บริษัททำแอปหวย แจ้งความ 'ทนายตั้ม' ไม่จ่ายค่าจ้าง 20 ล้าน - เพจดังซัดเส้นเงินมัดตัว รับโอน 71 ล้าน

ผกก.สน.บางซื่อ ให้ข้อมูลกองปราบ ปมเมียคนสนิท 'ทนายตั้ม' ลงบันทึกประจำวันอ้างถูกสแกมเมอร์ดูดเงินกว่า 2 ล้าน แย้งกับทนายตั้มที่ให้การว่าถูกดูดเงินไป 39 ล้าน ด้านบริษัททำแอปฯ นาคีแจ้งความ ทนายตั้มว่าจ้างให้ทำแอปหวย 20 ล้าน แต่ถึงกำหนด กลับไม่ชำระเงิน อ้างนายทุนยกเลิกโครงการ เพจดังชี้เส้นเงินชัดหลักฐานมัดตัว 

วานนี้ (7 พ.ย. 67) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในเวลา 17.00 น. พนักงานสอบสวนกองปราบปราม ได้เรียก พ.ต.อ.ภูวดล อุ่นโพธิ ผกก.สน.บางซื่อ มาให้ข้อมูล กรณีที่นายษิทรา เบี้ยบังเกิด หรือทนายตั้ม ได้พา น.ส.สารินี ภรรยาของนายนุ คนสนิทของทนายตั้ม ไปลงบันทึกประจำวันที่ สน.บางซื่อ เมื่อวันที่ 23 พ.ค. 2566 ว่า ถูกดูดเงินจากบัญชีที่ใช้โอนบิทคอยน์ เพราะโอนเงินไปให้สแกมเมอร์ที่อ้างเป็นดาราจีน ตามที่ทนายตั้มอ้างว่า เจ๊อ้อย วานให้โอนเงินเป็นสกุลบิทคอยท์

นอกจากนี้ ปรากฎว่าหลังจากนั้นบัญชีที่เชื่อมต่อกับ Gmail ของ น.ส.สารินี รวมถึงแอปพลิเคชัน กระเป๋าเงินออนไลน์ ถูกระงับ ไม่สามารถเข้าได้อีกเลย จึงขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสืบสวนตรวจสอบบัญชีปลายทางว่าเป็นของใคร และเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายหรือไม่  จึงไปแจ้งความต่อพนักงานสอบสวน เพื่อขอให้ดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดให้ถึงที่สุด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเข้าให้ข้อมูลครั้งนี้ของ พ.ต.อ.ภูวดล  เพื่อคลายข้อสงสัยและประเด็นที่ว่า มีการดูดเงินจำนวน 39,000,000 บาทจริงหรือไม่ และเหตุใดถึงได้ลงในบันทึกประจำวันเพียงแค่จำนวน 2,276,400 บาทเท่านั้น

จากกรณี มาดามอ้อย ให้สัมภาษณ์ในรายการคุยทุกเรื่องกับสนธิ Sondhitalk  EP.3 ที่เปิดเผยว่า ทนายตั้มชักชวนลงทุนทำธุรกิจหวยออนไลน์ โดยอ้างว่า นอท กองสลากพลัส ไม่สามารถทำได้แล้ว จึงจะเข้าไปเสียบ แถมยังมีการอ้างชื่อนักการเมืองดังระดับรัฐมนตรีหลายคน ซึ่งไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องด้วย

จนสุดท้ายมาดามอ้อยตัดสินใจร่วมลงทุน โดยทนายตั้มบอกว่า ถ้าจะทำ ก็จะต้องมีแอปพลิเคชัน ต้องมีการเขียนโปรแกรม วางระบบต่าง ๆ โดยทนายตั้มบอกว่า รู้จักกับผู้เชี่ยวชาญที่พัฒนาเว็บไซต์ และระบบโปรแกรม ทางมาดามอ้อยจึงตกลงให้ทนายตั้มไปติดต่อว่าจ้างโปรแกรมเมอร์ และมีการนำสัญญาใบเสนอราคามาให้ดู และมาดามอ้อยได้ลงนามในสัญญาเรียบร้อย ทนายตั้มก็รับปากว่าจะดำเนินการตามสัญญา

ต่อมา ทนายตั้มขอให้มาดามอ้อยโอนเงินชำระค่าจ้างเขียนโปรแกรมให้คู่สัญญา (คนทำแอปฯ) ในวันที่ 15 ก.พ. 66 แต่มาดามอ้อยยังทำเอกสารไม่เสร็จ จึงขอเลื่อนไปโอนเงินวันที่ 16 ก.พ. 66  โดยโอนเงินจำนวน 71 ล้านบาท เข้าบัญชีของทนายตั้ม ซึ่งทนายตั้มบอกว่าจะนำเงินไปชำระให้คู่สัญญาที่ทำแอปฯ ด้วยตัวเอง  

แต่หลังจากจ่ายเงินไปแล้ว มีการติดตามสอบถามความคืบหน้าการทำแอป แต่ทนายตั้มกลับบอกว่า ยังทำไม่เสร็จ จนวันที่ 1 ก.ย.67 ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดการส่งมอบงานตามสัญญา มาดามอ้อยยังไม่ได้รับมอบระบบโปรแกรมตามสัญญา จึงมอบอำนาจให้ทนายติดตามทวงเงินจำนวน 71 ล้านบาท คืนจากทนายตั้ม ในวันที่ 8 ก.ย.67 แต่ทนายตั้มไม่ได้คืนเงิน และไม่ติดต่อกลับ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัทผู้พัฒนาทำแอปฯ นาคี ไปแจ้งความที่ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี โดยให้การว่า บริษัทตนเองพัฒนาโปรแกรมเพื่อเสนอขายระบบให้ลูกค้า และบุคคลทั่วไป โดยตั้งราคาขายไว้ที่ 20 ล้านบาท ซึ่งราคานี้ รวมทั้งอุปกรณ์อื่น ๆ เช่น เครื่องสแกนล็อตเตอรี่เข้าระบบตู้เซฟที่เก็บล็อตเตอรี่รวมทั้งอุปกรณ์อื่น ๆ เมื่อซื้อไปแล้วสามารถใช้งานได้ทันที

แต่ตอนที่พัฒนาเสร็จ บรรดาแพลตฟอร์มหวยออนไลน์ต่าง ๆ ถูกตรวจสอบ จึงไม่กล้าเปิดตัว เลยนำเรื่องมาปรึกษาทนายตั้ม ทำให้ทนายตั้มทราบว่า บริษัทมีแอปฯ นาคี จนเดือน พ.ย. 65 ทนายตั้มบอกว่า หานายทุนที่จะมาซื้อแอปนาคีได้แล้ว แต่ไม่ให้ทางบริษัทติดต่อไปทางนายทุนโดยตรง  แต่หลังจากส่งมอบสัญญาให้ทนายตั้ม กลับไม่ได้รับการติดต่อ หรือความคืบหน้าใด ๆ

จนวันที่ 15 ก.พ. 66 ซึ่งเป็นวันครบกำหนดชำระเงินค่าจ้างเขียนโปรแกรม บริษัทก็ไม่ได้รับชำระเงินจากคู่สัญญาแต่อย่างใด โดยทนายตั้มอ้างว่าลูกค้ายกเลิกโครงการ ดังนั้น ทางบริษัทจึงไปแจ้งความที่ สภ.แก่งคอย จ.สระบุรี ในวันที่ 16 ก.พ. 66 เพื่อลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่า ทางบริษัทไม่ได้เป็นฝ่ายผิดเงื่อนไข

จึงเป็นที่มา ที่เมื่อวานนี้ (7 พ.ย. 67) เพจดาวแปดแฉก โพสต์ข้อความว่า “เส้นเงินมัด!! ยอดเงินรับโอน 71 ล้านบาท นำไปซื้อแคชเชียร์เช็คจ่ายค่าบ้านหรู เงินที่เหลือ อยู่ในบัญชีเกือบ 30 ล้าน ตำรวจบอกว่าอายัดไว้หมดแล้ว”

ด้าน นายอัจฉริยะยังยืนยันว่าเงินจำนวน 39 ล้านบาท 'น้องมี่' เป็นคนไปเบิกเงินจำนวนนี้มาให้กับทนายตั้ม และทนายตั้มได้ไปทั้งหมด 29 ล้านบาท ส่วน 'นายนุ' ได้ไป 10 ล้านบาท

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/-YqitG-N2tA