สังคม

นักศึกษาปี 3 ขับเก๋งอัดท้ายรถกระบะตู้ทึบเสียชีวิต กระแทกรถอีก 3 คันบาดเจ็บ 2 ราย

โดย kanyapak_w

29 ต.ค. 2567

2.4K views

เมื่อเวลา 23.00 น. วันที่ 28 ต.ค. ร.ต.อ.สริพงษ์ อภิวัน รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี ได้รับแจ้งเหตุมีรถชนกันหลายคันเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตติดภายในยานพาหนะ เหตุเกิดบริเวณ ไฟแดงมอเตอร์เวย์คลองห้า ถ.รังสิต-นครนายก ขาเข้ารังสิต ต.บึงยี่โถ อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี หลังรับแจ้ง จึงรุดไปตรวจสอบที่เกิดเหตุพร้อมด้วย เจ้าหน้าที่อาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง และอุปกรณ์ตัด-ถ่าง



ที่เกิดเหตุพบรถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีบอร์น ทะเบียนกรุงเพทมหานคร สภาพด้านหน้าพังยับเยินชนท้ายรถกระบะตู้ทึบส่งน้ำแข็ง ยี่ห้อ อีซูซุ ดีเเม็ก สีขาว ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ก่อนไปกระชนท้ายรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ ดีเเม็ก สีดำ ทะเบียนสระบุรี แล้วก็ไปชนกับรถเก๋งยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาวทะเบียนกรุงเทพมหานคร



จากการตรวจสอบในเบื้องต้นพบผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงนำผู้ได้รับบาดเจ็บเป็นชาย 2 ราย ส่งโรงพยาบาลบางปะกอกรังสิต 2 นอกจากนี้ยังพบว่ามีผู้เสียชีวิตติดอยู่ภายใน รถเก๋งยี่ห้อโตโยต้า รุ่นอัลติส สีบอร์น ทะเบียนกรุงเทพมหานคร ทราบชื่อต่อมาว่า นายสุพีรจักขณ์ อายุ 21 ปี และยังเป็นนักศึกษาชั้นปีที่ 3 สาขาวิศวกรรมศาสตร์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงได้ช่วยกันนำอุปกรณ์ตัด-ถ่าง ช่วยกันงัดร่างผู้เสียชีวิตออกมาโดยใช้เวลาประมาณ 30 นาทีจึงสามารถนำร่างออกมาได้



จากการสอบถาม นายเสกสรรค์ อายุ 29 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บกล่าวว่า ตนเองขับรถกระบะตู้ทึบส่งน้ำแข็ง ยี่ห้อ อีซูซุ ดีเเม็ก สีขาว หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร เพื่อมาจอดรอไฟแดงเพื่อที่จะกลับบ้านไปหาแฟนย่านคลองหก ขณะจอดติดไฟแดงนั้นจู่ๆก็มีรถเก๋งพุ่งเข้ามาชนท้ายรถตนเองอย่างจังก่อนที่จะไปกระแทกคันหน้าแล้วไปพุ่งคนกับแบริเออกลางถนน ส่วนตนเองหน้าไปกระแทกกับกระจกหน้าจนปากแตกและหน้าอกกระแทก



ทางด้าน ร.ต.อ.สริพงษ์ อภิวัน รองสารวัตรสอบสวน สภ.ธัญบุรี กล่าวว่า จากคำให้การของพยานให้การว่า รถเก๋งของผู้ตายวิ่งเข้ามาชนท้ายรถกระบะตู้ทึบ ของนายเสกสรรค์ อายุ 29 ปี ก่อนที่รถนายเสกสรรค์ จะไปชนกับรถกระบะของนายเจษฎา อายุ 27 ปี ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่หมวดทางหลวงคลองหลวง และไปกระแทกรถเก๋ง ยี่ห้อ โตโยต้า รุ่นอัลติส สีขาว หมายเลขทะเบียนกรุงเทพมหานคร จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บ ซึ่งในเบื้องต้น ได้ให้รถยกมาทำการยกรถที่ได้รับความเสียหาย เพื่อเปิดการจราจร พร้อมทั้งจะได้สอบสวนเจ้าของรถอีก 2 คัน เพื่อประกอบในสำนวน ก่อนจะบันทึกภาพในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน แล้วได้มอบศพให้มูลนิธิฯ นำส่งผ่าพิสูจน์ยังนิติเวชโรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไป



คุณอาจสนใจ