เร่งเคลียร์คานถล่ม ถนนพระราม 2 เปิดช่องทางพิเศษแก้รถติด - พ่อป่วยติดเตียงร่ำไห้ เพิ่งรู้ลูกตายในวันเผา

กรมทางหลวง ดำเนินการเคลียร์พื้นที่เพื่อติดตั้งอุปกรณ์รื้อย้ายโครงเหล็กที่เสียหาย จากเหตุคานปูนถล่มเสร็จสิ้นแล้ว วางแผนใช้รถเครน 6 คัน รื้อย้าย คาดใช้เวลาหลายวัน - พ่อเหยื่อสะพานพระราม 2 ป่วยติดเตียง เพิ่งรู้ลูกตายในวันเผา เผยผู้ตายเป็นเสาหลักส่งเงินมาดูแลพ่อที่ป่วยติดเตียง


จากเหตุการณ์เครนอุปกรณ์ก่อสร้าง และคานปูนก่อสร้างทางต่างระดับถนนพระราม 2 ถล่มลงมา ในพื้นที่จังหวัดสมุทรสาคร จนทำให้มีผู้เสียชีวิต 6 ราย และได้รับบาดเจ็บ 9 ราย นอกจากนี้ยังส่งผลกระทบต่อสภาพการจราจร ทำให้มีรถติดอย่างต่อเนื่องและมีปริมาณสะสมหนาแน่นนั้น


คืบหน้า วันที่ 1 ธ.ค.67 เวลา 19.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่จุดเกิดเหตุ พบว่า กรมทางหลวง โดยแขวงทางหลวงสมุทรสาคร ได้เปิดช่องทางพิเศษบนทางหลวงหมายเลข 35 (ถนนพระราม 2) ช่วง กม.20+900 ถึง กม.21+800 (ขาออก กทม.) พื้นที่ ต.คอกกระบือ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร ตั้งแต่เวลา 07.00 น. เพื่อบรรเทาปัญหาการจราจรติดขัด โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่กรมทางหลวง ร่วมอำนวยความสะดวกการเปิดช่องทางพิเศษนี้ ส่งผลให้การจราจรบนถนนพระราม 2 คล่องตัวขึ้น ซึ่งปิดให้บริการถึงเวลา 21.00 น.


อย่างไรก็ตาม การจราจรบริเวณดังกล่าวคล่องตัว การจราจรไม่ติดหนัก เนื่องจากประชาชนที่ใช้รถสัญจรผ่านเส้นทางนี้บางส่วนเลี่ยงไปใช้เส้นทางอื่น แต่ก็มีประชาชนบางรายที่สัญจรผ่าน ตะโกนด่าเจ้าหน้าที่ด้วยคำหยาบ เนื่องจากปิดถนนเคลียร์พื้นที่ หงุดหงิดทำให้รถติด


สำหรับความคืบหน้าการเคลียร์พื้นที่เพื่อติดตั้งอุปกรณ์รื้อย้ายโครงเหล็กที่เสียหายนั้น ขณะนี้ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว โดยมี นายชวเลิศ เลิศชวนะกุล วิศวกรใหญ่ด้านการควบคุมการก่อสร้าง พร้อม นายทวีศักดิ์ รุจิจรรยาวัฒน์ ผอ.สำนักก่อสร้างสะพาน นายศุภโชค มีอำพล ผู้อำนวยการสำนักงานทางหลวงที่ 13 (กรุงเทพฯ) นายสุกิจ ยินดีสุข วิศวกรโยธาเชี่ยวชาญ สำนักสำรวจและออกแบบ และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมลงพื้นที่ร่วมกับผู้แทนจากวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) และทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ลงพื้นที่ควบคุมการทำงานตามมาตรการความปลอดภัย และติดตั้งอุปกรณ์ตรวจวัดการเคลื่อนตัวของโครงสร้าง เพื่อเฝ้าระวังการพังทลายซ้ำ


เมื่อคืนที่ผ่านมา มีการนำรถเครนขนาดใหญ่ทั้งหมด 6 คัน น้ำหนัก  550 ตัน จำนวน 2 คัน น้ำหนัก 400 ตัน จำนวน 1 คัน น้ำหนัก 360 ตัน จำนวน 2 คัน น้ำหนัก 220 ตัน จำนวน 1 คัน เข้ามาในพื้นที่ ซึ่งช่วงเช้าวันนี้จะเริ่มประกอบเครนให้พร้อมทำงาน พร้อมทั้งวางแผนในการรื้อย้ายโครงสร้างเหล็ก คาดว่าต้องใช้เวลาหลายวัน


ขณะเดียวกันยังมีการปิดกั้นพื้นที่บริเวณจุดเกิดเหตุไว้เพื่อความปลอดภัย โดยมีเจ้าหน้าที่ของกรมทางหลวง คอยอำนวยความสะดวกและดูแลความเรียบร้อย ไม่ให้บุคคลที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าไปอยู่บริเวณจุดใกล้โครงสร้างเหล็ก รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้วย เกรงว่าโครงสร้างเหล็กอาจพังลงมาก่อให้เกิดอันตราย


ขณะที่ นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย อธิบดีกรมทางหลวง ได้มอบหมายให้ผู้บริหารกรมทางหลวง เข้าร่วมพิธีสวดพระอภิธรรม และมอบเงินช่วยเหลือเบื้องต้นแก่ครอบครัวของ นายอภิวัฒน์ พะพันทาง และ นายสุทัศน์ บุญเรือง ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์โครงเหล็กถล่ม ส่วนผู้บาดเจ็บจำนวน 6 ราย โครงการก่อสร้างฯ และบริษัทผู้รับจ้าง ได้เข้าเยี่ยมเยียนให้กำลังใจและให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแล้ว


ขณะที่ ที่วัดบ้านโคกเกลา ต.โคกมะขาม อ.ประโคนชัย จ.บุรีรัมย์ มีญาติพี่น้องและชาวบ้านในพื้นที่ มาร่วมงานศพและพิธีฌาปนกิจ นายสุทัศน์ บุญเรือง อายุ 31 ปี ตำแหน่งโฟร์แมน จำนวนมาก ที่น่าสลดใจคือ นายวน อายุ 73 ปี พ่อของนายสุทัศน์ ซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียงพูดไม่ได้ และเพิ่งรู้ว่าลูกเสียชีวิตก็ในวันที่จะประกอบพิธีฌาปนกิจศพของลูก นายวนได้แต่ร่ำไห้คิดถึงลูกชาย โดยมีภรรยาคอยปลอบใจอยู่เคียงข้าง เช็ดน้ำตาให้ตลอดเวลา


นางสมจิตร อายุ 72 ปี แม่ของนายสุทัศน์ เล่าว่า ตนเพิ่งบอกให้สามีทราบ ว่าลูกชายเสียชีวิต เพราะจะต้องแต่งตัวให้สามีไปงานศพของลูกชายที่วัด ตนสงสารสามีมาก เพราะสามีเสียใจมากที่ลูกชายเสียชีวิต


นางสมจิตร เล่าด้วยว่า ก่อนหน้านี้ตนฝันว่าฟันหัก พอมาทราบข่าวว่าลูกชายเสียชีวิตรู้สึกเสียใจมาก เพราะลูกชายเป็นเสาหลักของบ้าน ตั้งแต่พ่อป่วยติดเตียง ก็มีเพียงนายสุทัศน์ เป็นคนส่งเงินมาเป็นค่าใช้จ่ายดูแลซื้ออาหารพิเศษให้พ่อ จนลูกไม่ได้ออกรถตามที่ลูกฝันเอาไว้ ส่วนการเยียวยาก็ขึ้นอยู่กับบริษัทและเจ้าหน้าที่ ว่าจะดำเนินการอย่างไร ซึ่งบริษัทได้ติดต่อมาหาแล้ว 2 ครั้ง

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/a2DJc9N8PoM