สังคม
แก๊งคอลฯโทรเบอร์ธนาคาร หลอกครูโอนเงินออกบัญชี อ้างป้องกันโดนมิจฉาชีพแฮ็ก สูญ 1.2 ล้าน
โดย chutikan_o
5 ชั่วโมงที่แล้ว
2.3K views
ครูสาวชาวอุบลร้องสายไหมต้องรอด ถูกมิจฉาชีพอ้างตัวเป็นหน่วยงานราชการและเจ้าหน้าที่ธนาคาร ใช้เบอร์ธนาคารโทรหา บอกโอนเงินออกจากบัญชีป้องกันโดนแฮ็ก หลงเชื่อสูญเงินกว่า 1.2 ล้านบาท
ครูผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อวันที่ 9 ม.ค.ที่ผ่านมา มีเบอร์โทรจาก อบต.ท้องถิ่น ที่เธอไปซื้อที่ดินไว้ โทรมาแจ้งว่าที่ดินดังกล่าวมีปัญหาที่ทับซ้อนกับที่ดินข้างเคียง ขอให้ไปขอเอกสารที่สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานี และนำไปยื่นที่ อบต. เพื่อจะเจรจากับเจ้าของที่ดินข้างเคียง จัดการรังวัดที่ดินใหม่ ซึ่งอีกฝ่ายรู้ข้อมูลที่ดินของเธอหมด ว่าเป็นที่ดินในป่า มีการจดทะเบียน มีบ้านเลขที่ ทำให้หลงเชื่อว่าที่ดินมีปัญหาจริง จากนั้นอีกฝ่ายจึงให้เบอร์สำนักงานที่ดินจังหวัดอุบลราชธานีมา แต่เมื่อเธอโทรไป ก็ได้รับคำแนะนำว่าให้ไปกรอกข้อมูลยื่นออนไลน์ และเริ่มมีพิรุธ เธอคิดว่าอาจเป็นมิจฉาชีพ จึงตัดสินใจวางสายไป
แต่หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีอีกเบอร์โทรเข้ามา ตอนแรกเธอไม่รับ แต่อีกฝ่ายก็โทรมาไม่หยุด จนเริ่มเห็นว่าเบอร์ดังกล่าวคุ้นตา เมื่อนำไปค้นหาในอินเทอร์เน็ต ก็พบว่าเป็นตรงกับเบอร์ของธนาคารชื่อดัง เธอจึงตัดสินใจรับสาย ซึ่งคราวนี้อีกฝ่ายพูดคล่องแคล่ว ไม่เหมือนมิจฉาชีพที่เคยโทรมา และบอกว่าโทรศัพท์มือถือเธอโดนแฮ็ก ต้องรีบแก้ไข ประกอบกับจังหวะเดียวกันโทรศัพท์มือถือของเธอก็เริ่มมีอาการค้าง และช้าจริงๆ ทำให้เชื่อและทำตามที่อีกฝ่ายแนะนำ โดยตอนแรก ก็บอกให้เธอเข้าแอปฯธนาคาร เข้าไปตั้งค่ารักษาความปลอดภัยต่างๆ ที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงวงเงิน หรือการโอนเงิน และยังให้เข้าไปเช็กแอปฯแปลกปลอมในโทรศัพท์ด้วย ทำให้เชื่อโดยสนิทใจว่าเป็นการรักษาเงินในบัญชี แต่จู่ๆ โทรศัพท์ก็ช้าลงจนพิมพ์อะไรไม่ได้ อีกฝ่ายจึงบอกว่ามิจฉาชีพเริ่มทำงานแล้ว ต้องรีบเอาเงินออกจากบัญชีธนาคารโดยเร็วที่สุด ด้วยการโอนไปที่บัญชีของบุคคลหนึ่งซึ่งธนาคารเตรียมไว้สำหรับการป้องกันมิจฉาชีพ จากนั้นให้ไปแจ้งความ และนำสลิปการโอนเงินไปรับเงินคืนที่ธนาคารสาขาได้ เธอหลงเชื่อ ยอมโอนเงินไป 5 ครั้ง รวมเป็นเงิน 1.2 ล้านบาท
หลังตั้งสติได้ เธอโทรไปที่ธนาคารเพื่อขออายัดบัญชีมิจฉาชีพ แต่ก็ไม่ทัน ได้ถามว่าเหตุใดเบอร์ที่โทรเข้ามาจึงเหมือนเบอร์คอลเซ็นเตอร์ของธนาคารดังกล่าว จากนั้นก็ไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอุบลราชธานี แม้ตำรวจจะรับแจ้งความ แต่ก็บอกว่าไม่น่าจะได้เงินคืน ทำให้เธอใจเสีย และเมื่อกลับมาตรวจดูแอปฯแปลกปลอมอีกครั้ง เธอก็พบแอปฯแปลกๆ ที่ไม่เคยเห็นมาก่อน จึงถอนการติดตั้งแอพดังกล่าวไป ก็ไม่รู้ว่าแอปฯดังกล่าวติดตั้งไว้ตั้งแต่ตอนไหน เพราะก่อนหน้านี้ลูกสาวมักจะยืมโทรศัพท์มือถือของเธอไปเล่นเป็นประจำ
แท็กที่เกี่ยวข้อง แก๊งคอลเซ็นเตอร์ ,หลอกโอนเงิน ,โทรเบอร์ธนาคาร