สังคม
‘ทนายตั้ม’ ยันได้เงิน 71 ล้านมาด้วยเสน่หา จ่อแจ้งความกลับ 'เศรษฐีนี' หลังฟ้องฉ้อโกง
โดย nattachat_c
25 ต.ค. 2567
129 views
จากกรณี นางสาวอ้อย นักธุรกิจสาวที่มีกิจการในต่างประเทศและในไทย ในฐานะผู้เสียหาย ได้มอบอำนาจให้ทนายความเข้าแจ้งความร้องทุกข์ที่สถานีตำรวจภูธรปากช่องจังหวัดนครราชสีมา โดยแจ้งข้อกล่าวหา นายษิทรา เบี้ยบังเกิด เมื่อวันที่ 19 กันยายน 2567 ในข้อหาฉ้อโกง
โดย เมื่อปลายปี 2565 ต่อเนื่องต้นปี 2566 นายษิทรามาบอกกับผู้เสียหายว่า ได้รับโควตาสลากกินแบ่งมาจากผู้ใหญ่ที่นับถือให้มาจำหน่ายทางออนไลน์ ซึ่งทนายตั้ม อ้างว่ารับปากกับผู้ใหญ่ไว้แล้วว่าสามารถทำได้ ทั้ง ๆ ที่ ยังไม่มีเงินลงทุน จึงมาปรึกษาผู้เสียหายว่า หากตัวเขาได้ทำธุรกิจนี้จะทำให้สามารถสร้างเนื้อสร้างตัวได้
นักธุรกิจสาว เห็นว่า การขายสลากออนไลน์เป็นโอกาสจึงซักถามถึงวิธีการ และขอทราบรายละเอียดอื่น ๆ
ทนายษิทรา ได้อธิบายว่า หากจะทำจะต้องมีแอปพลิเคชั่น และ รายละเอียดอื่น ๆ เช่น โปรแกรม ระบบต่าง ๆ โดยตัวเองรู้จักผู้เชี่ยวชาญที่พัฒนาเว็บไซต์ และระบบโปรแกรม
ผู้เสียหายหลังจากได้ปรึกษาครอบครัวเห็นว่า โครงการดังกล่าวน่าจะเป็นไปได้ ขณะเดียวกัน ก็ตรงกับความตั้งใจของผู้เสียหาย ที่จะลงทุนอะไรสักอย่างไว้เอาไว้ให้บุตรชาย จึงตอบตกลงจะทำหวยออนไลน์ และให้ทนายตั้มไปติดต่อว่าจ้างโปรแกรมเมอร์ และให้ทำรายละเอียดเป็นลายลักษณ์อักษรมา ซึ่งทนายตั้มตอบตกลง
ต่อมา วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2566 ผู้เสียหายโอนเงินชำระค่าจ้างเขียนแบบโปรแกรมให้กับคู่สัญญา แต่ในวันดังกล่าวไม่สามารถดำเนินการโอนเงินได้ เนื่องจากเป็นเวลาที่ธนาคารปิดทำการแล้ว จึงนัดทนายตั้มให้มาดูแลจัดการโอนชำระเงิน แต่นายษิทราก็ไม่ได้บอกกล่าวรายละเอียดกับผู้เสียหายว่า ต้องโอนชำระให้คู่สัญญาภายในวันที่ 15 กุมภาพันธ์ จึงนัดมาดำเนินการโอนเงินในวันรุ่งขึ้นคือ 16 กุมภาพันธ์ 2566
ต่อมา ในวันดังกล่าวเมื่อทนายตั้มเดินทางมาถึงธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาโลตัส ปากช่อง ได้บอกกับผู้เสียหายให้โอนเงินมาที่ตัวเองก่อน เขาจะนำเงินไปชำระให้คู่สัญญาด้วยตัวเอง พร้อมกับเจรจาตกลงกับคู่สัญญาถึงปัญหาดังกล่าวเอง
โดย ทนายตั้มได้เปิดบัญชีธนาคารกรุงศรีอยุธยา สาขาโลตัสปากช่อง ในชื่อนายษิทธา เบี้ยบังเกิด ขึ้นมาเพื่อโอนเงินจากบัญชีของผู้เสียหายไปยังบัญชีของทนายตั้ม เป็นจำนวน 71 ล้านบาทเศษ
หลังจากที่จ่ายเงินค่าจ้างเขียนโปรแกรมไปแล้วผู้เสียหายก็ได้ติดตามความคืบหน้าการซื้อระบบโปรแกรมสลากออนไลน์จากทนายตั้มเรื่อยมา แต่ได้รับคำตอบว่ายังทำไม่แล้วเสร็จ จึงเป็นสาเหตุประการหนึ่ง ที่ทำให้ในเวลาต่อมา ผู้เสียหายได้ยกเลิกสัญญาจ้าง บริษัท ษิทรา ลอว์เฟิร์ม เป็นที่ปรึกษา โดยมีหนังสือบอกเลิกสัญญาจ้างที่ปรึกษา ลงวันที่ 25 มกราคม 2567
จนกระทั่ง วันที่ 1 กันยายน 2567 ซึ่งเป็นวันที่ครบกำหนดการส่งมอบงานตามสัญญา ฝ่ายผู้เสียหายยังไม่ได้รับการตอบรับ หรือรับมอบระบบโปรแกรมตามสัญญา ดังนั้น ในวันที่ 8 กันยายน 2567 ผู้เสียหายจึงมอบอำนาจให้ทนายติดตามทวงเงินจำนวน 71 ล้านบาทคืนจากทนายตั้ม
ทนายตั้มได้รับหนังสือดังกล่าว แต่เมื่อถึงกำหนดเวลาให้คืนเงินตามหนังสือทวงหนี้ ทนายตั้มก็ไม่ได้คืนเงินให้กับผู้เสียหาย และไม่ได้ติดต่อกลับมา จึงมอบอำนาจให้ทนายเข้าร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวนให้ดำเนินคดีตามกฎหมายกับผู้ต้องหาอย่างถึงที่สุด
พ.ต.อ.วีระพล ระเบียบโพธิ์ ผกก.สภ.ปากช่อง จ. นครราชสีมา เดินทางไปราชการในต่างจังหวัด ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ว่า ทางผู้เสียหายได้มอบอำนาจให้ทนายความมาแจ้งความร้องทุกข์ให้ดำเนินคดีกับทนาย ตามที่เป็นข่าวในข้อหาฉ้อโกงเงิน 2 ล้านยูโร ซึ่งเป็นเงินไทยก็ประมาณ 71,000,000 เศษ ครับ ตอนนี้อยู่ในระหว่างรวบรวมพยานหลักฐาน
เบื้องต้น สอบพยานไปแล้ว 3 ปาก ส่วนจะใช้เวลากี่วันนั้น ยังไม่สามารถตอบได้ จะรีบสรุปสำนวนให้รอบคอบว่า การกระทำความผิดจะมีหลายข้อหาหรือไม่ เมื่อเรารวบรวมพยานหลักฐาน ให้รัดกุม มีความรอบคอบ เพื่อสรุปว่ามี จะมีความผิดข้อหาใด ก็จะต้องเรียกทางทนาย มาสอบว่าจะมีความผิดในข้อหาใด ซึ่งจะให้ความเป็นธรรมทุกฝ่าย
ขณะที่ทนายตั้ม ก็ได้โฟนอินในรายการ เจาะลึกทั่วไทย อินไซต์ไทยแลนด์ พร้อมย้ำว่า เศรษฐีนีโอนเงินให้ 71 ล้านบาทจริง
ขณะที่ ทนายตั้ม ษิทรา เบี้ยบังเกิด เลขามูลนิธิทีมงานทนายประชาชน ได้โฟนอิน ในรายการเจาะลึกทั่วไทย ทางช่อง 9 MCOT ของคุณดนัย หรือหมาแก่
โดยทนายตั้ม กล่าวว่า สำหรับเงิน 2 ล้านยูโร ลูกความที่ร่ำรวยจากโชค ซึ่งถูกลอตเตอรี่ต่างประเทศได้เงินเกือบ 1 หมื่นล้านบาท โดยถูกแบบดับเบิ้ล พร้อมอธิบายว่าลูกความคนนี้เป็นหญิงไทยที่แต่งงานกับชาวต่างชาติอยู่ฝรั่งเศส ซึ่งจะเข้ามาทำธุรกิจในไทย โดยก่อนหน้านี้ได้จ่ายเงินให้ตนเดือนละ 3 แสนบาท ให้ดูแลเรื่องสัญญาต่าง ๆ ในกิจการที่จะทำ ตนจะดูแลให้หมดทำสัญญาซื้อขายกันเป็นหลัก 100 ล้านบาท
ภายหลังตนกับเลขาฯของลูกความ มีความไม่เข้าใจกัน ตนกับลูกความได้มีโอกาสคุยกันเมื่อต้นปี ซึ่งเขาบอกเราเหมือนพี่น้องกันเขาไม่อยากให้เงินเดือนตนแล้ว ตนจึงขอเงิน 1 ก้อน เพื่อดูแลครอบครัวและทำธุรกิจ ซึ่งตนยังคงดูแลเรื่องต่างๆ ให้ ซึ่งตนขอเงิน 2 ล้านยูโร เพื่อมาทำธุรกิจ ลูกความก็ตกลงให้ง่าย ๆ เขาบอกว่าไม่เยอะ ก็โอนมาให้ง่าย ๆ
ทนายตั้ม บอกอีกว่า ถ้าเขาโอนมาให้จากต่างประเทศ จะต้องเสียภาษี 40% เพราะเป็นเงินถูกลอตเตอรี่ ตนจึงให้จ่ายเงินผ่านโปรเจคที่จะทำและให้เขานำเอกสารไปให้ทางฝรั่งเศส และปี 2566 ก็โอนเงินมาให้ตน โดยไม่เสียค่าธรรมเนียม
ขณะที่คุณดนัย หรือฉายาหมาแก่ ก็ถามว่า ได้บอกลูกความหรือไม่ว่า เงินที่ได้มาจะเอาไปทำแพลตฟอร์มขายหวยออนไลน์ ทนายตั้มบอกว่า ทำหลายอย่าง หนึ่งในนั้นที่จะทำคือขายหวยออนไลน์ ซึ่งเป็นการให้เงินเพื่อให้ผมทำธุรกิจของผม ไม่ใช่มาร่วมลงทุน และสัญญาก็เป็นสัญญาที่ให้ฝรั่งเศสดู เพื่อไม่ต้องเสียภาษี 40% ซึ่งเป็นสัญญาว่าจ้างพัฒนาแพลตฟอร์มออนไลน์
ซึ่งทนายตั้มจะไปให้ความโดยบอกว่า การให้เงินนั้นเป็นการให้โดยเสน่หา และจะแจ้งความในข้อหา แจ้งความเท็จ
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/uA1Ie2PpnrE