สังคม

'เจ๊อ้อย' ให้ปากคำวันที่ 3 ยันโอนเงินให้ 'นาง ส.' คนใกล้ชิดทนายดัง 39 ล้าน

โดย nattachat_c

4 พ.ย. 2567

39 views

วานนี้ (3 พ.ย. 67) เป็นวันที่ 3 ที่ นางจตุพร อุบลเลิศ หรือ 'มาดามอ้อย' หรือ 'เจ๊อ้อย' เศรษฐีนีชาวไทยที่อาศัยอยู่ในประเทศฝรั่งเศส  เข้าให้ปากคำกับพนักงานสอบสวนกองบังคับการปราบปราม ในคดีพิพาทเรื่องเงิน 71 ล้านบาท ที่แจ้งความเอาผิดกับทนายความชื่อดัง จนคดีเป็นที่ฮือฮาในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา หลังจากก่อนหน้านี้ได้เข้ามาให้ปากคำกับพนักงานสอบสวน กองบังคับการปราบปรามแล้วจำนวน 2 ครั้ง คือ วันที่ 31 ตุลาคม ประมาณ 12 ชั่วโมง และวันที่ 1 พฤศจิกายน ประมาณ 11 ชั่วโมง รวมสอบปากคำไปแล้วไม่ต่ำกว่า 23 ชั่วโมง


เวลา 10.50 น. นายสมชาติ พินิจอักษร ทนายความประจำตัวมาดามอ้อย เปิดเผยกับสื่อมวลชนผ่านโทรศัพท์ ว่า มาดามอ้อยเข้ามาให้ปากคำกับทางตำรวจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบปากคำ พร้อมกับให้ข้อมูลว่า น่าจะสอบปากคำใช้เวลาไม่นาน แต่ยังไม่ทราบว่ามีประเด็นอะไรบ้าง


ผู้สื่อข่าว พีพีทีวี รายงานว่า ประเด็นที่มาของเงิน 39 ล้านบาท ก่อนหน้านี้ ระบุว่า มาดามอ้อยโอนใช้หนี้ให้คนใกล้ชิดทนายตั้ม มีข้อมูลว่า เดิมทีมาดามอ้อยต้องการจ้างนักร้องชื่อดังชาวจีน 'เฉินคุน' มาแสดง ซึ่งทนายตั้มรับอาสาดำเนินการให้


จากนั้น ก็อ้างว่าให้คนสนิทซึ่งเป็นสามีภรรยาชื่อ นายนุ และนางสาวสา โอนบิตคอยน์มูลค่า 39 ล้าน จ่ายเป็นค่าตัว เนื่องจากนักร้องดังคนนี้รับเฉพาะบิตคอยน์ ก่อนจะอ้างว่าหลังโอน โดนแก๊งหลอกลวงทางออนไลน์หลอกเอาบิตคอยน์ไป ทนายตั้มจึงพานายนุและนางสาวสา ไปหามาดามอ้อย ให้ช่วยโอนเงินคืนให้ มาดามอ้อยจึงเขียนเช็คให้ 39 ล้านบาท ซึ่งมีข้อมูลว่า นายนุนั้นมีความเชี่ยวชาญเรื่องคริปโต และเงิน 39 ล้านที่โอนไปบัญชีปลายทางเป็นของนางสาวสา ซึ่งเป็นภรรยาของนายนุเอง ขณะที่นางสาวสายังสนิทสนมกับคนใกล้ชิดทนายคนดัง ซึ่งขณะนี้ ตำรวจมีข้อมูลอยู่ในมือแล้ว  


ส่วนที่มีข้อมูลก่อนหน้านี้ว่า นางสาวสา เป็นข้าราชการ อบต.แห่งหนึ่งใน อ.นางรอง จ.บุรีรัมย์ ชุดสืบสวนได้เข้าไปพบ น.ส.สาริณี นุชนารถ อายุ 46 ปี ที่ อบต. เพื่อสอบถามหาการเชื่อมโยง เบื้องต้น ไม่พบว่ามีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีเส้นทางการเงิน แต่ชื่อกับนามสกุลไปตรงกัน เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงไม่ติดใจ โดย น.ส.สาริณี บอกว่า ตกใจเมื่อเห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจมาถึงที่ทำงาน โดยเฉพาะมาถามถึงเงิน 39 ล้าน เพราะตนไม่เคยรู้จักมาดามอ้อย และทนายตั้มมาก่อน ใช้ชีวิตอยู่ตามบ้านนอก ไม่เคยใช้ชีวิตหรูหรา ซึ่งตนก็พร้อมที่จะให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่หากต้องการข้อมูลอื่น ส่วนตัวมั่นใจไม่รู้จัก ไม่เคยเห็น รู้เพียงว่าทั้งสองเป็นข่าวเท่านั้น


ทั้งนี้ คดีมาดามอ้อย ถูกโกงเงิน 71 ล้าน ถือเป็นคดีหลักโดยมีกรณี...

  • เงิน 39 ล้าน
  • เงินค่าออกแบบโรงแรม 9 ล้าน
  • เงินค่าออกแบบบ้านสามี 3 ล้าน
  • เงินซื้อรถเบนซ์ 13 ล้าน ที่โดนฟันส่วนต่างราคาไปประมาณ 5 ล้าน  


ในแง่ข้อกฎหมาย การที่เหยื่อคนเดียวโดนโกงซ้ำ ๆ เป็นความผิดตามมาตรา 3 (18) แห่ง พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 เรียกว่า 'ฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ' คือการกระทำซ้ำ ๆ กันมากกว่า 1 ครั้ง กระทำผิดเป็นสันดาน มีลักษณะที่จะกระทำเช่นนั้นต่อ ๆ ไป นี่จึงไม่ใช่แค่คดีฉ้อโกง แต่เข้าข่ายเป็นคดีฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งจะส่งผลให้พนักงานสอบสวนออกหมายจับได้ทันทีไม่ต้องมีหมายเรียก และ ปปง.จะมีบทบาทเข้ามาอายัดทรัพย์สิน ตรวจสอบทรัพย์สินได้



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/q70DlrVjFeo

คุณอาจสนใจ

Related News