จากกรณีเพจดัง อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ แฉ รพ.รัฐขายช้อนคันละ 5 บาท ขณะที่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เผย การขายช้อนส้อมเป็นการบริการผู้ป่วย และป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ตอนนี้กลับมาแจกช้อนส้อมให้กับผู้ป่วยเช่นเดิมแล้ว
จากกรณีที่ แฟนเพจอีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ ได้โพสข้อความว่า ไม่มีช้อน ไม่ต้องกิน ดรามา รพ.รัฐขายช้อนคันละ 5 บาท...กำลังเป็นดราม่าเดือดจัด สำหรับโรงพยาบาลรัฐหลายแห่งที่ไม่มีช้อนให้คนไข้ ซึ่งบางมุมมองว่าผู้ป่วยตามต่างจังหวัด บางคนไร้ญาติ ไร้เงินทอง ถ้าจะให้ซื้อทุกมื้อก็คงไม่ใช่ ช้อนคันละไม่กี่บาท ทำไมโรงพยาบาลถึงไม่มีบริการ อีกมุมนึงมองว่าปกติช้อนส้อมเป็นของใช้ส่วนตัว ที่ทางคนไข้หรือทางญาติต้องเตรียมมาเอง ซึ่งหลายๆ รพ. ก็ใช้วิธีนี้ สาเหตุหลักๆ มาจาก “คนไข้และญาติขโมยเอาช้อนกลับบ้านด้วย” ทำให้ช้อนส้อมที่มีไว้สำหรับบริการอาหาร “หายรายวัน” เป็นทุกที่ไม่ว่าจะโรงพยาบาลรัฐและเอกชน
หลายโรงพยาบาลต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นกับสิ่งเหล่านี้ไม่น้อยในแต่ละปี ดังนั้นถ้าจำเป็นต้องเข้าใช้บริการในโรงพยาบาล ควรพกช้อนส่วนตัวไปด้วยเป็นการดีที่สุด และถ้าที่ไหนมีช้อนส้อมให้จำไว้อย่านำกลับหรือขโมยช้อนเด็ดขาด ทานเสร็จเก็บไว้ในถาดอาหารให้เรียบร้อย พร้อมทั้งรูปภาพอาหารที่อยู่ในภาชนะ ประกอบด้วย กับข้าว 3 อย่าง และข้าวเปล่า คล้ายอยู่ในโรงพยาบาล แต่ไม่มีช้อนส้อม” นั้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันที่ 16 ธันวาคม 2567 ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ อำเภอนายแพทย์ทนง วีระแสงพงษ์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ เปิดเผยถึงกรณีนี้ ว่า ตนได้ทำการตรวจสอบข้อมูลแล้ว ซึ่งต้องยอมรับว่ามีการขายช้อนส้อมให้กับผู้ป่วยจริง แต่เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับแผนกผู้ป่วยในตึกของเจ้าหน้าที่ ซึ่งเริ่มมีการขายช้อนส้อมกันตั้งแต่สมัยช่วงมีการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด 19 ซึ่งการใช้สิ่งของส่วนใหญ่ก็จะมีการเน้นให้ใช้สิ่งของส่วนตัว
โดยในช่วงนั้น ผู้ป่วยเองจะมีการจัดหามาเป็นเครื่องใช้ส่วนตัว แต่ในบางครั้งเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ป่วยเพื่อไม่ให้ต้องเดินทางออกไปซื้อข้างนอก จึงมีการจัดหามาและให้ผู้ป่วยซื้อแทน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของจังหวัดศรีสะเกษหรือไม่ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดศรีสะเกษ กล่าวต่อไปว่า จากการตรวจสอบยังไม่พบโรงพยาบาลอื่นในพื้นที่จังหวัดศรีสะเกษ ที่ดำเนินการเช่นนี้ ซึ่งถือว่าจริงๆ เมื่อเสิร์ฟอาหารผู้ป่วย ก็ต้องมีการบริการช้อนส้อมให้ แต่กรณีที่ไม่มีช้อนส้อมกับผู้ป่วยนั้น เพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของโรค การอำนวยความสะดวกกับคนไข้
และจากที่ตนทราบรายงานนั้น มีเรื่องของช้อนส้อมที่หายไป จึงดำเนินการบริหารจัดการภายใน แต่ในตอนนี้มีการปรับรูปแบบในการบริการ กลับมาเป็นรูปแบบเดิมแล้ว คือมีการนำช้อนส้อมมาให้ผู้ป่วยใช้รับประทาน