สังคม

ชาวเน็ตวิจารณ์ สาเหตุรถพุ่งชนขอบทางขึ้นสะพาน เจ็บ 3 จนท.เร่งแก้ เส้นถนน-แนวก้างปลา-เสาล้มลุก

โดย passamon_a

5 ธ.ค. 2567

643 views

ตร.บางบ่อ ชี้ปัจจัยวิศวกรรมทางถนนทำเกิดอุบัติเหตุได้ ด้านแขวงทางหลวงสมุทรปราการ รุดลงพื้นที่ เร่งแก้ให้แล้วเสร็จใน 3 วัน ทั้ง ตีเส้นเครื่องหมายบนพื้น-ขยายแนวก้างปลา-ทำเสาล้มลุกยาวขึ้น ขณะที่อีกมุมตั้งคำถาม คนขับเมา-หลับในหรือไม่ ตร.แจง รอผลตรวจแอลกอฮอล์ในเลือดออกเที่ยงวันนี้ (5 ธ.ค.)


กรณีช่วงเช้ามืด วันที่ 4 ธ.ค.67 เวลา 04.56 น. ที่ผ่านมา บนถนนเทพรัตน (บางนา-ตราด) กม.32 ช่องคู่ขนาน ขาเข้า กทม. ต.บางบ่อ อ.บางบ่อ จ.สมุทรปราการ เกิดอุบัติเหตุขณะที่รถกระบะขับมาเลนคู่ขนาน โดยขับเกาะตามเส้นแบ่งเลน (เส้นประสีขาว) แต่จู่ ๆ เมื่อขับไปตามเส้นประ ซึ่งเป็น 2 เลน แต่ขับไปสักพัก ช่องทางจราจรกลับเหลือ 1 เลน ทำให้พุ่งชนทางขึ้นสะพานกลับรถ ชนแบริเออร์ป้ายบอกทางเต็มแรง


สำหรับเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ ส่งผลให้มีผู้บาดเจ็บ 3 ราย คือ นายทินกร อายุ 31 ปี คนขับ นายธีรพล อายุ 43 ปี นั่งข้างคนขับ และนายไพรวัลย์ อายุ 34 ปี นั่งแค็บ โดยอาสากู้ภัยได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและนำตัวส่งโรงพยาบาลบางบ่อ สำหรับอาการของทั้ง 3 ราย พบว่า คนขับ จมูกแตก, ปากแตก ส่วนคนนั่งข้างคนขับ หน้าอกกระแทก เลือดออกตรงช่องหน้าอก ส่วรคนนั่งแค็บบาดเจ็บเล็กน้อย ซึ่งทั้งหมดถูกส่งตัวไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลตามสิทธิ์ประกันสังคมในพื้นที่ จ.ชลบุรี


ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากเพื่อนร่วมงาน ของทั้ง 3 ราย บอกว่า ทั้งหมดมาทำงานติดตั้งเครื่องเสียงแถว ๆ ถนนข้าวสาร เดินทางมาจาก จ.ชลบุรี และเสร็จงานเวลาประมาณ 03.00 น. ก็แยกย้ายกันกลับชลบุรี ส่วนที่เกิดเหตุขาเข้า กทม. เพราะว่าทั้ง 3 คน กำลังยูเทิร์นไปเอารถของเพื่อนอีกคันแถว ๆ นั้น


ภายหลังรายการเรื่องเล่าเช้านี้ รวมทั้งเพจกรรมกรข่าว ได้นำเสนอเหตุการณ์นี้ ปรากฏว่ามีหลายคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นหลากหลายแง่มุม ส่วนใหญ่พูดถึงสาเหตุว่า เกิดจากเรื่องการตีเส้นถนน ว่าตีเส้นได้กระชั้นชิดมาก ทำให้คนขับอาจไม่ทันได้สังเกตจนเกิดอุบัติเหตุ บางคนบอกว่า ขับมาดีๆ เอ้า เลนหายเฉย, เคสนี้โทษเส้นถนนนะ, ตีเส้นแบบนี้ได้ไงเนี่ย โคตรชุ่ย ฯลฯ


ต่อมาช่วงบ่าย วันที่ 4 ธ.ค.67 ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พร้อมด้วย พ.ต.ท.พัฒนา มูลการณ์ สารวัตรจราจร สภ.บางบ่อ โดยจุดดังกล่าวพบว่า เป็นถนนบางนา-ตราด กม.32 ขาเข้า กทม.


โดยพบว่า จุดดังกล่าวมีสะพานกลับรถที่เพิ่งเปิดใช้งานเมื่อวันที่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนถึงสะพานกลับรถมีทางด่วนที่รถสามารถเบี่ยงลงมาใช้ทางปกติหรือกลับรถบนสะพานได้ ส่วนทางปกติมี 3 เลน ก่อนปรับเหลือ 2 เลนก่อนขึ้นสะพานกลับรถ ระยะทางไม่ถึง 100 เมตร ส่วนบนพื้นถนนไม่มีสัญลักษณ์หรือลูกศรจากทางปกติ 3 เลน ว่าให้เบี่ยงขึ้นสะพานกลับรถ ส่วนทางเบี่ยงลงมาจากทางด่วนไม่มีลูกศรเบี่ยงออกทางปกติเช่นกัน อีกทั้งจุดดังกล่าวไม่มีป้ายระบุว่าข้างหน้ามีสะพานกลับรถ มีเพียงแบริเออร์และป้ายบอกทางที่ถูกที่เห็นได้แบบกระชั้นชิดที่ถูกชนพังไปเท่านั้น


ขณะเดียวกัน น้องชายของหนึ่งในคนเจ็บ บอกว่า ตนได้คุยกับพี่ชายที่ได้รับบาดเจ็บเบื้องต้นแล้ว พี่ชายบอกว่าตอนเกิดเหตุรู้สึกว่าทางค่อนข้างมืดมาก และอยู่ ๆ ทางจาก 3 เลน ก็กลายเป็น 2 เลน และคนขับน่าจะไม่ชินทางด้วยจึงทำให้เกิดุบัติเหตุ


นอกจากนี้ ทีมข่าวได้คุยกับ พ.ต.ท.พัฒนา มูลการณ์ สารวัตรจราจร สภ.บางบ่อ ถึงเหตุการณ์ครั้งนี้สาเหตุมาจากอะไรกันแน่ โดย พ.ต.ท.พัฒนา บอกก่อนว่า ไม่ว่าจะเป็นรถ ถนนหรือคน เป็นปัจจัยให้เกิดอุบัติเหตุได้ทั้งหมด แต่ในฐานะตำรวจ ได้ดูคลิปดังกล่าวแล้วมองว่ารถกระบะขับมาค่อนข้างเร็ว เบื้องต้นอาจสันนิษฐานไว้ด้วยว่าอาจมีอาการเมาหรือไม่ หรือหลับในหรือเปล่า ซึ่งทางตำรวจ สภ.บางบ่อ ที่ลงพื้นที่ตอนเกิดเหตุ ยังไม่สามารถให้คนเจ็บเป่าแอลกอฮอล์ได้เนื่องจากว่าทั้ง 3 คนได้รับบาดเจ็บ แต่ได้ประสานให้แพทย์ตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดแล้ว คาดว่าจะทราบผลในเที่ยงวันนี้ (5 ธ.ค.)


พ.ต.ท.พัฒนา ยังบอกว่า อีกหนึ่งปัจจัยที่ตั้งข้อสังเกตไว้คือคนขับอาจไม่ชำนาญทาง แต่ก็ยังไม่ฟันธงว่าสาเหตุมาจากอะไร


ทีมข่าวถามต่อถึงข้อสงสัยในสังคมส่วนใหญ่ที่มองว่าสาเหตุมาจากวิศวกรรมทางถนน จนทำให้เกิดอุบัติเหตุ ประเด็นนี้ พ.ต.ท.พัฒนา กล่าวว่า ปัจจัยวิศวรกรรมทางถนน ก็อาจเป็นปัจจัยที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุเช่นกัน สำหรับถนนเส้นนี้ จะเห็นได้ว่ามี 3 เลน พอมาใกล้ถึงจุดเกิดอุบัติเหตุจะเห็นว่าเป็นทางบีบเข้า ที่ไม่มีลูกศรและเครื่องหมายสัญญาณซึ่งตามหลักแล้วควรมีบอกชัดเจน ซึ่งช่วงเช้าวันที่ 4 ธ.ค.67 ได้ลงพื้นที่พร้อมกับแขวงการทางสมุทรปราการ เพื่อดูว่าจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรต่อไป เบื้องต้นระหว่างลงพื้นที่ได้สอบถามทางแขวงการทางสมุทรปราการเช่นกัน ว่าเรื่องวิศวกรรมทางถนนเป็นสาเหตุหรือไม่ แต่ก็ยังไม่ได้รับคำตอบ ณ ตอนนั้น แต่หากดูตามตามคลิป ยืนยันว่าวิศวกรรมทางถนนที่จาก 3 เลนเป็น 2 เลน แบบกระชั้นชิด ก็เป็นปัจจัยทำให้เกิดอุบัติเหตุได้


พ.ต.ท.พัฒนา ในฐานะหัวหน้างานจราจร สภ.บางบ่อ ยังบอกอีกว่า หลังจากเกิดเหตุตนได้มีโอกาสมาสังเกตพฤติกรรมการใช้รถใช้ถนนจุดดังกล่าว พบว่าหากเรามองทางตรงจะเห็นว่ารถที่วิ่งเข้ามา 3 เลน หากวิ่งมาถึงจุดดังกล่าวอาจไม่รู้ว่าด้านหน้ามีสะพานกลับรถ หากคนที่ไม่ชำนาญอาจวิ่งเลยไปได้ แต่หากคนที่มีสติอยู่อาจจะสังเกตได้ว่ามีเสาล้มลุก และเส้นทะแยงให้สัญญาณอยู่ ส่วนเรื่องความสว่างเป็นปัจจัยด้วยหรือไม่นั้น ส่วนตัวมองว่าจุดดังกล่าวมีแสงสว่างเพียงพอ


พ.ต.ท.พัฒนา กล่าวต่อว่า ตรงจุดเกิดเหตุ เป็นช่วงที่มีสะพานกลับรถ ซึ่งเปิดทำการตั้งแต่ 15 สิงหาคมที่ผ่านมา ก่อนหน้านี้บริเวณดังกล่าวมีจุดกลับรถแต่เป็นจุดกลับรถทางเรียบ ซึ่งถือได้ว่าอันตรายและเกิดอุบัติเหตุบ่อยมากแทบทุกเดือน แต่หลังก่อสร้างสะพานแล้วเสร็จ ไม่เคยเกิดเหตุลักษณะแบบนี้มาก่อน แต่มีบ้างที่รถตกสะพาน ซึ่งถือได้ว่าหลังสร้างสะพานและเปิดใช้งานแล้ว อุบัติเหตุจุดนี้น้อยลงมาก


ขณะที่ แขวงทางหลวงสมุทรปราการ ในฐานะเจ้าของพื้นที่ดูแลรับผิดชอบจุดดังกล่าว เมื่อวันที่ 4 ธ.ค.67 ที่ลงพื้นที่หลังจากเกิดอุบัติเหตุ และได้รายงานความคืบหน้ามายังเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางบ่อ ว่าจะดำเนินการแก้ไขวิศวกรรมทางถนนภายใน 3 วัน ประกอบด้วย ทำการตีเส้นเครื่องหมายบนพื้นทาง (เบี่ยงเข้า) ในช่องทางคู่ขนานด้านขวาสุด และจะขยายแนวก้างปลา เสาล้มลุกให้มีระยะยาวออกไปอีก รวมทั้งแก้ไขสัญญาณไฟกระพริบให้กลับมาใช้เหมือนเดิม


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นอกจากการตั้งข้อสังเกตเรื่องการตีเส้นถนน หรือวิศวรกรรมทางถนนแล้วนั้น ยังมีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่า คนขับเมาหรือหลับในหรือไม่ ปรากฏว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งเข้ามาแสดงความคิดเห็นในเพจ กรรมกรข่าว ทราบในเวลาต่อมาว่าเป็นแฟนของนายไพรวัลย์ คนบาดเจ็บ ที่นั่งข้างคนขับ โดยเธอคอมเมนต์ระบุว่า “ต่างคนต่างความคิดนะ เราเป็นแฟนคนที่เกิดอุบัติเหตุ เขาเลิกงานแล้วน่าจะรีบกลับบ้านไม่ยอมนอนพักก่อน เขาไม่ใช่คนในพื้นที่ไม่คุ้นเส้นทาง”


“ตอนนี้คนเจ็บอยู่ในมือหมอก็ขอปลอยภัยทุกคนค่ะ เราไม่รู้เรื่องอะไรเลยโรงพยาบาลหรืออะไร ไม่มีใครโทรมาหาญาติเลยค่ะ คือมาทำงานจนเห็นข่าวว่าเป็นแฟนตัวเอง”


ในส่วนประเด็นนี้ เมาแล้วขับ หรือหลับใน ทีมข่าวได้รับข้อมูลจากเพื่อนร่วมงานของทั้ง 3 ราย บอกว่า หลังจากทุกคนทำงานเสร็จ ก็แยกย้ายกลับ จ.ชลบุรี เวลาประมาณ 03.00 น. ส่วนตัวไม่คิดว่าทั้ง 3 จะไปดื่มต่อ เพราะดูจากเวลาเกิดเหตุแล้วไม่น่าไปดื่มต่อกันได้ ส่วนน้องชายของหนึ่งในคนเจ็บ บอกเช่นกันว่า เท่าที่คุยกับพี่ชายเบื้องต้น พี่ชายบอกว่าไม่น่าจะใช่พราะหลับใน ส่วนประเด็นคนขับดื่มหรือไม่ ยังไม่ได้สอบถามเพราะพี่ชายยังบาดเจ็บหนักอยู่


ด้าน พ.ต.ท.พัฒนา เผยถึงเรื่องนี้ว่า จากนี้หากผลตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดของคนขับออกมาว่า เกินกว่ากฎหมายกำหนด ต้องมีความผิดในฐานเมาแล้วขับ รวมถึงทำให้ทรัพย์สินราชการได้รับความเสียหาย ส่วนหากผลออกมาว่า ไม่เกินกว่ากฎหมายกำหนด ต้องดูถึงสาเหตุว่าชำนาญทางหรือไม่ หรือหลับในหรือเปล่า ซึ่งเรื่องนี้พนักงานสอบสวนจะดำเนินการต่อไป แต่เบื้องต้นยังไม่สามารถสอบปากคำทั้งสามคนได้ เนื่องจากได้รับบาดเจ็บ และยังอยู่ระหว่างการรักษาตัวที่ จ.ชลบุรี


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/dv1nAK0GHa0


คุณอาจสนใจ