“ไรเดอร์หูแมว” ป่วนขี่วนทิ้งขยะ บอกที่สาธารณะ ลั่นเก่งก็ไปฟ้องเอา

ร้านอาหารสุดงง ถูก “ไรเดอร์หูแมว” ป่วน ขี่วนหน้าบ้าน ทิ้งขยะเรี่ยราดกลางถนน บอก “ตรงนี้ที่สาธารณะ จะทำมีอะไรหรือเปล่า” เจอคนท้วงมีสวนกลับ ลั่น “เก่งก็ไปฟ้องเอา” เจ้าของร้านคาดอาจเคืองที่ทำออเดอร์ล่าช้า

มีกรณีผู้ใชเฟซบุ๊กเป็นเจ้าของร้านอาหารส่งขายเดลิเวอรี่ โพสต์คลิปไรเดอร์หญิงหมวกกันน็อคหูแมวสีฟ้า สวมเสื้อแขนยาวระบุค่ายบริการรับส่งเดลิเวอรี่สีเขียว และกระเป๋าใส่อาหารของค่ายบริการรับส่งเดลิเวอรี่สีส้ม สวมกางเกงยีนส์ รองเท้าผ้าใบ ขับขี่รถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ สีน้ำเงิน-เทา มาทิ้งขยะไว้ที่หน้าร้าน โดยก่อเหตุ 2 ครั้ง ซึ่งครั้งแรกเป็นช่วงเวลา 12.40 น.วันที่ 30 ธ.ค.2567 ไรเดอร์สาวหูแมวขับรถจักรยานยนต์เลยหน้าร้านไปจอด แล้วเดินมาที่หน้าร้านเทเศษขยะเป็นกระดาษทิชชู่สีขาวที่ใช้แล้วลงกับพื้น ก่อนจะวางรองเท้าผ้าใบสีดำ 1 ข้างทิ้งเอาไว้บนกองขยะแล้วเดินไปขึ้นรถจักรยานยนต์ตนเองขับออกไป

ต่อมาเป็นเหตุการณ์ที่ 2 เมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 5 ม.ค.2568 ไรเดอร์สาวหูแมวคนเดิมขับรถจักรยานยนต์มาจอดที่หน้าร้านแล้วเทขยะเป็นเศษทิชชู่ที่ใช้แล้วเหมือนเดิม โดยเทลงบนพื้นพร้อมกับราดน้ำบางอย่างลักษณะใสบรรจุในขวดน้ำปลาร้าลงที่หน้าร้านตรงที่ตัวเองทิ้งขยะ เหมือนเตรียมการมาก่อเหตุโดยเฉพาะ แล้วขับรถจักรยานยนต์ออกไป โดยมีชาวบ้านที่อยู่ใกล้ตะโกนบอกไรเดอร์สาวหูแมวคนนี้ว่า “เฮ้ย..ทำไมมาทำแบบนี้ละครับ” ซึ่งไรเดอร์สาวหูแมวตะคอกกลับไปใส่ชาวบ้านจับใจความได้ว่า “ตรงนี้มันเป็นถนนสาธารณะ กูจะทำ มีอะไรรึป่าว” ก่อนจะขับรถจักรยานยนต์ออกไปทันที และยังมีการตะโกนด่าทิ้งท้ายขณะขับรถออกไปด้วย

ล่าสุดเมื่อเวลา 13.00 น. วันนี้ (6 ม.ค.2568) ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยังผู้โพสต์คือ คุณแหม่ม อายุ 45 ปี เจ้าของร้านอาหารเดลิเวอรี่ ตั้งอยู่ในซอยอนามัย 2 ในเขตเทศบาลนครขอนแก่น พาผู้สื่อข่าวเดินดูที่หน้าร้านตรงที่ไรเดอร์สาวหูแมวนำขยะมาทิ้งเรี่ยราด พร้อมทั้งขวดน้ำปลาร้าที่บรรจุของเหลวลักษณะใส

คุณแหม่ม ให้สัมภาษณ์เล่าเหตุการณ์ให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า เหตุการณ์ที่ไรเดอร์รายนี้นำขยะมาทิ้งที่หน้าบ้านนั้นเกิดขึ้นสองครั้ง เมื่อวันที่ 30 ธ.ค.2567 และวันที่ 5 ม.ค.2568 โดยตนเองได้เข้าแจ้งความที่ สภ.เมืองขอนแก่นเมื่อวานทันที พร้อมทั้งแจ้งเรื่องร้องเรียนไปยังต้นสังกัดที่ไรเดอร์รายนี้ทำงานให้ โดยพบว่ามี 3 ค่ายด้วยกัน โดยเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นไปตามที่กล้องวงจรปิดสามารถบันทึกเอาไว้ได้ และเป็นพฤติกรรมที่สร้างความเดือดร้อนให้กับตนเองและคนใกล้เคียง เพราะไม่รู้ว่าขยะเหล่านั้นจะมีเชื้อโรคมากน้อยขนาดไหน ทั้งรองเท้าผ้าใบเก่า 1 ข้าง ตั้งใจวางหันหน้าเข้าร้าน ทิชชู่ที่ใช้แล้ว คัตเตอร์บัตที่ใช้แล้ว และน้ำสีใสที่หญิงรายนี้นำมาเทราดอีก

โดยครั้งแรกนั้นตนเองไม่เห็นเพราะอยู่หลังร้าน แต่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดเห็น ส่วนเหตุการณ์ที่ 2 เมื่อวานที่ผ่านมามีเพื่อนบ้านเห็นตอนก่อเหตุ โดยไรเดอร์รายนี้พูดขึ้นมาพร้อมกับเทขยะลงพื้นว่า “เก่งแท้ไปฟ้อง” ซึ่งเพื่อนบ้านก็ถามไรเดอร์ว่าทำไมถึงทำแบบนี้ เค้าไปทำอะไรให้คุณ ซึ่งไรเดอร์หญิงรายนี้บอกว่าถนนสาธารณะจะทำอะไรก็ได้ โดยเหตุการณ์นี้มีกล้องวงจรปิดบันทึกได้ทั้งภาพและเสียง พร้อมทั้งชาวบ้านที่อยู่ใกล้เห็นพอดีก็ได้ถ่ายคลิปเอาไว้ให้ด้วย ก่อนที่ไรเดอร์จะขับรถจักรยานยนต์ออกไป

ส่วนตัวคิดว่าสาเหตุอาจจะเกิดจากที่ร้านทำอาหารนานทำให้ลูกค้าคอมเพลน หรือเพราะพฤติกรรมของตนเองไม่ถูกใจเขาหรือเปล่าก็ไม่ทราบ แต่ส่วนตัวไม่เคยรู้จักไม่เคยเห็นหน้าเพราะคนมารับอาหารเยอะ แต่ที่ผ่านมา 3 ปีที่ขายอาหารอยู่ตรงนี้ ไม่เคยทะเลาะกับไรเดอร์คนไหนเลย และหากไม่พอใจหรือเราทำพฤติกรรมอะไรไม่ได้ก็สามารถที่จะร้องเรียนไปยังศูนย์บริการค่ายรับส่งเดลิเวอรี่ได้ รายงานร้านค้าว่ามีพฤติกรรมแบบไหน เหมือนที่ตนเองรายงาน ไม่ควรมาทำพฤติกรรมแบบนี้ เพราะมีแต่เชื้อโรค หากเป็นปัสสาวะก็คงมีเชื้อโรคอยู่เยอะ

คุณแหม่ม บอกอีกว่า หลังจากโพสต์ไปก็ได้ข้อมูลจากคนอื่นๆ มาเยอะมากมายว่าหญิงรายนี้ทำพฤติกรรมแบบนี้หลายคน ทำให้รู้ว่าไม่ได้มีแค่เราคนเดียวที่โดน และมีบางคนให้ข้อมูลมาว่าไรเดอร์รายนี้ขับหาเก็บขยะไปทิ้งหน้าบ้านคนด้วย ซึ่งคนที่ส่งข้อมูลมาให้ที่โดนพฤติกรรมไรเดอร์รายนี้ก่อเหตุต่างเป็นลูกค้าและร้านค้าที่ต้องเจอกับไรเดอร์คนนี้ตอนมารับส่งอาหารทั้งหมด ทั้งไปด่าลูกค้าว่าทำไมให้คนอื่นมารับ ทำไมไม่มารับเอง ส่วนตัวแจ้งความไปแล้วเพราะไม่รู้ว่าวันข้างหน้าจะเอาอะไรมาปาใส่หน้าร้านเรา กลัวว่าจะก่อเหตุรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ โดยทางตำรวจบอกว่าเป็นคดีอาญายอมความไม่ได้ เข้าข่ายความผิดพรบ.สาธารณะสุข มีโทษปรับ 2,000 บาท ซึ่งจะติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมาย

ตอนนี้อยากให้ตำรวจตามตัวได้ไวๆ เพื่อให้เค้ารู้ว่าสิ่งที่เค้าทำมันผิดกฎหมาย ถ้าป่วยจิตก็ให้ไปรักษา หรือรักษาอยู่ก็กินยาให้ตรงจะได้ไม่มาก่อเหตุแบบนี้ อยากฝากถึงไรเดอร์รายนี้ว่า ไม่รู้ว่าจะเลิกทำพฤติกรรมแบบนี้ไหม อาจจะมีคนเตือนแล้ว แต่คุณทำอะไรคุณก็ต้องได้รับผลของการกระทำและต้องรับให้ได้ด้วย และฝากถึงร้านค้าหรือลูกค้าที่มีคลิปหลักฐานเข้าไปแจ้งความจะได้ช่วยกันให้ไรเดอร์รายนี้หยุดพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดเชื้อโรคด้วย