เจ้าของงาน ยันไม่มีการจ้าง “แบงค์ เลสเตอร์” ด้าน ผู้ช่วย ผบ.ตร. ยังไม่ฟันธง ปมเสียชีวิต รอผลจากนิติเวช

ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาผู้สื่อข่าวลงพื้นที่หาข้อเท็จจริง โดยเดินทางไปยังสถานที่จัดงานเลี้ยงดังกล่าว ตั้งอยู่ริมถนนสุขุมวิท พื้นที่หมู่ 3 ตำบลทุ่งเบญจา อำเภอท่าใหม่ จังหวัดจันทบุรี บริเวณดังกล่าวเปิดเป็นร้านจำหน่ายปุ๋ย ยาทางการเกษตร โดยบรรยากาศในช่วงเช้ามีการเคลียร์พื้นที่ไปบ้างแล้วกว่า 70% ยังเหลือเพียงไฟประดับริมถนน และเวทีที่ยังคงตั้งเท่านั้น และมีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ระดับรองผู้การจังหวัด เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาหาข้อมูลภายในที่เกิดเหตุด้วยเช่นกัน

ผู้สื่อข่าวได้ขอพบกับ เจ้าของงาน อายุ 52 ปี เผยว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาตนเองจัดงานฉลองเปิดร้านใหม่ และเป็นวันคล้ายวันเกิดในวันเดียวกันด้วย จึงได้บอกบรรดาคนรู้จักและลูกค้าทางการเกษตรให้มาร่วมงาน ส่วนตัวของแบงค์ รู้จักเป็นการส่วนตัวและเคยมาที่บ้านบ่อยครั้ง ซึ่งแบงค์มาโดยไม่ได้บอกกล่าว มาถึงตั้งแต่เมื่อวานช่วงประมาณเที่ยงวัน ตัวเองยังแกล้งถามเลยว่าแบงค์มายังไง แบงค์ก็พูดขำๆ ว่า ขี่จักรยานยนต์มาจากสมุทรปราการ แต่ที่จริงแล้วแบงค์มากับเบิร์ด และร่วมสนุกสังสรรค์กัน ในขณะเกิดเหตุก็นั่งกินกันหลายคน

โดยเจ้าของงาน ยืนยันชัดเจน ว่าไม่มีการจ้างให้ดื่มแลกกับเงิน 30,000 บาท ตามที่ปรากฏในโซเชียล ตนเองก็รู้สึกเสียใจที่เกิดเหตุการณ์แบบนี้ และไม่อยากให้เกิดขึ้นเลย

โดยเบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เชิญตัว เจ้าของร้าน ไปสอบปากคำเพิ่มเติมที่สถานีตำรวจภูธรทุ่งเบญจา ส่วนที่โรงพยาบาล พระปกเกล้า ร่างของแบงค์ยังคงอยู่ภายในห้องเก็บศพ แพทย์นำออกมาผ่าเมื่อเวลา 09.00 น. ที่ผ่านมาคาดว่าจะผ่าเสร็จประมาณ 11.00 น. ของวันนี้

เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจลงความเห็น เบื้องต้นว่า อาจเกิดหัวใจวายเฉียบพลัน แต่ทั้งนี้ต้องรอผลตรวจจากทางโรงพยาบาลมายืนยันอีกครั้ง

ด้าน พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ในฐานะกำกับดูแลโรงพยาบาลตำรวจ เปิดเผยว่าทางการแพทย์ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่าการเสียชีวิตเกิดจากการดื่มสุราหรือไม่ ต้องรอการพิสูจน์จากแพทย์นิติเวช อย่างเป็นทางการ เนื่องจากพฤติกรรมบางคนอาจจะเคยดื่มสุราเป็นประจำหรือบางคนไม่เคยดื่มก็อาจจะมีผลต่อร่างกาย โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยดื่มถ้าดื่มในปริมาณมากจะรู้สึกไม่ดีและดื่มอย่างไม่มีความสุข จึงต้องรอผลทางการแพทย์อย่างเดียว

พล.ต.ท.โสภณรัชต์ กล่าวว่า กรณีชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่บางประเทศที่มีสภาพอากาศหนาวเย็นจัด จึงดื่มเพื่อให้ร่างกายอบอุ่น ทางการแพทย์ส่วนใหญ่ที่พบ มักเจอกับคนไข้ที่เป็นโรคเส้นเลือดโป่งพอง และคนสูงอายุ เพราะช่วงที่อากาศเย็นหลอดเลือดจะหดตัวแต่หากดื่มแอลกอฮอล์ เส้นเลือดจะโป่ง เมื่อดื่มในปริมาณมากก็จะทำให้เส้นเลือดหดตัวและขยายตัวอย่างรวดเร็ว เป็นเหตุให้เส้นเลือดแตกจนเสียชีวิตได้

แต่ในประเทศไทยไม่ได้มีอากาศหนาวจัดเหมือนต่างประเทศ ซึ่งประเด็นนี้ต้องดูหลายปัจจัย การดื่มสุราที่ไม่คุ้นชินไปทันทีทันใดจะมีผลต่อสุขภาพ แต่ยังไม่รวมถึงบุคคลที่มีโรคประจำตัว เช่น โรคหัวใจ โรคตับ และตับอ่อน ฯลฯ บางคนไม่รู้ว่าตัวเองมีโรคประจำตัวแล้วไปดื่มก็อาจทำให้มีผลได้ทันที เพราะไม่ทราบว่าร่างกายจะรับได้ปริมาณมากน้อยเพียงใด

ทั้งนี้ ยังกล่าวว่าการที่คนไทยและชาวต่างชาติ คิดว่าดื่มแอลกอฮอล์สามารถช่วยแก้หนาวได้เป็นความเชื่อที่ไม่ถูกต้องและมีความเสี่ยง เพราะจะกระตุ้นให้เกิดอาการกำเริบเป็นอันตรายต่อชีวิตได้