สังคม

ฝากขัง-ค้านประกัน สาวซิ่งบีเอ็มความเร็ว 207 กม./ชม. พุ่งชน 3 แม่ลูกเสียชีวิต ตร.แจ้ง 4 ข้อหา

โดย petchpawee_k

29 พ.ย. 2567

156 views

กรณีเมื่อเวลา 19.30 น. วันที่ 27 พ.ย. ที่ผ่านมา เกิดอุบัติเหตุรถยนต์เก๋งชนกับรถจักรยานยนต์บนสะพานข้ามทางรถไฟบ้านหนองหมุก หมู่ 9 ตำบลตากแดด อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร ทำให้มีผู้เสียชีวิตจำนวน 3 ราย คือ นายกฤตเมธ  อายุ 16 ปี นักเรียนชั้น ม.4 ด.ญ.บุญญานุช อายุ 14 ปี นักเรียนชั้น ม. 2 และนางเย็นจิตร อายุ 52 ปี โดยทั้งหมดเป็นแม่ลูกกัน

ส่วนคันก่อเหตุเป็นรถยนต์เก๋งบีเอ็มดับเบิ้ลยู สีดำ ป้ายประมูล คนขับอาศัยช่วงชุลมุนได้หายตัวไป เนื่องจากชาวบ้านเข้ามาดูในที่เกิดเหตุเป็นจำนวนมาก อีกทั้งยังมีข้อมูลจากชาวบ้านเล่าว่า คนขับรถได้ขอให้ขาวบ้านช่วยหาแมวสายพันธุ์ต่างประเทศจนเจอ แล้วทิ้งรถเก๋งคันหรูอุ้มพาแมวหลบหนีหายไปกับความมืด

ความคืบหน้าเมื่อวานนี้ (28 พ.ย.) มีภาพจากหน้ารถ โดยเพจ ‘อีซ้อขยี้ข่าว : อีซ้อ’ โพสต์ภาพระบุข้อความว่า “เปิดคลิปสาวซิ่งบีเอ็มชน 3 แม่ลูกเสียชีวิต แล้วหนี ในรถมีขวดเหล้าเปิดอยู่ คลิปในคอมเมนต์”  ซึ่งในคลิปวีดีโอบันทึกเหตุการณ์ขณะที่ ผู้ก่อเหตุขับรถบีเอ็มด้วยความเร็ว ชนด้านท้ายจักรยานยนต์ของ 3 แม่ลูกอย่างแรง จนคนและรถกระเด็นไปคนละทิศทาง

ขณะที่ทางด้านตำรวจพิสูจน์หลักฐาน จ.ชุมพร ได้มาเก็บร่องรอยนิ้วมือคนขับรถเก๋ง BMW เพื่อจะนำมาเปรียบกับ น.ส.จิรันธนิน อายุ 30 ปี ที่มามอบตัวกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เมื่อกลางดึกของเมื่อคืนหลังเกิดเหตุว่าตรงกันหรือไม่ ก่อนนัดให้มาสอบปากคำอีกครั้ง

ด้านนายดำ พ่อของเจ้าของรถ เปิดเผยว่า รถยนต์เก๋ง BMW คันที่เกิดเหตุนั้น เป็นของ น.ส.ภารดา ลูกสาวของตนเอง แต่ลูกสาวไม่ได้เป็นคนขับเพราะช่วงนั้นมีงานศพของแม่ยายของตนได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลอยู่ที่ตำบลนาทุ่ง อ.เมืองชุมพร ลูกสาวตนยังง้วนออยู่ในงานศพยาย โดย น.ส.จิรันธนิน ซึ่งเป็นเพื่อนสาวคนสนิทของลูกตน ซึ่งเดินทางมาจาก จ.นครศรีธรรมราช เพื่อมาร่วมงานยาย ได้ขอขับรถคันดังกล่าวไปอาบน้ำที่บ้านพักของตนที่อยู่ในพื้นที่ตำบลทุ่งคา อ.เมือง จ.ชุมพร โดยขับไปคนเดียวซึ่งยังไม่ทันถึงบ้าน ก็ประสบอุบัติเหตุเสียก่อน  

นายดำกล่าวว่า หลังเกิดเหตุนั้น น.ส.จิรันธนิน ก็ไม่ได้หลบหนีไปไหน แต่หลบไปอยู่ในที่มืดเพราะเกรงว่าจะไม่ปลอดภัย ไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตเป็นคนละแวกนั้นหรือไม่และหากอยู่ตรงนั้นแล้วหวั่นจะเกิดอันตรายเพราะมีคนจำนวนมาก จึงหลบอยู่ในที่เกิดเหตุก่อนจะโทรศัพท์มาหาตนให้ไปรับ และนำไปมอบตัวกับพนักงาน สอบสวน สภ.ชุมพร และทางพนักงานสอบสวน ได้รับเรื่องและเก็บผลเลือดพร้อมเป่าตรวจหาแอลกอฮอล์ ว่าเกินอัตรากฎหมายกำหนดหรือไม่

ด้าน พ.ต.อ.ปัญญา ท้วมศรี ผกก.สภ.เมืองชุมพร เปิดเผยว่า หลังเกิดเหตุพนักงานได้ดำเนินการเก็บรวบรวมพยานหลักฐาน ส่วนเจ้าของรถคืนเกิดเหตุได้เข้าพบพนักงานสอบสวนแล้ว พร้อมทั้งสอบถามรายละเอียดและเก็บวัตถุพยานเบื้องต้น เนื่องจากต้องสงสัยว่าเจ้าของรถเมาด้วยหรือไม่ และได้ให้พิสูจน์หลักฐานเก็บตรวจสอบสภาพรถ เชื่อว่าสามารถแจ้งข้อกล่าวหาดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ ผู้ขับขี่เป็นหญิงสาวที่มีลูกแมวมาด้วยตามที่พยานได้พบเห็น และในเบื้องต้นตำรวจได้กล้องวงจรปิด แต่ยังไม่เผยแพร่เพราะอาจเกิดความเสียหายต่อรูปคดี

พ.ต.อ.ปัญญา กล่าวอีกว่า และเมื่อตำรวจได้ให้ตำรวจพิสูจน์หลักฐานมาเก็บร่องรอยนิ้วมือแล้วพบว่าตรงกับ น.ส.จิรันธนิน ประกอบกับพยานแวดล้อมพบว่า น.ส.ภารดา เจ้าของรถ นั้นอยู่ที่ภายในงานศพยายที่ตำบลนาทุ่งจริง เบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหากับ น.ส.จินันธนิน ฐานขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ขับรถทำให้ทรัพย์ผู้อื่นเสียหาย ขับรถขณะมึนเมาเนื่องจากมีแอลกอฮอล์ในร่างกายวัด 2 ครั้ง ในปริมาณ 29 และ27 มิลลิกรัม และข้อหาหลบหนีไม่ให้ความช่วยเหลือ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับ น.ส.จิรันธนิน อายุ 30 ปี ที่มามอบตัวแสดงตนเป็นคนขับรถคันดังกล่าว พนักงานสอบสวน สภ.เมืองชุมพร เมื่อเวลา 11.00 น. โดยพนักงานสอบสวนใช้เวลาสอบนานกว่า 5 ชั่วโมง โดยก่อนหน้านั้นประมาณ 20 นาที ได้มีตำรวจขับรถควบคุมตัวผู้ต้องหาที่ติดตู้กรงเหล็กเข้ามาจอดติดเครื่องรออยู่หน้า สภ.เมืองชุมพร แล้วบอกกับญาติๆ ผู้ต้องหาและเจ้าของรถที่มารออยู่บนโรงพักว่า จะนำผู้ต้องหาไปกับรถคันดังกล่าวเพื่อไปฝากขังต่อศาลจังหวัดชุมพร หากประสงค์จะประกันตัวให้ไปติดต่อที่ศาลจังหวัดชุมพร โดยรถยนต์รับตัวผู้ต้องหาก็ยังติดเครื่องรออยู่

จนกระทั่งเวลา 15.45 น. พนักงานสอบสวนได้ ได้พาตัว น.ส.จิรันธนิน ผู้ต้องหาออกทางประตูหลัง แล้วรีบนำตัวผู้ต้องหาขึ้นรถยนต์สายตรวจตอนครึ่ง ออกไปทันที ทำให้ผู้สื่อข่าวรออยู่ด้านหน้าที่มีรถอีกคันติดเครื่องรออยู่ วิ่งไปถ่ายภาพกันแทบไม่ทัน จากนั้นรถตำรวจที่ติดตู้กรงเหล็กติดเครื่องรออยู่ได้ขับออกไปจอดในลาดจอดรถตามปกติ โดยมีญาติไปรอประกันตัวอยู่ที่ศาลจังหวัดชุมพร โดยได้รับการประกันตัวในวงเงินจำนวน 1 แสนบาท

ต่อมา สภ.เมืองชุมพร ได้แถลงข่าวกรณีดังกล่าว สรุปใจความดังนี้

เวลา 02.00 น. วันที่ 28 พ.ย. น.ส.จิรันธนิน (สงวนนามสกุล) ผู้ขับขี่รถบีเอ็ม ได้มาพบพนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ได้ตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ 2 ครั้ง ผลปรากฏว่าวัดได้ 29 และ 27 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ จากนั้นได้นำตัวไปตรวจวัดแอลกอฮอล์ในกระแสเลือดที่โรงพยาบาลชุมพร อยู่ระหว่างการรอผลตรวจวิเคราะห์

จากการตรวจสอบโทรศัพท์มือถือ น.ส.จิรันธนิน พบว่ามีภาพถ่ายขณะขับรถยนต์ ระบุเวลาถ่ายภาพเวลา 18.56 น. โดยความเร็วในภาพถ่ายคือ 207 กม./ชม. ซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับกล้องหน้ารถยนต์ น.ส.จิรันธนิน ชนใส่ท้ายรถจักรยานยนต์

พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหาดังนี้

1. ขับรถขณะเมาสุราโดยไม่มีใบอนุญาตขับขี่

2. ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด

3. ขับรถประมาท เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย

4. ไม่หยุดช่วยเหลือ แสดงตัว แจ้งพนักงาน เจ้าหน้าที่ที่ใกล้เคียงหลังเกิดเหตุ

เจ้าหน้าที่ได้นำตัว น.ส.จิรันธนิน ไปที่ศาลจังหวัดชุมพร เพื่อขอหมายฝากขัง โดยได้คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากหวั่นว่าผู้ต้องหาจะมีพฤติการณ์หลบหนี

ขณะที่วันเดียวกัน นายวิทยา เขียวรอด ปลัดจังหวัดชุมพร พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเดินทางไปที่บ้านพักของนายประกฤษณ์ อายุ 50 ปี พื้นที่ตำบลวิสัยเหนือ อ.เมืองชุมพร จ.ชุมพร เป็นสามีและพ่อของลูกชายหญิงที่เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เพื่อแสดงความเสียใจและให้กำลังใจพร้อมมอบเงินช่วยเหลือทางภาครัฐและปลัดจังหวัดฯมอบเงินส่วนตัวให้อีกจำนวนหนึ่ง

โดยบ้านหลังดังกล่าวมีชาวบ้าน และญาติกำลังจัดเตรียมสถานที่ ที่ตั้งสวดอภิธรรมศพซึ่งนายประกฤษณ์ยังทำใจไม่ได้กับการสูญเสียลูกๆ และภรรยาอย่างกะทันหัน ขณะที่ร่างไร้วิญญาณ 3 คนแม่ลูกนอนเรียงกันเพื่อรอการบรรจุลงหีบศพ ต่อมามีคณะครูอาจารย์และเพื่อนนักเรียนโรงเรียนศรียาภัย เดินทางมาร่วมไว้อาลัยด้วย

นายสุวิทย์ อายุ 60 ปี มีศักดิ์เป็นลุงเขย กล่าวว่า สิ่งที่น่าห่วงคือจิตใจของผู้เป็นพ่อที่มีอาชีพรับราชการ อาจจะมีปัญหาเนื่องจากมีแม่อายุเกือบ 90 ปี โดยเฉพาะหลานทั้งสองคน ถือว่าเป็นเสาของครอบครัวก็ว่าได้ เพราะหลานทั้งสองหลังจากเลิกเรียน ก็จะคอยช่วยดูแลย่าซึ่งเป็นผู้ป่วยติดเตียง แม้ทั้งสองจะต้องคอยดูแลย่า ก็ยังตั้งใจเรียนอย่างมาก ไม่เคยเกเรให้พ่อแม่เสียใจเลย

ญาติผู้ตาย กล่าวอีกว่า เส้นทางเกิดเหตุดังกล่าวเป็นทางตรง ถูกรถมาชนด้านหลังจนเกิดความสูญเสีย ญาติทุกคนเศร้าเสียใจ เพราะเป็นการสูญเสียยกครอบครัว ญาติทุกคนกังวลว่าผู้เป็นพ่อจะใช้ชีวิตอย่างไร จิตใจเป็นสิ่งสำคัญ เราไม่สามารถเรียกชีวิตทั้ง 3 คนกลับคืนมาไม่ได้ แต่อยากเรียกร้องความเป็นธรรม ว่าส่วนไหนที่เขาช่วยได้ หรือส่วนไหนที่ควรรับผิดชอบ ในเรื่องการที่ขับรถเร็วชนคนตายคาที่ 3 ศพ ขอให้ทุกอย่างไปตามกระบวนการกฎหมาย

ญาติผู้ตาย กล่าวต่ออีกว่า ทางคนขับรถเกิดเหตุให้ญาติติดต่อมาว่าจะขอรับผิดชอบ เดี๋ยวจะเข้ามาเคลียร์มาคุย แต่ทางญาติผู้สูญเสียยังไม่ได้หารือกัน แต่ตนยืนยันว่าคดีความว่ากันไปตามกระบวนการของกฎหมายผิดก็คือผิด การเยียวยาว่ากันไปอีกเรื่องหนึ่ง” นายสุวิทย์ ญาติกล่าวไว้

ด้านนายสถาพร ภิไลวรรณ พยาบาลวิชาชีพ ชำนาญการ รพ.สต.วิสัยเหนือ กล่าวว่า ที่ผ่านมาตนเองจะมาดูแลผู้ป่วยติดเตียงที่มีอายุ เกือบ 90 ปี ที่บ้านของผู้เสียชีวิตทั้ง 3 ราย เป็นประจำ ซึ่งเป็นแม่สามีและเป็นย่าของนักเรียนที่ตาย พอตนรู้ข่าวรู้สึกใจหายมาก เพราะน้องโกโก้ หรือ นายกฤตเมธ นั้นมีความความฝันว่า จะมุ่งมานะในการเรียนหนังสือให้มากแม้จะหนักก็ตามเพื่อจะเรียนหมอให้ได้ ซึ่งตนในฐานะที่ดูแลย่าของน้องโกโก้ ก็พยายามถ่ายทอดวิชาหลักสูตรปฐมพยาบาลในเบื้องต้นให้ จนขณะนี้น้องโกโก้เองสามารถเปลี่ยนสายอาหารและสายปัสสาวะของย่าได้อย่างคล่องมาก เสียดายมากและยอมรับว่าเสียใจมาก



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ScCqTCCDTpM

คุณอาจสนใจ

Related News