ยายแบงค์ ร่ำไห้ ลั่น “เขาพาหลานไปฆ่า” ให้เงินเป็นแสนก็ไม่เอา ขอดำเนินคดีถึงที่สุด

ยาย “แบงค์ เลสเตอร์” ร่ำไห้ หลังทราบข่าวหลานชายเสียชีวิต บอกกับทีมข่าว “เขาพาหลานไปฆ่า ให้กินเหล้า ให้กินอะไร” เผย ให้เงินเป็นแสนมาแลกก็ไม่เอา แบงค์เป็นหลานชายยอดกตัญญู ยืนยันขอดำเนินคดีให้ถึงที่สุด

จากกรณีการเสียชีวิตของ “แบงค์ เลสเตอร์” อินฟลูเอนเซอร์ดัง วัย 21 ปี ที่เสียชีวิตจากภาวะแอลกอฮอล์เป็นพิษ หลังไปร่วมงานปาร์ตี้ ล่าสุดทีมข่าวช่อง 3 ได้เดินทางไปพูดคุยกับ ยายพรทิพย์ อายุ 80 ปี คุณยายของ “แบงค์ เลสเตอร์” ที่บ้าน โดยมีนายดลชนก หรือ ต้อย รองประธานมูลนิธิวินวิน

โดยคุณยายได้เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า ทราบข่าวเมื่อคืน ตอนนี้ยังไม่เก็บเตียงเลย บ้านหลังนี้อยู่กัน 3 คน คือ ยาย แบงค์ และ ลูกชายของยาย (น้าของแบงค์) เขารักยายมาก ยายเลี้ยงเขาตั้งแต่ 2 ขวบ ส่งเสียอะไรให้ตลอด ยายสอนให้เขาขายพวงมาลัย ก่อนยายจะเปรยว่า จากนี้ไปใครจะส่งค่าบ้าน ยายก็ได้ค่าผู้สูงอายุ 700-800 บาท ต้องส่งค่าบ้านเดือนละ 3,000 กว่าบาท ยายบอกว่า มาอยู่บ้านหลังนี้ได้ประมาณ 2-3 ปีแล้ว ซึ่งปกติแบงค์นอนข้างบน

ยายยังบอกอีกว่า แบงค์ไม่ได้บอกว่าจะไปที่จันทบุรี ซึ่งยายแบงค์ล่าสุด เมื่อ 3 วันที่แล้ว ซึ่งวันที่ออกไปทำงาน แบงค์ก็รีบออกไป ยายยังบอกกินข้าวก่อนสิลูก แต่แบงค์บอกว่าไม่เป็นไร เดี๋ยวแบงค์ไปกินข้างหน้า ก็เลยบอกว่ายายหุงข้าวเผื่อแล้วนะลูก บางช่วงคุณยายถึงกับร้องไห้ เอามือปิดหน้าสะอึกสะอื้นแล้วพูดว่า “เขาพาหลานไปฆ่านะเนี่ย ให้กินเหล้าให้กินอะไร เขาตาย ใครจะดูแลยาย แล้วใครจะช่วยส่งค่าบ้าน หมดหนทางเลย”

ก่อนบอกว่า ลูกชายบอกว่าอย่าร้อง ร้องไปก็ไม่ได้คืนมา ยายยังบอกอีกว่าใครจะช่วยดูแลยาย ลูกสาวลูกชายไม่ว่างทั้งนั้น มีแต่แบงค์คนเดียวที่เอาใจใส่ เมื่อเช้าที่ลูกชายบอกว่าแบงค์ตายแล้ว ตนยังถามว่าอะไรวะ ยังแข็งแรงอยู่ ตายได้ยังไงเขาบอกคนมอมเหล้าเป็นขวดเลย ยายบอกว่าแบงค์ไม่กินเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวผู้หญิง

ทั้งนี้ คุณยายยืนยันว่าจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด เพราะว่าหลานมันกตัญญู ก่อนย้ำว่าพาหลานไป ฆ่ามอมเหล้าอะไรแบบนี้ ให้เงินเป็น 100,000 ก็ไม่เอา ยืนยันจะเอาเรื่อง อยากให้แจ้งตำรวจ

ส่วนที่ผ่านมาที่แบงค์ถูกให้ไปทานของแปลกๆ แบงค์ไม่เคยมาเล่าให้ฟัง แต่ก็บอกเขาว่าอยากกินเหล้านะอย่าสูบบุหรี่ พร้อมยืนยันว่าหลานชายสุขภาพแข็งแรงดี เคยบอกว่าให้ไปตรวจร่างกายบ้าง ก็อยากให้ไปตรวจให้ไปโรงพยาบาลบ้าง แต่หลานบอกว่าไม่เป็นไร แข็งแรง บางทีไปต่อยมวย ก็บอกว่าอย่าไปต่อย แต่หลานก็บอกว่าได้ 3,000 บาท

จากนั้นนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ได้เดินทางมาหาคุณยายที่บ้าน เพราะตนเองรู้จักกับครอบครัวแบงค์มาเป็น 10 ปีแล้ว คุณเอกภพ บอกว่าแบงค์เสาหลักมานาน เมื่อก่อนแบงค์ก็จะโทรหาให้มาดูแลยาย เพราะบางทีต้องไปขายพวงมาลัยหลายวัน

ส่วนตัวมองว่าเป็นเรื่องที่จะต้องถูกดำเนินคดีกระทำการประมาทให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย แต่คงไม่ถึงเจตนาฆ่า แต่เค้ารู้อยู่แล้วว่าการให้คนกินเหล้าไปแบบนั้นย่อมเล็งเห็นผล เพราะไม่ใช่การกินน้ำเปล่า แม้จะบอกว่าไม่ได้บังคับให้กิน แต่คุณย่อมเล็งเห็นผลตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว ว่ามีโอกาสที่จะเสียชีวิตได้ เพราะฉะนั้นพนักงานสอบสวนคงจะตั้งข้อหา

เหมือนว่าเขายากจน ไม่ได้นึกถึงศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของคน บางทีก็แกล้งให้กินเจลมาทีแรกก็ให้กินอะไร ซึ่งแบงค์เองเป็นเด็กกตัญญูมาก หลังจากนี้ต้องประสาน พม.และทางสำนักงานเขตสายไหมให้เข้ามาดูแลคุณยาย

ด้าน “เอกชาติ มีพร้อม” เพื่อนของแบงค์ ได้โพสต์ข้อความผ่านทางเฟซบุ๊กว่า “ไม่มีไครอยากไห้เกิดเรื่องแบบนี้หลอกครับ ชีวิตคนทั้งคน ผมเองเสียใจมากกว่าพวกคุณอีก น้องมางานผม 2 ครั้ง ผมให้เงินน้องใช้ทุกครั้ง ไม่เคยด้อยค่าน้องเลย น้องนิสัยดีมาก ส่วนเรื่องรับผิดชอบผมเป็นเจ้าของงานผมต้องรับผิดชอบแน่นอนครับ ผมจะดูแลยายดูแลแม่น้องต่อจากน้องเองครับ”