'ปศุสัตว์' ชี้ละครช่องดัง วางยาสลบแมว เข้าข่ายทารุณสัตว์ - 'พีต้า' ซัด ผกก.ควรถูกห้ามทำงานกับสัตว์อีก

ปศุสัตว์แถลงปมวางยาแมว ชี้ หากไม่มีสัตวแพทย์วางยาสลบสัตว์ เข้าข่ายความผิดทารุณกรรมสัตว์ มีโทษทั้งจำทั้งปรับ  พร้อมไปยื่นหนังสือ แย้มผู้บริหารช่องวันตอบรับชี้แจง ใน 2 วันนี้

จากประเด็นดรามาละครเรื่องดังวางยาสลบแมว เพื่อเข้าฉากแมวโดนวางยาพิษ จนถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ทั้งในกลุ่มคนรักแมวและสัตวแพทย์ ที่ต่างออกมาบอกว่า การวางยาสลบสัตว์เพื่อเข้าฉาก เสี่ยงอันตรายต่อชีวิตสัตว์มาก และอาจเข้าข่ายทารุณกรรมสัตว์  

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (11 พ.ย.67)  นายสัตวแพทย์บุญญกฤช ปิ่นประสงค์ รองอธิบดีกรมปศุสัตว์  แถลงข่าวเกี่ยวกับกรณีนี้ ระบุว่า ได้ตรวจสอบคลิปฉากแมวดำถูกวางยาพิษ  ซึ่งในฉากแมวดำมีอาการ ตัวกระตุก ตัวเกร็ง พร้อมทั้งมีการขย้อนอาหารออกมา  เบื้องต้นเข้าข่าย การทารุณกรรมสัตว์ เพราะมีการใช้ยาสลบกับแมวที่แสดงในฉาก  

ทางกรมปศุสัตว์ จึงดำเนินการตาม พ.ร.บ. ป้องกันทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์ พ.ศ. 2557 มอบหมายให้กองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ  ส่งหนังสือถึงสถานีโทรทัศน์ เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องกับละครดังกล่าว ทั้งผู้อำนวยการสถานี ผู้จัดละคร และทีมงานที่เกี่ยวข้อง มาให้ถ้อยคำต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ ในวันที่ 18 พฤศจิกายนนี้  เวลา 9.00 น.  เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่า ในวันถ่ายทำฉากดังกล่าว มีสัตวแพทย์ดูแลขั้นตอนการวางยาสลกหรือไม่  พร้อมประสานสัตวแพทยสภา ร่วมตรวจสอบด้วยว่า หากมีสัตวแพทย์มาวางยาสลบแมวจริง จะเข้าข่ายกระทำผิดจรรยาบรรณวิชาชีพหรือไม่

พร้อมทั้งประสานให้ผู้เกี่ยวข้อง นำแมวที่ใช้ถ่ายทำ มามอบให้กับเจ้าหน้าที่กองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ  ตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ด้วยเครื่องมือที่มีความแม่นยำสูง  เพื่อระบุตัวตนของแมว รวมถึงตรวจสุขภาพด้วย

รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวด้วยว่า การกระทำดังกล่าวเข้าข่าย ความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมและการสวัสดิภาพสัตว์ มาตรา 24  ที่ระบุถึงการนำสัตว์ไปใช้งานหรือใช้ในการแสดง เจ้าของสัตว์หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ต้องจัดสวัสดิภาพสัตว์ให้เหมาะสม  ตามหลักเกณฑ์วิธีการและเงื่อนไขที่กำหนด แต่ปัจจุบันยังไม่มีข้อกฎหมายที่กำหนดชัดเจน ถึงการนำสัตว์มาใช้เพื่อการแสดง ซึ่งทางกรมปศุสัตว์ กำลังพิจารณาร่างประกาศฉบับใหม่

รองอธิบดีกรมปศุสัตว์ กล่าวด้วยว่า หลังตรวจสอบข้อมูล  หากกองถ่ายวางยาสลบแมว โดยไม่มีสัตวแพทย์ดำเนินการ ถือว่า เข้าข่ายความผิดการทารุณกรรมสัตว์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันการทารุณกรรมสัตว์ฯ มาตรา 20 มีโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี ปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ  ส่วนการกระทำความผิดตามกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อาทิ  พ.ร.บ. วิชาชีพการสัตวแพทย์ พ.ศ. 2545 หรือ พ.ร.บ. ยา พ.ศ. 2510  พนักงานเจ้าหน้าที่มีอำนาจจะดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงเพิ่มเติมที่เกี่ยวข้องต่อไป

ต่อมา เวลา 14.30 น.  นายสัตวแพทย์ชัยวลัญช์ ตุนาค ผู้อำนวยการกองสวัสดิภาพสัตว์และสัตวแพทย์บริการ กรมปศุสัตว์ เดินทางไปยังตึก จีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ที่ตั้งของสถานีโทรทัศน์ ช่อง one 31 เพื่อยื่นหนังสือถึงผู้บริหารสถานีโทรทัศน์ช่อง one เพื่อให้มาชี้แจงข้อเท็จจริง ฉากวางยาแมวในกองถ่ายละคร "แม่หยัว"

ทันทีที่ไปถึงผู้บริหารช่อง one ได้เชิญนายสัตวแพทย์ชัยวลัญช์  ขึ้นไปพูดคุยบนตึก โดยไม่อนุญาตให้สื่อที่มาทำข่าวขึ้นไปด้านบน  หลังจากพูดคุยกันแล้วเสร็จ  นายสัตวแพทย์ชัยวลัญช์ ลงลิฟท์ ไปยังลานจอดรถ และเดินทางกลับทันที โดยไม่ได้ให้สัมภาษณ์ใดๆกับสื่อ

ผู้สื่อข่าวโทรศัพท์ไปสอบถามผลการหารือ นายสัตวแพทย์ชัยวลัญช์ ให้ข้อมูลว่า ทางช่อง one ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี ในเบื้องต้น ทางช่อง จะชี้แจงข้อเท็จจริงเป็นเอกสาร ให้กรมปศุสัตว์รับทราบก่อน ในช่วง 1-2 วันนี้  จากนั้น เมื่อกรมปศุสัตว์อ่านข้อมูลทางเอกสารแล้ว หากต้องการเรียกตัวบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงเพิ่มเติม ทางช่อง one ก็ยินดีนำตัวบุคคลเข้ามาให้ข้อมูลเพิ่มก่อนวันที่กรมปศุสัตว์ นัดหมาย คือ วันที่ 18 พฤศจิกายนนี้

ส่วนการนำตัวแมวที่อยู่ในฉากวางยามาตรวจสอบนั้น ทางกรมปศุสัตว์ ยืนยันว่า จะต้องนำตัวแมวมาตรวจสอบอย่างแน่นอน โดยจะตรวจสอบใน 2 ส่วน ส่วนแรก ตรวจสอบว่า เป็นแมวตัวเดียวกับที่อยู่ในละครหรือไม่ ส่วนที่ 2 จะเป็นการตรวจสุขภาพของแมวว่า สุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงดีหรือไม่ โดยจะตรวจอย่างละเอียด ที่ศูนย์ราชการกรมปศุสัตว์ จังหวัดปทุมธานี   ส่วนวันที่จะนำแมวมาตรวจนั้น ขึ้นอยู่กับการนัดหมายของกรมปศุสัตว์และช่องone31 จะนัดหมายกันอีกที หลังตรวจสอบเอกสาร ที่ทางช่อง one31 ส่งมาแล้วเสร็จ

ด้านมูลนิธิวอชด็อก ไทยแลนด์ โพสต์เฟซบุ๊กเกี่ยวกับเรื่องนี้ ระบุว่า “ไม่ว่าอย่างไรก็ผิด และความผิดเกิดขึ้นสำเร็จแล้ว  #กองถ่ายละครแม่หยัว

ทางมูลนิธิ รอผลการตรวจสอบจากกรมปศุสัตว์ ที่จะขอเทปรายการการถ่ายทำละครแม่หยัว และนำแมวมาตรวจสุขภาพและอัตลักษณ์  ตามประเด็นสำคัญที่จะต้องขอให้มีการดำเนินการสอบสวน ดังนี้

1. การวางยาสลบในสัตว์ต้องกระทำโดยสัตวแพทย์เท่านั้น ตามกฏหมาย พรบ.วิชาชีพการสัตวแพทย์  และต้องเป็นไปเพื่อการรักษาชีวิตของสัตว์ ไม่ใช่นำสัตว์มาเสี่ยงกับอันตรายที่จะเกิดจากการวางยาสลบ หาก“ผู้เชี่ยวชาญ” ที่ผู้กำกับละครชี้แจงมา มิใช่สัตวแพทย์   ผู้รับผิดชอบกองถ่ายละครและเจ้าของสัตว์ จะต้องมีความผิดตามกฏหมาย พรบ.วิชาชีพการสัตวแพทย์

2. หาก “ผู้เชี่ยวชาญ” ที่ผู้กำกับละครชี้แจงมา เป็นสัตวแพทย์  ก็ต้องมาดูในเรื่องจรรยาบรรณ และ พรบ.ป้องกันการทารุณกรรมฯ  เพราะการวางยาสลบในสัตว์ โดยเจตนาให้สัตว์ได้รับอาหาร จนแสดงอาการขย้อนและกระตุกจนสลบแน่นิ่ง เป็นเจตนาทำให้สัตว์อยู่ในความเสี่ยงและเป็นอันตรายถึงชีวิตจากการใช้ยาสลบ เนื่องจากหลักการทางวิชาการในการทำให้สัตว์สลบ  จะต้องมีการงดอาหารและน้ำอย่างน้อย 12 ชั่วโมงก่อนการใช้ยา เพื่อป้องกันมิให้สัตว์ขย้อนจนสำลักอาหารเข้าสู่หลอดลมขณะอยู่ในภาวะสลบ การใช้ยาระงับประสาท ยากลุ่มนำยาสลบ หรือยาสลบ จะใช้เพื่อต้องการระงับประสาทและความเจ็บปวดเพื่อการรักษาผ่าตัดในกรณีที่จำเป็นเท่านั้น  หรือจะใช้ยาระงับประสาทเพื่อทำการเคลื่อนย้ายสัตว์ อันเป็นเหตุประกอบการรักษาหรือการจัดสวัสดิภาพสัตว์เท่านั้น  ไม่สามารถใช้ได้ถ้าไม่มีเหตุอันควร เพราะตัวยาที่ใช้ในการเหนี่ยวนำให้เกิดการสลบหรือกลุ่มยาสลบ มีผลต่อการเต้นของหัวใจ ความดันเลือด อุณหภูมิของร่างกาย การหายใจ และระยะเวลาที่สัตว์สลบแล้วทำการ recover ตัวเองจากการฟื้นจากยาสลบนั้น สัตวแพทย์ต้องคอยดูแลอย่างใกล้ชิด  มีการเตรียมเครื่องมือกู้ชีพ มีการให้น้ำเกลือ หรือใส่ท่อช่วยหายใจ เพื่อแก้ไขเหตุการณ์เฉพาะหน้าได้ทันท่วงที  

ดังนั้น ในเมื่อมีการกระทำที่ตรงกันข้ามกับหลักการและจรรยาบรรณ เพื่อหวังประโยชน์จากการใช้งานสัตว์ ผู้รับผิดชอบกองถ่ายละคร เจ้าของสัตว์ และสัตวแพทย์ จึงมีความผิดทารุณกรรมสัตว์ ตามกฏหมายป้องกันการทารุณกรรมและการจัดสวัสดิภาพสัตว์พ.ศ. 255”

ทีมข่าวสอบถามไปที่คุณสบันงา นนธะระ หัวหน้าฝ่ายกฎหมายมูลนิธิ วอชด็อก ไทยแลนด์ ก็ย้ำชัดเจนว่า ไม่ว่าจะอย่างไร ความผิดก็ชัดเจนและสำเร็จแล้ว  พร้อมกับจะแจ้งความดำเนินคดีในสัปดาห์หน้า เพราะเป็นคดีอาญา

-------------------------

ต่อมา "ป้อน นิพนธ์ ผิวเณร“ ผู้บริหาร ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายผลิตละคร บริษัท เดอะ วัน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) หัวเรือใหญ่แห่งช่องวัน 31 เรียกประชุมฝ่ายละครช่อง one 31 เป็นการด่วนทันที ทั้งผู้กำกับ-คนเขียนบท-ผู้จัดละคร กว่า 100 คน เพื่อชี้แจงมาตรการใหม่ในการทำงานห้ามนำสัตว์มาทำคอนเทนต์ที่เสี่ยงอันตราย รวมถึงกระทบไปถึงร่างกายและจิตใจของสัตว์อย่างเด็ดขาด

หากจำเป็นต้องมีสัตว์เข้ามาประกอบต้องได้รับการดูแลที่เหมาะสม หรือใช้เทคนิคอื่นในการถ่ายทำแทน ซึ่ง ป้อน นิพนธ์ ในฐานะผู้รับผิดชอบเรื่องนี้ได้ออกมาแสดงความเสียใจกรณีวางยาสลบแมวในละคร จนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์ #แบนแม่หยัว ร้อนแรงในโซเชียลว่า…

"ก่อนอื่นต้องขอแสดงความเสียใจ ขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ไม่ว่าจะเป็นผู้ชมละคร คนรักสัตว์ และผู้ที่เกี่ยวข้องทุก ๆ ฝ่าย วันนี้ได้มีการประชุมไม่ว่าจะเป็นผู้กำกับคนเขียนบท ผู้จัดของช่อง one 31 เพื่อมารับทราบนโยบาย ก็คือว่าเราจะไม่อนุญาตนำสัตว์มาทำคอนเทนต์ใด ๆ ในช่องให้เกิดความเจ็บปวดไม่ว่าจะเป็นร่างกายหรือจิตใจ โดยเราได้ตระหนักดีว่าสัตว์ทุกตัวมันก็เหมือนคน เขามีเลือดเนื้อ เขามีชีวิต เขามีจิตใจ เพียงแต่เขาพูดไม่ได้แค่นั้นเอง"
----------------------------

PETA Asia ฉะ วางยาสลบแมว เป็นการกระทำที่บ้าบิ่น อันตราย โหดร้าย  ชี้ ผกก.ควรถูกห้าม ไม่ให้ทำงานกับสัตว์อีก

ขณะเดียวกันนายเจสัน เบเกอร์ รองประธานอาวุโส PETA เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่า การวางยาสลบแมวในกรณีที่จำเป็นทางการแพทย์ ย่อมเสี่ยงอยู่เสมอ ดังนั้น การวางยาสลบเพื่อถ่ายทำฉากในรายการโทรทัศน์ ยิ่งเป็นการกระทำที่บ้าบิ่น อันตราย และโหดร้าย  นายสันต์ ศรีแก้วหล่อ ควรถูกห้ามไม่ให้ทำงานกับสัตว์อีกต่อไป ประชาชนรู้สึกโกรธเคือง โดยเฉพาะทั้งๆ ที่รู้ว่าในปัจจุบันมีเทคโนโลยี CGI (การสร้างภาพจากคอมพิวเตอร์), AI (ปัญญาประดิษฐ์) และหุ่นยนต์จำลองสิ่งมีชีวิต (animatronics) ที่สามารถทำได้ทุกอย่าง

การทารุณกรรมไม่ควรมีที่ทางในวงการบันเทิง หากไม่สามารถสร้างรายการโทรทัศน์โดยไม่ทำให้สัตว์ต้องเสี่ยงชีวิตได้ แสดงว่าคุณกำลังทำธุรกิจที่ผิด