สังคม

ผู้เสียหายรวมตัวร้อง ถูกเพื่อนบ้านสร้างความเดือดร้อน ตั้งแต่เขียนกำแพงบ้าน ยันทำลายข้าวของ

โดย paranee_s

26 ธ.ค. 2567

217 views

ผู้เสียหายรวมตัวร้อง นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด ด้านหนังถูกเพื่อนบ้านเป็นหญิงวัย 64 ปี ดีกรีอดีตแอร์โฮสเตท สายการบินชื่อดัง ป่วนไม่เลิกพฤติกรรมสุดเอือม มีการมาเขียนกำแพงบ้าน นำขยะมาทิ้งไว้หน้าบ้าน โยนของไม่ว่าจะเป็น จานชาม ขยะ เข้ามาในบ้านของชาวบ้านในบริเวณนั้น เคยเข้าไปทำลายทรัพย์สินของหอพัก จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจ และสุดท้ายได้ปล่อยตัวกลับมา นอกจากนี้ยังชอบตะโกนด่าทอบุคคลที่เดินสัญจรไปมาด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย



โดย นายณัฐพล อายุ 48 ปี นักบิน เพื่อนบ้านผู้ได้รับความเดือดร้อน เผยว่า ตนย้ายเข้ามาอยู่อาศัยที่บ้านพัก ในชุมชนย่านดินแดง แห่งนี้ได้ประมาณ 3 ปี ตนได้รับความเดือดร้อนจาก น.ส.ปิยอนันต์ ซึ่งคาดว่า เป็นผู้ป่วยจิตเวช ที่พักอาศัยอยู่บ้านข้างเคียง



ซึ่งหญิงบุคคลดังกล่าวนี้ มักจะกระทำเสียงดังก่อความเดือดร้อนรำคาญ เช่น ด่าทอ ทุบ เคาะวัสดุ ทุบกำแพงบ้านของตน รวมไปถึง ขว้างจาน เอาขยะหรือสิ่งปฏิกูลนำมาสาดเทใส่หน้าบ้าน ทำให้บริเวณหน้าบ้านได้รับความสกปรก ส่งกลิ่นเหม็น ทำให้ตนต้องสร้างระแนงกั้นขึ้นมาเพื่อป้องกัน เมื่อสร้างระแนงกั้นป้าคนดังกล่าวมีการเขียนข้อความบนกำแพงบ้านของตน กล่าวหาว่า บ้านตนก่อสร้างผิดแบบให้รื้อทิ้งและสร้างใหม่ รวมถึงมีการเขียนข้อความถึงสงครามในประเทศสหรัฐอเมริกา และชอบพกพาอาวุธมีดหรือของมีคมติดตัวไปในที่สาธารณะอยู่ตลอดเวลาน่ากลัวเป็นอย่างมาก



ครั้งหนึ่งคู่กรณี แจ้งความกับตำรวจในพื้นที่กล่าวหาว่า บ้านตนมีการฆาตกรรมหมกศพไว้ภายในบ้าน จากนั้นมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาหาที่บ้าน และขอเข้ามาตรวจค้น เพราะมีคนแจ้งความ แต่ตนบริสุทธิ์ใจจึงไม่มีอะไรเกิดขึ้น



ตนกังวลเพราะบ้านของตนมีผู้พักอาศัยเป็นเด็กเล็กและสตรีเกรงว่า ขณะเปิดบ้านหรือขณะเด็กๆ เล่นอยู่ในบ้าน หญิงคนดังกล่าวอาจเข้ามาทำร้ายเด็กอาจทำให้เกิดภยันตรายแก่ชีวิตร่างกายของตนและผู้พักอาศัยได้



และไม่ใช่แค่บ้านของตนที่โดนกระทำ ยังมีครั้งหนึ่งคู่กรณีได้เข้าไปทำลายทรัพย์สินของหอพัก จนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมตัวไปยังสถานีตำรวจ และสุดท้ายได้ปล่อยตัวกลับมา



นอกจากนี้ ยังมีบางครั้ง ยังมีการด่าทอบุคคลที่ใช้รถและเดินสัญจรไปมาในละแวกนี้ด้วยถ้อยคำที่หยาบคาย ที่ผ่านมาเพื่อนบ้าน เคยเข้าแจ้งความที่สถานีตำรวจดินแดง เกี่ยวกับความเสียหายที่ได้รับแต่คดีก็ยังเงียบ



อย่างไรก็ตาม ตนอยากให้ทุกฝ่ายอยู่ด้วยกันได้ด้วยความปรองดองถ้อยทีถ้อยอาศัยกัน ตนรวมไปถึงเพื่อนบ้านได้รับความเดือดร้อนเป็นอย่างมากจริงๆ



ด้านนางศรันญ์ภัทร อายุ 53 ปี เพื่อนบ้านอีกราย เผยว่า ตนอยู่มา 20 กว่าปีแล้ว ก่อนหน้านี้ประมาณ 3-4 ปีที่แล้ว มีคุณแม่ของหญิงคนดังกล่าวนี้ให้ข้อมูลว่า หญิงคนนี้ไม่สบายต้องทานยาตลอด ระหว่างทานยาไม่มีอาการใด ๆ จนกระทั่งคุณแม่ของเธอเสียชีวิต เป็นจังหวะที่นายณัฐพล ย้ายมาอยู่พอดี อาการหญิงคนดังกล่าวก็หนักขึ้นเรื่อยๆ เกิดเสียงด่าบ่นออกมาจากบ้านเธอทั้งวัน นอกจากนี้หญิงดังกล่าว ยังมีพี่สาวที่พยายามพาเธอไปรักษา แต่หญิงคนดังกล่าวไม่ยอมออกจากบ้าน จึงไม่สามารถทำอะไรได้



อย่างไรก็ตาม ขณะนี้กลุ่มเพื่อนบ้าน กำลังรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อจะยื่นเรื่องไปที่สำนักงานเขตพญาไท ให้เข้ามาตรวจสอบที่บ้านของหญิงดังกล่าวต่อไป เพราะตอนนี้สิ่งที่กังวลที่สุดคือเรื่องที่บ้านของป้าคนดังกล่าวถูกตัดไฟฟ้า แล้วจุดเทียนในตอนกลางคืน กลัวไฟไหม้ลุกลาม มายังบ้านเพื่อนบ้าน



ด้านผู้เสียหายอีกหนึ่งราย นายเดชา อายุ 75 ปี เล่าว่ามีวันนึงป้ารายนี้ก็โยนจานกระเบื้อง หรือเศษกระเบื้องออกมาที่บริเวณหน้าบ้านมีรถจักรยานยนต์ขับมา เศษกระเบื้องเข้าล้อรถทำให้รถล้ม ด้านคนซ้อนที่เป็นผู้หญิงแขนถลอกไปกับถนนจนได้รับบาดเจ็บ ต่อมามีสามีของผู้หญิงที่ได้รับบาดเจ็บจึงได้มาดักรอที่จะทำร้ายป้ามหาภัย เพราะโกรธและไม่พอใจที่ป้ามหาภัยทำให้แฟนสาวได้รับบาดเจ็บ ซึ่งชาวบ้านในบริเวณนั้นก็พยายามที่จะห้ามแล้วบอกว่าเขาสติไม่ดี อายุมากแล้วอย่าไปทำร้ายเขาเลย ก่อนที่สามีของหญิงคนดังกล่าวจะกลับออกไป



นอกจากนี้นายเดชา ยังเคยคุยกับพี่สาวของป้าเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ด้านพี่สาวของป้าบอกว่าจะมารับน้องสาวไปอยู่ด้วยแต่จนถึงทุกวันนี้ผ่านมา 10 กว่าวันก็อย่างไรวี่แวว



ด้านนายนิรันดร์ ผู้ร่วมก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด เผยว่า เช้านี้จะประสานไปที่ผู้กำกับการสน.ดินแดง ให้ไปลงพื้นที่ตรวจสอบ เพราะผู้ก่อเหตุพกพาอาวุธมีดติดตัวตลอดเวลา กลัวจะไปก่อเหตุกับบุคคลอื่น เพราะควบคุมตัวเองไม่ได้



และเบื้องต้นจะส่งหนังสือไปถึงสำนักงานเขตพญาไท ให้เข้าตรวจสอบเรื่อง พ.ร.บ.ความสะอาด ที่บ้านของป้าคนดังกล่าวเพิ่มเติมอีกด้วย ส่วนเรื่องการรักษาอาการจิตเวช ตนจะประสานไปที่นายกองตรี ดร.ธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข ให้เข้ามาช่วยดูในเรื่องจิตแพทย์ และหาแนวทางการรักษาต่อไป

คุณอาจสนใจ

Related News