังเน้นย้ำว่าขณะนี้ยังไม่มีการโยกย้ายหรือ ใครไปช่วยราชการแต่อย่างใด เพราะการถูกกล่าวหา จำเป็นที่จะต้องมีการตรวจสอบทั้งหมด ขอยืนยันว่า ตำรวจไม่เข้าข้างตำรวจด้วยกันอย่างแน่นอน หากพบว่ากระทำความผิดจะดำเนินการทางวินัยอย่างเข้มข้น
ส่วนคดีที่คนจีนวิ่งราวทรัพย์คนจีนด้วยกัน ในพื้นที่ สน.ห้วยขวาง พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่าในวันดังกล่าวมีเหตุการณ์ ที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาเดียวกัน 3 คดี ในพื้นที่สน.ห้วยขวาง 2 คดี เรื่องของเงิน 5 ล้านบาทและ 8 ล้านบาทส่วนสน.มักกะสัน 4.5 ล้านบาท โดยทั้ง 3 เคส มีนายเฉิน เป็นตัวกลางในการทำธุรกรรมเกี่ยวกับเงินดิจิทัล โดยขั้นตอนหลังจากนี้ จะต้องประสานกับกองการต่างประเทศ ในเรื่องของการออกหมายแดงเพื่อติดตามตัวนายเฉินมาดำเนินคดี แม้ว่านายเฉินจะหลบหนีออกนอกประเทศไปแล้ว
ทั้งนี้จากการสืบสวนยังทราบว่าทุกเคสที่เกิดขึ้น ผู้เสียหายและผู้ต้องหา จะรู้จักกันทั้งหมด แต่กลับมาก่อเหตุในประเทศไทย ดังนั้นในวันจันทร์ที่ 20 ม.ค.นี้ จะมีการเรียกประชุมใหญ่ พร้อมหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หาแนวทางป้องกัน
ส่วนความคืบหน้าในคดีที่ สส.อดีตฝ่ายค้านกัมพูชา ถูกยิงเสียชีวิตในพื้นที่ สน.ชนะสงคราม พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า ได้รับรายงานว่าหลังเกิดเหตุตำรวจได้พิสูจน์ทราบผู้กระทำความผิด ภายในไม่กี่ชั่วโมง และสามารถจับกุมตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีได้ และในขณะนี้อยู่ระหว่างประสาน กับทางฝั่งกัมพูชาเพื่อติดตามผู้ต้องหาอีก 2 คนที่หลบหนี มาดำเนินคดี ส่วนจากการสอบสวน ทราบว่าการก่อเหตุในครั้งนี้ เกิดขึ้นจากความขัดแย้งส่วนตัวระหว่างผู้จ้างวานและผู้เสียชีวิต ทั้งนี้ยืนยันว่ายังไม่พบ ว่าเกี่ยวข้องกับการเมืองระดับประเทศ
“การพูดในครั้งนี้ไม่ได้ปกป้อง หรือพูดเพื่อเอาใจใคร แต่แนวทางการสืบสวนสอบสวนออกมาชัดเจน” พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าว
สำหรับกรณีที่นายกรัฐมนตรีนางสาวแพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์ที่ทำเนียบรัฐบาล ว่าโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกใช้เสียงผู้นำประเทศ โทรมาแอบอ้างนั้นพล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวว่า เบื้องต้นขอชื่นชมท่านนายกรัฐมนตรี ที่ไม่หลงกลแม้เสียงจะเหมือนผู้นำของต่างประเทศ ส่วนแนวทางการแก้ไขปัญหา ได้เชิญผู้บริหารค่ายโทรศัพท์ต่างๆ เข้ามาพูดคุยเพื่อประสานความร่วมมือกัน โดยต้องการให้เครือข่ายของโทรศัพท์ เครื่องมือสมัยใหม่ในการตรวจสอบข้อมูลการใช้โทรศัพท์ เพื่อเป็นการป้องกันผู้บริโภค ทั้งนี้มองว่าการป้องกันในเบื้องต้น ประชาชนควรที่จะมีสติ
แท็กที่เกี่ยวข้อง ผบ.ตร. ,นายกฯ แพทองธาร