สังคม
‘หนึ่ง บางปู’ ขอสมน้ำหน้า ทนายดัง แฉจ้างว่าความ 10 ล้าน แต่ไม่ฟ้องร้องอะไรเลย เชื่อเอาเงินไปซื้อรถหรู
โดย nattachat_c
30 ต.ค. 2567
30 views
‘หนึ่ง บางปู’ ขอร่วมกฐินด้วย หลังว่าจ้างทนายดังช่วยเหลือคดีครอบครัว เสียเงิน 10 ล้านบาท แต่ไม่มีการดำเนินการฟ้องร้องอะไรเลย กระทั่งเคลียร์กับอดีตสามีลงตัว พอขอให้ทำคดีแบ่งทรัพย์สินถูกเรียกอีก 7 แสนบาท
เพจ บิ๊กเกรียน โพสต์เดือดกรณีของทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด ว่า นอกจากเจ๊อ้อยแล้วยังมีผู้เสียหายรายอื่น ๆ อีก เช่น กรณีของ 'หนึ่ง บางปู' โดยระบุว่า “โดนเรียกค่าว่าความ 10 ล้านบาท พอได้เงินก็เอาไปซื้อคาเยนน์ คันสีน้ำตาล แต่ไม่เห็นทำงานอะไรเลยค่ะเสียไปตั้ง 10 ล้าน หนูเชื่อว่าถ้าหนูล้มละลาย มันก็ต้องล้มละลายเหมือนกัน“
ซึ่งในโพสต์ของบิ๊กเกรียน ยังมีรูปรถปอร์เช่ คาเยนน์ คันสีน้ำตาล ซึ่งจอดอยู่ตรงที่จอดรถของพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ สมัยเป็นผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ด้วย
วานนี้ (29 ต.ค. 67) นางสาว วรัชญากรณ์ อ่อนธรรม หรือ ที่หลายคนรู้จักในนาม เจ๊หนึ่ง บางปู เล่าถึงประสบการณ์ของตนกับทนายคนดังกล่าวให้ฟังว่า เมื่อประมาณปี 2564 ตนได้ว่าจ้างทนายความคนดังกล่าว ให้เป็นทนายความในคดีครอบครัว เป็นประเด็นเรื่องระหว่างตนกับอดีตสามี ซึ่งเคยเป็นข่าวโด่งดังมาก่อนหน้านี้
โดยในตอนนั้น ตนต้องการฟ้องร้องแยกทางกันกับอดีตสามี จึงไปปรึกษากับเจ้าของมูลนิธิหญิงท่านหนึ่ง โดยมีการแนะนำทนายความคนนี้ให้ เมื่อตนเห็นชื่อก็รู้โดยทันทีว่าเป็นทนายความที่มีชื่อเสียงและโด่งดัง ก็เลยตัดสินใจเลือกที่จะให้ทนายคนนี้มาช่วยดำเนินการฟ้องร้องในคดีความ เนื่องจากมั่นใจในชื่อเสียง และทนายคนดังกล่าวมีการอ้างอิงถึงบิ๊กตำรวจใหญ่ที่จะช่วยเหลือได้ เพราะอดีตสามีตน ก็เป็นข้าราชการตำรวจ ตนก็เลยยิ่งเชื่อมั่นในเรื่องของการจะเลือกทนายคนนี้ มาช่วยเป็นทนายฟ้องร้อง
ระหว่างที่พูดคุยกัน ถึงรายละเอียดของการจะดำเนินคดีฟ้องร้อง ทางทนายได้ถามตนว่า คุณหนึ่งมีทรัพย์สินตอนนี้อยู่เท่าไหร่ ด้วยความที่ตนกำลังเป็นทุกข์ใจ และป่วยซึมเศร้าอยู่ในตอนนั้น ก็เลยแสดงทรัพย์สินทั้งหมดออกมาด้วยความบริสุทธิ์ใจ แล้วทนายก็บอกว่า ขอเรียกค่าดำเนินการทั้งหมด 10 ล้าน ซึ่งตอนนั้น คุณหนึ่งก็ไม่ได้มีเงินขนาดนั้นต้องไปกู้เงิน 10 ล้านบาท จำนวนนี้มาให้ โดยมีการนัดเซ็นสัญญา และพูดคุยกันในวันที่ 23 เมษายน 2564
หลังจากนั้น 1 สัปดาห์ ก็มีการเซ็นเช็คทั้งหมด 3 ฉบับรวมทั้งหมด 3 ใบเป็นเงิน 10 ล้านบาท (เช็คแต่ละใบจำนวนเงินถัวเฉลี่ยกัน แต่ละใบจะจำนวนไม่เท่ากัน) โดยระบุชื่อผู้รับเช็คเป็นชื่อและนามสกุลของทนายคนดังกล่าว ซึ่งตอนนั้นตนอาศัยอยู่ที่จังหวัดระยอง ทนายและทีมงานได้ขับรถไปรับเช็คทั้ง 3 ใบ ด้วยตัวเองถึงจังหวัดระยอง
แต่หลังจากที่จ่ายเงิน 10 ล้านไปแล้ว ก็ได้เจอกับทนายอีก 3 ครั้ง แต่ยังไม่มีการดำเนินการยื่นฟ้องแต่อย่างใด มีแต่แนะนำให้ตนแกล้งแสดงว่าป่วยเข้าโรงพยาบาล จะได้มีการแถลงข่าว และกดดันเพื่อให้อดีตสามีเลิกลาแยกทางกับตนไป ตนก็หลงเชื่อ และยอมทำตาม
แต่เหมือนว่าตนแสดงดีเกินไป โรงพยาบาลล็อกตนติดกับเตียงและมัดมือมัดขา กลายเป็นเคสที่ต้องดูแลอย่างใกล้ชิด เสี่ยงว่าจะมีการฆ่าตัวตาย ตนจึงต้องให้ทนายคนดังกล่าวมาช่วยพาออกจากโรงพยาบาล สุดท้ายอดีตสามีก็ยังไม่ยอมเลิกราหรือแยกทางออกไป
จนกระทั่ง ตนกับอดีตสามีได้มีการตกลงเคลียร์กันเรียบร้อย ก่อนที่จะมีการยื่นฟ้องด้วยซ้ำ ผ่านไปไม่นาน ตนก็เพิ่งนึกออกว่า ต้องมีการแบ่งทรัพย์สินกันอีก เพราะว่ามีเรื่องลูกเข้ามาเกี่ยวข้อง ก็เลยย้อนกลับไปถามทนายว่า จะให้ดำเนินการในเรื่องนี้ต่อด้วย เพราะตนจ่ายไปแล้ว 10 ล้าน
ซึ่งทนายดังก็ตอบชัดเจนว่า เรื่องนั้นมันจบไปแล้ว ถ้าจะให้ดำเนินการเรื่องนี้อีก ขอเพิ่มอีก 700,000 บาท ตนรู้สึกตกใจมาก เพราะตอนนั้น เงินทองก็ร่อยหรอไปกับการรักษาอาการป่วยของตัวเอง กู้หนี้ยืมสินมาจ่ายค่าทนายไปแล้วรอบแรก 10 ล้านบาท ตนจึงไปปรึกษากับเพื่อน ๆ จนเพื่อน ๆ แนะนำทนายคนอื่นให้ จ่ายค่าทนายเพียงหลักแสนบาท เรื่องการแบ่งทรัพย์สมบัติระหว่างตนกับอดีตสามีก็ตกลงเคลียร์กันได้ลงตัว
โดยการออกมาเผยประสบการณ์ของตนตรงนี้ ตนยืนยันว่า ไม่ได้ต้องการแสง หรือเรียกร้องอะไร เพียงแค่ตนมองว่า จ่ายไป 10 ล้านบาท แต่รู้สึกว่าทางทีมทนายคนดังกล่าว ดำเนินการให้ตนเพียงแค่ 2 แสนบาทเท่านั้น ครั้นจะออกมาเรียกร้องว่า จ่ายไปตั้ง 10 ล้านแล้ว ทำไมดำเนินการให้แค่นี้ ตนก็กลัว เพราะตอนนั้น ตนกำลังมีปัญหาทุกข์ใจเรื่องอื่น และทนายเป็นทนายชื่อดัง รู้จักคนใหญ่ คนโตเยอะ
ส่วนประเด็นเรื่องรถ Porsche Cayenne สีน้ำตาล 'หนึ่ง บางปู' บอกว่า หลังมีการจ่ายเช็คให้ทนายคนดังไปไม่ถึงสิบวัน ปรากฏว่า ทนายคนดังกล่าวมีการซื้อรถคันใหม่เป็นปอร์เช่ สีน้ำตาล ราคา 9 ล้านกว่าบาท ทำให้ตนเชื่อว่าน่าจะมีการนำเงินของตนไปซื้อรถ และคิดไว้แล้วว่า บิ๊กตำรวจที่มีการอ้างถึง คงไม่ได้มาช่วยเหลืออะไรตน
วันนี้ ที่ตนออกมาพูดไม่ได้อยากแฉ แต่ต้องการพูดความจริงสิ่งที่ตนเจอมา และอยากฝากถึงทนายคนดังกล่าวว่า สมน้ำหน้า สิ่งที่ทนายคนนี้กำลังได้รับมันเหมาะสมที่สุดแล้ว เพราะทำกับลูกความที่เขามีปัญหาชีวิตกำลังอยู่ในความทุกข์ กลับต้องทุกข์ซ้ำ
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/E6maHGRp-6w