สังคม
เปิดนาทีกลุ่มโจ๋รุมทำร้ายตำรวจ ต้องวิ่งหนีตายในปั๊มน้ำมัน ปมเหตุรถเฉี่ยวชน
โดย passamon_a
4 พ.ย. 2567
701 views
จากกรณีกลุ่มวัยรุ่นก่อเหตุรุมทำร้าย ร.ต.อ.จิตต์เกษม จันทร์รัก ตำรวจชุดควบคุมฝูงชน กองกำกับการอารักขา ภายในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง ที่ตำบลบางแก้ว อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อเวลา 23.30 น. วันที่ 2 พ.ย.ที่ผ่านมา
โดย ร้อยตำรวจเอก ผู้เสียหาย ระบุว่า ขับรถมาตามลำพังแล้วไปเฉี่ยวชนกับรถจักรยานยนต์ของวัยรุ่นคู่กรณี จนมีการขับรถไล่ตามมาในปั๊ม ก่อนจะคุยตกลงกันไม่ได้ แล้วถูกอีกฝ่ายไปตามพรรคพวกเกือบสิบคนมารุมทำร้ายร่างกาย จนร้อยตำรวจเอกได้รับบาดเจ็บต้องวิ่งหนี ส่วนคู่กรณีหลังก่อเหตุพากันแยกย้ายหลบหนี
เมื่อวันที่ 3 พ.ย.67 ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในปั๊มที่เกิดเหตุ สามารถจับภาพ ร้อยตำรวจเอกจิตต์เกษม ผู้เสียหาย ขับรถเก๋งสีขาวเข้ามาจอดในปั๊ม จากนั้นมีวัยรุ่นหญิง 2 คน เสื้อสีแดงและสีส้ม ที่ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดแถวหน้าร้านสะดวกซื้อ มุมล่างสุดของกล้อง แล้วเดินไปคุยกับผู้เสียหาย โดยก้มลงดูที่ด้านหลังรถของผู้เสียหาย คล้ายกับดูร่องรอยการเฉี่ยวชน และพูดคุยกับพักใหญ่ สักพักมีชายวัยรุ่นอีก 2 คน เดินเข้ามาสมทบ และดูร่องรอยการเฉี่ยวชนที่ท้ายรถ
หลังจากผู้เสียหายกับกลุ่มวัยรุ่นพูดคุยกันสักพัก กลุ่มวัยรุ่นก็เดินกลับมาที่รถจักรยานยนต์ของตัวเอง วัยรุ่นหญิงเสื้อแดงโทรศัพท์หาใครบางคน ก่อนจะเลื่อนรถจักรยานยนต์ไปจอดที่ท้ายรถเก๋งของผู้เสียหาย ซึ่งขณะนั้นผู้เสียหายคุยโทรศัพท์อยู่ ส่วนวัยรุ่นชาย 2 คน ก็ขี่รถจักรยานยนต์มาจอดต่อท้ายเช่นกัน
แต่หลังจากคุยกันไปพักใหญ่ เหมือนจะตกลงกันไม่ได้ กระทั่งหญิงสาวเสื้อแดงเดินแยกตัวออกมาคุยโทรศัพท์อีกรอบ แล้วมายืนปรึกษากันกับวัยรุ่นชาย 2 คน สักพักมีรถเก๋งสีดำขับเข้ามาจอดต่อท้ายรถผู้เสียหาย คนในรถ 3 คน เดินลงมาคุยกับผู้เสียหาย หลังจากนั้นมีรถกระบะสีขาวอีกคัน ขับมาจอดหน้าร้านสะดวกซื้อ มีชาย 3 คน หญิง 1 คน เดินลงจากรถกระบะ ตรงไปคุยกับผู้เสียหายพักใหญ่ แล้วทำท่าเหมือนจะแยกย้ายกัน แต่เกิดการผลักอกกันระหว่างผู้เสียหายกับคนในกลุ่มผู้ก่อเหตุ จนกลุ่มผู้ก่อเหตุวิ่งเข้ามาชกต่อยรุมทำร้ายผู้เสียหาย จนต้องวิ่งหนี แล้วไปสะดุดล้มที่ป้ายไฟริมถนน กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงเข้าไปรุมกระทืบ
พอผู้เสียหายลุกขึ้นมาได้ ก็รีบวิ่งไปที่ร้านสะดวกซื้อ แต่สะดุดล้มอีกรอบ ก่อนจะรีบลุกเข้าไปหลบในร้าน โดยที่กลุ่มผู้ก่อเหตุไม่ได้ตามเข้าไป แต่ยืนท้าทายอยู่หน้าร้าน จากนั้นก็แยกกันไปที่รถ พอเห็นผู้เสียหายเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ ก็ทำท่าจะเข้าไปทำร้ายอีก ผู้เสียหายจึงเดินกลับไปที่หน้าร้านใหม่ แล้วมีการพูดคุยกันสักพัก ก่อนที่กลุ่มผู้ก่อเหตุจะขับรถออกจากปั๊ม ส่วนผู้เสียหายเดินกลับมาที่รถของตัวเอง ขึ้นรถและขับออกไปเช่นกัน
ผู้สื่อข่าวสอบถาม ร้อยตำรวจเอกจิตต์เกษม ผู้เสียหาย ซึ่งมาที่ปั๊มน้ำมันที่เกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุ ตนขับรถมาตามเส้นทาง และกำลังจะเลี้ยวซ้ายเข้าซอยบางนาตราด โดยตนเปิดไฟเลี้ยวแล้ว แต่พอดีมีรถพ่วงขับผ่านมา ตนจึงชะลอรถเพื่อให้รถพ่วงขับผ่านไปก่อน หลังจากนั้นก็มีรถจักรยานยนต์มาชนท้ายตน ตนจึงนัดมาเคลียร์ความเสียหายที่ปั๊ม ซึ่งหญิงวัยรุ่นที่ขี่รถมาชนท้ายตน บอกว่าจะโทรตามพี่มา ตนก็ไม่ได้คิดอะไร และไม่ได้ระวังตัวอะไร เพราะไม่ได้มีปากเสียง หรือมีเรื่องกันเลย
แต่สักพัก พรรคพวกของวัยรุ่นหญิงก็มาที่ปั๊ม แล้วมากล่าวหาตนว่าจะไถเงินเด็ก ตอนนั้นตนกำลังโทรเรียกประกันอยู่ เลยชี้ให้ดูรอยถูกชน แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุกลับบอกว่าไม่น่าจะใช่รอยชน ตนจึงเอาโทรศัพท์ถ่ายรูปรถคันที่ชนตนไว้ เพื่อเป็นหลักฐาน เพราะรถไม่มีป้ายทะเบียน รวมทั้งถ่ายรูปรถของกลุ่มผู้ก่อเหตุ ที่เข้ามาหาเรื่องตน แต่คนในกลุ่มนั้น กลับเข้ามาประชิดตัวและบอกว่า ถ้าถ่ายรูปไปเผยแพร่ จะฟ้องร้องดำเนินคดี ก่อนจะเดินไปหยิบของบางอย่างในรถ ตนเห็นท่าไม่ดี จึงพยายามถอย และวิ่งหนี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุตามมาทำร้ายตน แม้ว่าตอนที่ตนสะดุดล้ม ก็ยังเข้ามาทำร้าย โดยมีผู้ชายประมาณ 6 คน หญิง 4 คน ยืมล้อมตนไว้ จนตนต้องวิ่งหนีเข้าร้านสะดวกซื้อ ซึ่งตนได้รับบาดเจ็บ ถลอกตามร่างกาย และมีแผลบวมปูดที่ใบหน้า จึงไปแจ้งความที่ สภ.บางแก้ว
ต่อมา ช่วงเที่ยง วันที่ 3 พ.ย.67 ชุดสืบสวน สภ.บางแก้ว เชิญตัวกลุ่มผู้ที่ก่อเหตุมาสอบปากคำ โดยกลุ่มที่ก่อเหตุมีทั้งหมด 10 คน แต่มาสอบปากคำเพียง 6 คน โดยคู่กรณีทั้งสองฝ่ายต่างยืนยันจะไม่ยอมความ และจะดำเนินคดีกับคู่กรณี รวมทั้งไปใช้สิทธิ์ในชั้นศาลทั้ง 2 ฝ่าย
ผู้สื่อข่าวสอบถาม หนึ่งในหญิงสาวที่ขี่รถชนท้ายผู้เสียหาย บอกว่า พวกตนขี่รถเข้ามาในซอยตามปกติ แต่ก่อนถึงปั๊มน้ำมัน ตนหักหลบรถ จนไปเฉี่ยวกับรถของคู่กรณี และไปพูดคุยกันที่ปั๊ม ซึ่งคู่กรณีบอกว่ารถตนไปเฉี่ยวรถเก๋งเขาจนเกิดรอยขูดบริเวณเหนือฝาถังน้ำมัน แต่เท่าที่ตนรู้สึก ขณะเฉี่ยวกันมีเพียงรองเท้าของตนที่ไปโดน และรองเท้าก็ไม่ได้อยู่สูงจนจะไปทำให้เกิดรอยบริเวณเหนือฝาถังน้ำมันได้ จากนั้นหญิงสาวก็ไม่ให้สัมภาษณ์อีก โดยผู้ปกครองเข้ามาห้ามไว้
หลังจากสอบปากคำนานกว่า 2 ชั่วโมง กลุ่มผู้ก่อเหตุและผู้ปกครอง เดินออกมาจากห้องสืบสวน เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่าอยากจะชี้แจ้งอะไรหรือไม่ ทางผู้ปกครองยืนยันว่า ไม่มีอะไรที่ต้องชี้แจง เพราะพวกตนไม่ได้เป็นฝ่ายผิด แถมตำรวจยังมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมมีลักษณะของการข่มขู่ด้วย แต่พวกตนไม่สะดวกจะให้สัมภาษณ์ในรายละเอียด ขอให้ไปต่อสู้กันในชั้นศาล
เมื่อผู้สื่อข่าวไปสอบถามร้อยตำรวจเอก ผู้เสียหาย ถึงกรณีนี้ เจ้าตัวยืนยันว่า ไม่ได้ข่มขู่คู่กรณีอย่างแน่นอน แต่ตนเป็นฝ่ายถูกเฉี่ยวชน และถูกทำร้ายร่างกาย มีหลักฐานปรากฏตามกล้องวงจรปิด พร้อมกับบอกด้วยว่า ฝั่งผู้ก่อเหตุต่างหากที่พูดจาด้วยอารมณ์รุนแรง กล่าวหาว่าตนรีดทรัพย์
เบื้องต้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหากับฝ่ายใด เพราะจะรอตรวจพยานหลักฐานต่าง ๆ เนื่องจากทั้งในคดีจราจรและคดีทำร้ายร่างกาย ทั้งสองฝ่ายให้การไม่ตรงกัน
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/wsUaQaUOVMo
แท็กที่เกี่ยวข้อง รุมทำร้ายตำรวจ ,สมุทรปราการ