สังคม

กระเป๋ารถเมล์สาวเล่านาที ถูกผู้โดยสารชายทำร้าย พ่อเผยลูกเป็นออทิสติก ไม่ได้กินยาวันเกิดเหตุ

โดย thichaphat_d

15 ชั่วโมงที่แล้ว

76 views

กรณีเพจ Bangkokbusclub.com ชุมชนคนรักรถเมล์ ได้โพสต์ข้อความระบุข้อความว่า “เหตุเกิดบนรถเมล์สาย 2-33 (บัวทองเคหะ-MRT บางซื่อ) เมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคม 2567 ที่ผ่านมา เมื่อมีผู้โดยสารชาย พยายามขอเบอร์ ขอไลน์ พกส.หญิงในรถ แต่ พกส.ปฏิเสธ จึงถูกผู้โดยสารตีและลงจากรถไป ซ้ำผู้โดยสารยังไปรายงานขนส่ง หาว่าพนักงานกิริยาวาจาไม่สุภาพ พนักงานจึงต้องเอาคลิปนี้ไปแสดงเป็นหลักฐาน ให้ขนส่งยุติเรื่องให้แต่ จนท.ขนส่งก็มาบอกว่า "เราต้องใจเย็นมากกว่านี้เพราะเราทำงานบริการ ญาติของ พกส.ผู้เสียหายทนไม่ไหว จึงนำคลิปนี้เผยแพร่สู่สังคม เพื่อเตือนภัยพนักงานด้วยกัน พร้อมกับตั้งคำถามว่า "ทำงานบริการมันต้องปล่อยให้คนใช้บริการกดขี่ยังไงก็ได้หรอ จะตีหรือด่ายังไงก็ได้หรอ”

โดยคลิปวีดีโอเผยแพร่ภาพ ชายวัยกลางคน สวมเสื้อสีฟ้า กางเกงสามส่วนสีเนื้อ พูดคุยกับพนักงานเก็บเงินที่นั่งอยู่หลังคนขับรถเมล์ คุยสักพัก ชายคนดังกล่าว ก็ยื่นโทรศัพท์ให้กับพนักงานเก็บเงิน ก่อนที่จะลุกขึ้นมา ใช้มือขวาตบเข้าที่ศีรษะ 1 ครั้งก่อนที่จะลงรถไป

เมื่อเวลา 11.00 น. วานนี้ (24 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวลงเดินทางไปที่ องค์การขรส่งมวลชนกรุงเทพ เขตการเดินรถที่ 7 กลุ่มการปฏิบัติการเดินรถ 1 หมู่บ้านบัวทองเคหะ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทแง จ.นนทบุรี ที่เป็นต้นสาย รถเมล์สาย 2-33 เส้นทางขับระหว่างบัวทองเคหะ-MRT บางซื่อ

จากการสอบถาม นายสมหมาย ชูเลิศ หัวหน้ากอง 1 เขตการเดินรถที่ 7 กล่าวว่า ในเบื้องต้นตนเพิ่งเห็นคลิปเหตุการณ์เมื่อเช้า ยังไม่เจอตัวพนักงานเก็บเงินรถคันดังกล่าว ดังนั้นจะต้องสอบสวนว่าเหตุการณ์วันนั้นเป็นอย่างไร ซึ่งได้เรียกทั้งคนขับรถประจำทางและพนักงานเก็บเงินให้เข้ามาพบในวันนี้

ขณะที่ น.ส.นิด (นามสมมุติ) อายุ 58 ปี ทำงานเป็นพนักงานเก็บเงินมา 30 ปี กล่าวว่า ตนทำงานเป็นพนักงานเก็บเงินมา 30 ปี เจอผู้โดยสารหลายรูปแบบ เจอมาหมดแล้วต้องใช้ความอดทนมาก แต่ยังไม่เคยถูกทำร้ายร่างกาย พฤติกรรมแบบนี้มันทำเกินไปถึงขั้นทำร้ายร่างกาย

ทางด้าน น.ส.พิโชบล ยาดี อายุ 24 ปี พนักงานเก็บเงินสาย 134 มาทำงานแทนวันเกิดเหตุ เล่าว่า วันเกิดเหตุคือวันที่ 3 ธ.ค. 67 เวลาประมาณ 13.00 น. รับผู้โดยสารคนก่อเหตุมาจากหน้ามหาวิทยาลัยราชพฤกษ์ เพื่อมุ่งหน้าถนนนครอินทร์ ซึ่งผู้โดยสารแจ้งว่าจะไปลงที่บางใหญ่ หน้าห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลเวสเกต เมื่อผู้โดยสารขึ้นมาได้นั่งแถวกลางติดประตูทางขึ้น ตนจึงเดินไปเก็บเงินฉีกตั๋วให้ปกติ

จากนั้นชายคนดังกล่าวได้ย้ายมานั่งตรงข้ามที่ตนนั่ง ท่าทางเขาปกติทุกอย่างเหมือนผู้โดยสารทั่วไป ก่อนเกิดเหตุเขาพยายามขอแอดไลน์ตน ตนได้ปฏิเสธไปและสอบถามว่าจะลงที่ไหน ซึ่งเขาแจ้งว่าจะลงที่เวสเกต แต่เขาก็พยายามขอไลน์ตนอยู่ 3 รอบ ซึ่งตนก็ปฏิเสธทุกครั้ง จากนั้นตนได้ย้ายมานั่งด้านหลังคนขับ เขาก็ย้ายตามมานั่งด้านหลังตนก่อนเกิดเหตุ ตนรู้สึกว่าเขาเริ่มประชิดตัวและพยายามยื่นโทรศัพท์เขาให้ตน รอบสุดท้ายที่เกิดเหตุเขานั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามตน เขาเรียกตนว่าพี่ครับผมขอไลน์พี่หน่อย ตนก็ปฏิเสธและบอกให้เขาไปนั่งด้านหลัง ตนเริ่มเอะใจจึงจะหยิบโทรศัพท์เพื่อจะถ่ายคลิปเขา จากนั้นเขาได้เข้ามากระชากและตบตนตามคลิปที่โพสต์ หลังเกิดเหตุตนยังไม่ได้แจ้งความเพราะรอคลิปจากบริษัท ตนเพิ่งได้คลิปหน้ารถมาและทางหัวหน้าแนะนำให้ตนไปแจ้งความ

น.ส.พิโชบล กล่าวต่อว่า จากที่ตนดูเขาเหมือนคนปกติทั่วไป แต่เขาดูเลิ่กลั่กแล้วจ้องมองมาที่ตนตลอด ตนก็พยายามมองกระจกเพื่อดูพฤติกรรมเขาตลอด คอยระวังตัวและเริ่มกลัว เพราะตนเพิ่งมาทำงานเมื่อวันที่ 4 ก.ย. จะครบ 4 เดือนแล้ว หลังเกิดเหตุตนถูกรายงานความประพฤติเมื่อวันที่ 19 ธ.ค. ว่ากิริยาวาจาไม่สุภาพ ตนยืนยันว่าไม่ได้พูดไม่ดี แต่จากพฤติกรรมที่เริ่มคุกคามตน ตนก็มีว่าเตือนเขาไปบ้าง ตนยังกลัวว่าเขาจะมีอาวุธขึ้นมาด้วย หลังเกิดเหตุคนขับรถได้ไล่เขาลง ตนก็ไม่รู้จะระวังตัวยังไงเพราะทำงานตรงนี้ก็ต้องเจอผู้โดยสารเป็นคนนจำนวนมาก แต่คนนี้น่าจะป่วยอารมณ์แปรปรวน

นอกจากนี้ยังมีผู้โดยสารที่อยู่ในเหตุการณ์ยังได้เข้ามาเล่าถึงเหตุการณ์ทั้งหมดให้ฟังถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น หลังจากนี้พนักงานขับรถจะเดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีผู้ก่อเหตุต่อไป

ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น. องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เขตการเดินรถที่ 7 กลุ่มการปฏิบัติการเดินรถ 1 หมู่บ้านบัวทองเคหะ ต.บางบัวทอง อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี นายสมหมาย ชูเลิศ หัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติการเดินรถ 17 ได้เรียกพนักงานเก็บค่าโดยสาร ที่ถูกทำร้ายเข้าสอบถามรายละเอียดเรื่องราวที่เกิดขึ้น และความต้องการที่จะดำเนินการ ก่อนที่จะมีการเจรจาไกล่เกลี่ยกับ นายธารายุทธิ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี พ่อของนายนนท์ (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี ผู้โดยสารที่ก่อเหตุทำร้ายร่างกายบนรถประจำทาง ตามคลิปที่ปรากฏในโซเชียล

จากการสอบถามนายนนท์ ผู้ก่อเหตุ ทราบว่า ขึ้นรถมาจากวงเวียนราชพฤกษ์ จะไปตลาดบางใหญ่ ตนคุยกับพี่เขาและขอไลน์เพื่อจะติดต่องาน เขาบอกว่าไม่ให้ ไม่ได้เล่น ส่วนที่ไปทำร้ายเขา เพราะตนโมโหและหงุดหงิด แล้วเขาก็ตะเพิดลงจากรถกลางทางบริเวณนครอินทร์ นายนนท์บอกอีกว่า วันเกิดเหตุตนไม่ได้กินยา ตนป่วยรักษามานานแล้ว พ่อแม่รู้เรื่องแล้ว ตนจึงจะมาขอโทษพี่เขา รู้ว่าตบเขาแรง ตนไม่อยากให้มีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีกและไม่อยากยุ่งอะไรต่อไป ตนอยากขอโทษพี่เขาด้วย

ด้านนายสมหมาย ชูเลิศ หัวหน้ากลุ่มงานปฏิบัติการเดินรถ17 กล่าวว่า พนักงานเก็บค่าโดยสารจะไปแจ้งความไว้เพื่อป้องกันตัวเอง หากเขามาก่อเหตุครั้งที่ 2 ก็อยากให้จบกัน เพราะก็รู้ว่าทางนั้นเขาเป็นยังไง

นางสาวพิโชบล กล่าวว่า ตนเอาความปลอดภัยของตัวเองไว้ก่อน จะเอาหลักฐานกล้องวงจรปิดไปให้ตำรวจดู จะได้รู้ความเป็นมายังไง

ทางด้านนายธารายุทธิ์ พ่อคนก่อเหตุ กล่าวว่า ตนเพิ่งทราบเรื่องไม่รู้ว่าวันเกิดเหตุน้องเขาลืมทานยาออกจากบ้านหรือเปล่า น้องเขารักษาที่โรงพยาบาลศรีธัญญา ต้องคุยกับแม่น้องเขาว่าการรักษาไปถึงขั้นไหน เพราะก่อนหน้านี้มันไม่มีอาการ ก็จะดูแลเขา เพราะนอกจากเสื่อมเสียน้องเขาแล้ว ยังเสื่อมเสียมาถึงตนเองและโรงเรียนเขาด้วย หลังจากนี้จะกำชับน้องว่าไม่ให้ทำแบบนี้อีก ตนก็ยินยอมตามที่ผู้เสียหายต้องการ หากจะแจ้งความตนก็พร้อมให้ดำเนินคดีเพราะน้องจะได้เข็ด

เบื้องต้นผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายนนท์ ผู้ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย ได้มีการแจ้งความไว้เป็นกลักฐาน ที่ สภ.ปลายบาง เมื่อวันที่ 8 ธ.ค. 67 เวลา 21.11 น. ว่าถูกกระเป๋ารถรถประจำทางด่าทอด้วยคำหยาบ และมีการส่งเรื่องร้องเรียนไปยังกรมการขนส่งทางบก กทม.จนมีการเรียก น.ส.พิโรบล เข้าสอบสวน จนในที่สุดทางกรมการขนส่งทางบกเห็นคลิปเหตุการณ์ จึงไม่ได้มีการลงโทษและให้ยุติเรื่องร้องเรียน

ส่วนทางด้าน น.ส.พิโชบล ผู้เสียหาย หลังคุยกับทางพ่อของนายนนท์ ซึ่งได้กล่าวขอโทษแทนลูกชายที่เป็นออทิสติก และสัญญาจะควบคุมดูแลให้มากกว่าเดิม หลังจากนั้นได้เดินทางไปลงแจ้งความลงประจำวันไว้เป็นหลักฐานที่ สภ.บางกรวย



รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/JF_drxvbWJw

คุณอาจสนใจ

Related News