จากกรณีโซเชียลโพสต์คลิปหญิงรายหนึ่งถูกมัดมือมัดเท้า อยู่ภายในรถเก๋ง ก่อนเปิดประตูร้องขอความช่วยเหลือ บนถนนประชาอุทิศ จนพลเมืองดีแจ้งตำรวจเข้าช่วยเหลือ ผู้สื่อข่าวได้พูดคุยกับนายพลกฤษณ์ อายุ 47 ปี ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า ตนเองขับรถจะไปรับลูกที่โรงเรียน จนถึงที่เกิดเหตุบริเวณหน้าวัดทุ่งครุ เขตกรุงเทพฯ ก็ได้ยินเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือมาจากในเก๋ง ว่าช่วยด้วย เขาจับตัวหนูในลักษณะท่านอน โดยเห็นว่าผู้หญิงใส่เสื้อสีเทานอนหงายมือชี้ฟ้า
จากนั้นจึงสังเกตพบว่าที่ข้อมือผู้หญิงถูกมัดข้อมือด้วยเชือกผ้า ใกล้กันมีผู้ชายนั่งประกบเคียงข้างมาด้วยและยืนตัวออกมาเพื่อที่จะดึงตัวผู้หญิงคันดังกล่าวให้เข้าไปในตัวรถและพยายามปิดประตูแต่ไม่สำเร็จ ตนเองจึงร้องตะโกนขอความช่วยเหลือให้รถจักรยานยนต์ที่ตามหลังมาเข้าช่วย จากนั้นตนเองได้บีบแตรรถยนต์ตลอดทางเพื่อขอความช่วยเหลืออีกแรง
กระทั่งมาถึงบริเวณจากนั้นรถเก๋งคันดังกล่าวได้ขับสวนเลนพุ่งขึ้นไป เพื่อที่พยายามจะหนีไป แต่การจราจรติดขัดบริเวณใต้ทางด่วนสี่แยกไฟแดงทุ่งครุ ทำให้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาควบคุมตัวและหยุดรถเก๋งคันดังกล่าวไว้
ตนเองจึงพยายามสังเกตเหตุการณ์ว่าคาดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะช่วยเหลือ หญิงสาวที่อยู่ภายในรถเก๋งคันดังกล่าวไว้ได้ และสามารถควบคุมตัวชายที่นั่งอยู่ในรถเก๋งมาด้วยเรียบร้อยแล้วตนเองจึงขับรถไปต่อเพื่อรับลูก จากนั้นได้มีผู้ชายที่ขับรถจักรยานยนต์แก๊ป ที่เป็นคนที่ เข้ามาช่วยเหลือตอนแรกได้ขับรถยนต์ของคันที่เกิดเหตุคันดังกล่าว ตามเจ้าหน้าที่ตำรวจไปคาดว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจน่าจะควบคุมสถานการณ์ไว้ได้ ส่วนสาเหตุตนเองไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น เพียงแต่เห็นสถานการณ์ไม่ดีจึงถ่ายคลิปนี้ไว้และลงโซเชียลดังกล่าว
จากการสอบถามทราบว่าผู้เสียหาย คือ น.ส.ดาริณี ถูกชาย 2 รายทำร้ายร่างกาย ใช้เชือกมัดแขนและมัดขา ปิดปากด้วยเทปปิดปาก นั่งอยู่บริเวณเบาะโดยสาร เนื่องจากผู้เสียหายได้บอกเลิกและมีแฟนใหม่ ทำให้ผู้ก่อเหตุซึ่งเป็นแฟนเก่าไม่พอใจ ทำทีโทรให้ฝ่ายหญิงลงมารับของ ก่อนกระชากฝ่ายหญิงขึ้นรถ มัดมือ-มัดเท้า กระทั่งเกิดการยื้อยุดฉุดกระชากภายในรถ จนมีพลเมืองดีมาพบ และตำรวจเข้าช่วยเหลือสำเร็จ