อัยการเรียกสอบ “มาดามอ้อย” เพิ่ม คดี “ทนายตั้ม” ฉ้อโกง ยันไม่ไกล่เกลี่ย มั่นใจเอาผิดได้แน่

อัยการเรียกสอบ “มาดามอ้อย” เพิ่มเติม หลังรับคดี “ทนายตั้ม” เป็นคดีนอกราชอาณาจักร เตรียมส่งสำนวนให้ อสส.สั่งคดี ภายใน 15 ม.ค.นี้ ด้าน “มาดามอ้อย” ยังมั่นใจเอาผิดทนายตั้มได้แน่ และไม่ไกล่เกลี่ยใดๆ

นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการ สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ในฐานะหัวหน้าคณะทำงานคดีนอกราชอาณาจักร ที่มีการกล่าวหานายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม กับพวก ในความผิดฐานฉ้อโกง / ร่วมกันฟอกเงิน / และความผิดอื่นที่เกี่ยวข้อง เปิดเผยก่อนเข้าวอบปากคำ นางจตุพร อุบลเลิศ หรือเจ๊อ้อย ผู้เสียหายในคดี พร้อมเลขา ว่า คดีนี้เป็นคดีที่อัยการสูงสุดมีคำสั่งให้เป็นคดีนอกราชอาณาจักร ซึ่งตามกฎหมาย จึงอยู่ภายใต้อำนาจที่สำนักงานการสอบสวน จะเข้ามาร่วมสอบสวน

โดยคณะพนักงานอัยการ จะมีอำนาจในการออกคำสั่ง ให้คำแนะนำเกี่ยวกับการรวบรวมพยานหลักฐาน ก่อนหน้านี้ได้ไปประชุมกับพนักงานสอบสวนของกองบังคับการปราบปรามมาแล้ว ซึ่งเมื่อดูสำนวนคดีก็พบว่า มีบางประเด็นที่อยากจะสอบถามผู้เสียหายเพิ่มเติมให้ได้ความชัดเจน วันนี้จึงเชิญเจ๊อ้อยและเลขามา นอกจากนี้ ยังมีพยานบางปากที่ตำรวจยังไม่ได้สอบปากคำ ก็จะเรียกมาสอบเพิ่มเติมด้วย และคณะพนักงานอัยการก็จะพิจารณาข้อเท็จจริง หากพบพยานหลักฐานถึงใครเพิ่มเติม ต้องมีการดำเนินคดีเพิ่ม ก็จะพิจารณาต่อไป

ในการทำงานได้มีการกำหนดกรอบระยะเวลาจะต้องส่งสำนวนให้อัยการสูงสุดพิจารณาสั่งคดีภายในวันที่ 15 มกราคม 2568 ซึ่งจะทันกำหนดระยะเวลาการฝากขังผัดสุดท้ายพอดี โดยระหว่างนี้ จะมีการเรียกพยานมาสอบปากคำที่สำนักงานการสอบสวน สำนักงานอัยการสูงสุด ทุกวัน โดยมีพยานที่ต้องสอบปากคำเกี่ยวกับเส้นทางการเงินกว่า 15 ปาก

ด้าน นางจตุพร หรือ เจ๊อ้อย ออกมาให้สัมภาษณ์ก่อนให้ปากคำว่า วันนี้มาสอบปากคำเพิ่มเติม แต่ไม่ได้นำหลักฐานอะไรมาเพิ่ม ซึ่งก็ทราบว่าจะมีการสอบปากคำในทุกเรื่อง เก็บรายละเอียดของทุกคดี ส่วนตนเองยังไม่มีการร้องขออะไรเพิ่มเติม

เมื่อถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถเอาผิดทนายตั้มได้เจ๊อ้อยบอกว่า มั่นใจ และการที่ต้องมาสอบปากคำหลายครั้งก็ยิ่งมั่นใจว่าจะเอาผิดได้ โดยยังยืนยันที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด ตนเพิ่งเดินทางจากประเทศฝรั่งเศสมาถึงประเทศไทยเมื่อวานนี้ เพื่อมาให้ปากคำโดยเฉพาะ และวางแผนจะอยู่ประเทศไทยประมาณ 2 เดือน เพื่อรอให้กระบวนการของคดีเสร็จสิ้น

ทั้งนี้ ที่ผ่านมา ยังไม่มีใครติดต่อมาขอพูดคุย แต่ยืนยันว่าตนเองจะไม่มีการไกล่เกลี่ย เพราะเคยให้โอกาสแล้ว หากต้องการเคลียร์ ให้ไปเคลียร์กับนายสนธิ ลิ้มทองกุล เพราะตนได้มอบอำนาจไปแล้ว