สังคม

ลอบผลิตพลุไล่นก ระเบิดสนั่น หญิงเจ้าของบ้านมือขาด เจ็บสาหัส ลูกชายเล่านาทีเกิดเหตุ

โดย passamon_a

7 พ.ย. 2567

16 views

เมื่อวันที่ 6 พ.ย.67 เวลาประมาณ 09.00 น. พ.ต.อ.ชัยชาญพัฒน์ ยติรัตนกัญญา ผกก.สภ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี รับแจ้งเหตุพลุระเบิดที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 6 ต.หนองราชวัตร อ.หนองหญ้าไซ จ.สุพรรณบุรี จึงประสานเจ้าหน้าที่หน่วย EOD, พฐ.จังหวัดสุพรรณบุรี และชุดสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดสุพรรณบุรี ไปตรวจสอบ  


ที่เกิดเหตุเป็นบ้านไม้ผสมปูนชั้นเดียว สภาพพังเสียหายจากแรงระเบิดทั้งหลัง ภาพจากมุมสูงจะเห็นว่า หลังคาบ้านถูกแรงระเบิดจนหายไปทั้งแถบ บริเวณโดยรอบพบเศษประทัดจำนวนมาก เศษปูนและไม้ซึ่งเป็นซากชิ้นส่วนของบ้านที่ถูกแรงระเบิด กระจัดกระจายเต็มพื้นที่ พบกองเลือดของผู้บาดเจ็บ 1 ราย คือ นางบำรุง อายุ 62 ปี เจ้าของบ้านและผู้ประกอบการพลุลูกบอลไล่นก ถูกแรงระเบิดจนแขนขวาขาดกระเด็น ตามลำตัว ดวงตา ศีรษะ ถูกสะเก็ดระเบิด ใบหน้าฉีกขาด หน้าอกฉีกขาด บาดเจ็บสาหัส เจ้าหน้าที่และญาติเร่งนำส่งโรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช


จากการสอบถาม นายเนรมิต ลูกชายของผู้บาดเจ็บ กล่าวว่า ที่บ้านมีผู้อาศัยอยู่ 5 คน ก่อนเกิดเหตุช่วงสาย ๆ พ่อไปธุระข้างนอก ลูกชายตนไปโรงเรียน ตนและภรรยานั่งอยู่หลังบ้าน ส่วนแม่นั่งทำพลุไล่นกตรงหน้าบ้านคนเดียว จากนั้นตนก็ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น เลยรีบวิ่งมาดู เห็นแม่นอนจมกองเลือด พอตั้งสติได้ก็รีบอุ้มแม่ขึ้นรถไปส่ง รพ.หนองหญ้าไซ กับพ่อที่กำลังเดินทางกลับมาพอดี


ลูกชายให้ข้อมูลว่า นางบำรุง ผู้เป็นแม่ รับจ้างประกอบพลุไล่นก โดยได้ค่าจ้าง 1,000 ลูก ประมาณ 100 บาท วันหนึ่งก็ได้ประมาณ 200-300 บาท ที่ผ่านมาตนก็เคยเตือนแล้ว เพราะมันอันตราย แต่แม่ก็ยังขอทำต่อ เนื่องจากต้องการมีรายได้ช่วยเลี้ยงครอบครัว พอมาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ก็เสียใจมาก ตอนนี้บ้าน รถยนต์ รถจยย. ก็พังเสียหายทั้งหมด แม่ก็อาการสาหัส โชคดีที่คนอื่น ๆ ในครอบครัวรอดชีวิตหวุดหวิด ตอนนี้ยังเครียดมาก เสียใจมาก ยังทำใจไม่ได้กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น


ด้าน นางสาวธัญญารัตน์ กาญจนรัตน์ นายอำเภอหนองหญ้าไซ กล่าวว่า จากการตรวจสอบบ้านที่เกิดเหตุ ไม่ได้ขออนุญาตผลิตหรือบรรจุพลุและดอกไม้เพลิง แต่เป็นการลักลอบทำ โดยผู้บาดเจ็บเพิ่งไปรับพลุมาบรรจุเมื่อ 2 วันก่อน เบื้องต้นสันนิษฐานว่า อาจจะเกิดการเสียดสีกันของดินเทาหรือดินระเบิด ระหว่างบรรจุ จนทำให้เกิดประกายไฟและระเบิดขึ้น โดยเจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้ระเบิด หรือชุด EOD ต้องเข้าเคลียร์พื้นที่ เพราะในที่เกิดเหตุพบพลุลูกบอลไล่นกจำนวนมาก ก่อนจะให้เจ้าหน้าที่ชุดพิสูจน์หลักฐานตรวจสอบอย่างละเอียด


หลังจากนี้จะขยายผลต่อว่า บ้านเรือนในละแวกใกล้เคียงมีการรับจ้างบรรจุพลุไล่นกแบบนี้อีกหรือไม่ ซึ่งพลุลูกบอลไล่นกแบบนี้ ส่วนใหญ่ชาวนาจะนำมาใช้จุดไล่นกที่เข้าไปกวนในที่นาหรือในสวน และก่อนหน้านี้เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง เคยลงพื้นที่มาเตือนชาวบ้านไปแล้วครั้งหนึ่ง เพราะใกล้เทศกาลลอยกระทง ผู้ประกอบการมักเร่งผลิตพลุ ดอกไม้ไฟออกมาจำหน่ายให้ทันช่วงเทศกาล จึงขอเตือนประชาชน ผู้ประกอบการ ร้านค้าต่าง ๆ หากจะผลิต บรรจุ หรือจำหน่ายพลุ ดอกไม้ไฟ จะต้องมีใบอนุญาตผลิต ต้องขออนุญาตก่อตั้งโรงงาน หรือขออนุญาตมีพลุดอกไม้ไฟเพื่อจำหน่าย


ด้าน พล.ต.ต.วัชรินทร์ ประสพดี ผบก.ภ.จว.สุพรรณบุรี เปิดเผยว่า ได้ส่งทีมพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่ EOD เก็บกู้วัตถุระเบิดเข้าตรวจสอบพื้นที่ โดยกันพื้นที่อันตรายไว้ และเก็บวัตถุอันตรายทั้งหมด เบื้องต้นพบดินเทาที่ใช้ประกอบพลุลูกบอลไล่นกจำนวนหนึ่งในถังพลาสติก และพบปลอกพลุลูกบอลไล่นก ประมาณ 1,000 ลูก หล่นในที่เกิดเหตุ รวมทั้งอุปกรณ์ต่าง ๆ จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน  


ที่ผ่านมาตำรวจและฝ่ายปกครอง ก็ได้ออกตรวจสอบเป็นประจำ ซึ่งรายนี้เคยถูกจับกุมไปเมื่อเดือน ส.ค.ที่ผ่านมา แล้วกลับมาลักลอบทำอีกครั้ง โดยรับมาจากในหมู่บ้าน ซึ่งได้สั่งชุดสืบสวนดำเนินการตรวจสอบในพื้นที่แล้วว่าเป็นใคร ส่วนสาเหตุ ไม่พบอุปกรณ์ไฟฟ้าใกล้เคียงกับจุดเกิดเหตุ คาดว่ามาจากความประมาท อาจเกิดการเสียดสีของดินเทาที่ตกกับพื้น จนทำให้เกิดประกายไฟแล้วระเบิด


ด้าน นายกองเอก เชษฐา ขาวประเสิรฐ รอง ผวจ.สุพรรณบุรี กล่าวว่า ได้สั่งประชุมเร่งด่วนเพื่อวางมาตรการขั้นเด็ดขาด เพราะที่ผ่านมาเกิดเหตุระเบิดขึ้นในพื้นที่บ่อยครั้ง นำมาซึ่งความสูญเสีย ฝ่ายปกครองและตำรวจเอง ก็สนธิกำลังออกตรวจสอบกันอยู่เป็นประจำ และจับกุมอยู่บ่อยครั้ง แต่ก็ยังมีชาวบ้านที่ลักลอบทำอยู่ ส่วนใหญ่อ้างว่าเป็นการหารายได้เลี้ยงครอบครัว โดยขณะนี้ทางจังหวัดสั่งการให้นายอำเภอ ผู้นำชุมชน ทั้งผู้ใหญ่บ้าน กำนัน นายก อบต. ได้ตรวจสอบอย่างละเอียด ภายใน 24 ชม. หากพบลักลอบผลิตพลุให้ตักเตือน ถ้ายังไม่เลิกทำ จะต้องถูกดำเนินคดี เนื่องจากขณะนี้จังหวัดสุพรรณบุรีไม่ให้มีการออกใบอนุญาตผลิตหรือจำหน่ายพลุ วัตถุอันตราย แต่อย่างใด


ตอนนี้ความช่วยเหลือเบื้องต้น ได้นำทีมของ พม. นำทีมนักจิตวิทยา มาเยียวยาจิตใจครอบครัวผู้บาดเจ็ลและนำสิ่งของอาหารแห้งมามอบให้ก่อน  ส่วนการซ่อมแซมบ้าน ก็จะพิจารณาต่อไป พร้อมฝากเตือนไปยังชาวบ้านที่ลักลอบบรรจุพลุ ให้หยุดทำ เพราะอันตรายถึงชีวิต และเกิดเหตุการณ์แบบนี้ซ้ำไปมาหลายครั้งแล้ว จึงอยากให้เป็นบทเรียนไม่ให้เกิดความสูญเสียขึ้นอีก


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Q6CGIns5EFQ

คุณอาจสนใจ