สังคม

ครูสาวร้อง มิจฉาชีพอ้างเป็น จนท.ที่ดิน-ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหา หลงเชื่อสูญกว่า 1.2 ล้าน

โดย passamon_a

13 ม.ค. 2568

119 views

เมื่อวันที่ 12 ม.ค.68 ครูสาว ชาว จ.อุบลราชธานี ผู้เสียหาย ร้องเพจสายไหมต้องรอด หลังถูกมิจฉาชีพอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ที่ดินและเจ้าหน้าที่ธนาคาร หลอกโอนเงิน สูญกว่า 1.2 ล้านบาท


ครู ผู้เสียหาย เล่าว่า เมื่อวันที่ 9 มกราคมที่ผ่านมา มีเบอร์โทรจาก อบต.ท้องถิ่น ที่ตนเองไปซื้อที่ดินไว้ โทรมาแจ้งว่า ที่ดินดังกล่าวมีปัญหาที่ทับซ้อนกับที่ดินข้างเคียง ขอให้ตนเองไปขอเอกสารที่สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี และนำไปยื่นที่ อบต. เพื่อจะเจรจากับเจ้าของที่ดินข้างเคียง จัดการรังวัดที่ดินใหม่ ซึ่งสายที่โทรมา รู้ข้อมูลที่ดินของตนเองหมด ว่าเป็นที่ดินในป่า มีการจดทะเบียน มีบ้านเลขที่ ทำให้ตนเองหลงเชื่อว่าที่ดินมีปัญหาจริง


จากนั้นอีกฝ่ายจึงให้เบอร์ที่ระบุว่าเป็นสำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี แต่เมื่อตนเองโทรไป ก็ได้รับคำแนะนำว่า ให้ไปกรอกข้อมูลยื่นออนไลน์ และเริ่มมีพิรุธ ตนเองคิดว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ จึงตัดสินใจวางสายไป


แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีอีกเบอร์โทรเข้ามา ตอนแรกตนเองไม่รับ แต่อีกฝ่ายก็โทรมาไม่หยุด จนตนเองเริ่มเห็นว่าเบอร์ดังกล่าวคุ้นตา เมื่อนำไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต ก็พบว่าเป็นตรงกับเบอร์ของธนาคารชื่อดัง ตนเองจึงตัดสินใจรับสาย ซึ่งคราวนี้อีกฝ่ายพูดคล่องแคล่ว ไม่เหมือนมิจฉาชีพที่เคยโทรมา และบอกว่าโทรศัพท์มือถือของตนโดนแฮ็ก ต้องรีบแก้ไข ประกอบกับจังหวะเดียวกันโทรศัพท์มือถือของตนเองก็เริ่มมีอาการค้างและช้าจริง ๆ ทำให้ตนเองเชื่อและได้ทำตามที่อีกฝ่ายแนะนำ


โดยตอนแรก บอกให้ตนเองเข้าแอปฯธนาคาร เข้าไปตั้งค่ารักษาความปลอดภัยต่าง ๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวงเงิน หรือการโอนเงิน และยังให้ตนเองเข้าไปเช็กแอปฯแปลกปลอมในโทรศัพท์ด้วย ทำให้ตนเองเชื่อโดยสนิทใจ ว่าเป็นการรักษาเงินในบัญชี


แต่จู่ ๆ โทรศัพท์ก็ช้าลง จนพิมพ์อะไรไม่ได้ อีกฝ่ายจึงบอกว่า มิจฉาชีพเริ่มทำงานแล้ว ต้องรีบเอาเงินออกจากบัญชีธนาคารโดยเร็วที่สุด ด้วยการโอนไปที่บัญชีของบุคคลหนึ่ง ซึ่งธนาคารเตรียมไว้สำหรับการป้องกันมิจฉาชีพ จากนั้นให้ไปแจ้งความ และนำสลิปการโอนเงินไปรับเงินคืนที่ธนาคารสาขาได้ ตนเองหลงเชื่อ ยอมโอนเงินไป 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1.2 ล้านบาท


หลังตั้งสติได้ ตนเองได้โทรไปที่ธนาคารเพื่อขออายัดบัญชีมิจฉาชีพ แต่ก็ไม่ได้ถามว่าเหตุใด เบอร์ที่โทรเข้ามาก่อนหน้านี้ จึงเหมือนเบอร์คอลเซนเตอร์ของธนาคารดังกล่าว จากนั้นก็ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี แม้ตำรวจจะรับแจ้งความ แต่ก็บอกว่าไม่น่าจะได้เงินคืน ทำให้ตนเองใจเสีย และเมื่อกลับมาตรวจดูแอปฯแปลกปลอมอีกครั้ง ตนเองก็พบแอปฯแปลก ๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงถอนการติดตั้งแอปฯดังกล่าวไป ซึ่งตนเองก็ไม่รู้ว่าติดตั้งไว้ตั้งแต่ตอนไหน เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวมักจะยืมโทรศัพท์มือถือของตนเองไปเล่นเป็นประจำ


ผู้เสียหายนำหลักฐานเป็นสลิปการโอนเงินมาแสดง ซึ่งพบว่า แต่ละครั้ง เงินถูกโอนเข้าบัญชีส่วนบุคคลทั้งหมด และชื่อบัญชีและธนาคารไม่ซ้ำกัน คาดว่าเป็นบัญชีม้า


ส่วนเบอร์ที่โทรเข้ามาในโทรศัพท์มือถือของผู้เสียหาย ซึ่งไปตรงกับเบอร์ของธนาคารพาณิชย์ 2 แห่ง มีรายงานว่า จากการตรวจสอบพบว่า จริง ๆ แล้วเป็นเบอร์โทรศัพท์มือถือ ที่ตั้งชื่อให้เป็นเบอร์ธนาคาร


รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/XfS8A1d8YKI

คุณอาจสนใจ

Related News