หมอนวดสุดแสบ เล็งยายลูกค้าเก่าเฝ้าโชห่วยคนเดียว ก่อนกระชากทอง อ้างหาเงินเลี้ยงลูก

หมอนวดแผนโบราณแสบ บุกบ้านลูกค้าเก่า ทำทีซื้อของ ก่อนกระชากทองหญิงสูงวัย ลากไปกับพื้นร้าน อ้างอารมณ์ชั่ววูบ ไม่มีเงินเลี้ยงลูก 9 ขวบ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีภาพจากกล้องวงจรปิด เมื่อวันที่ 8 ต.ค. ที่ผ่านมา เวลา 19.50 น. มุมแรกจับภาพได้ในขณะที่ผู้ต้องหาเดินเท้ามายังบ้านพักนางพิชญา อายุ 71 ปี เจ้าของร้านค้าชำ ที่ ซ.ด่านสำโรง 30 ม.8 ต.สำโรงเหนือ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

ขณะที่ เจ้าของร้านเฝ้าร้านคนเดียว ถูกคนร้ายสวมแมสก์ขาว ใส่แจ็กเก็ตแขนยาว สีดำ คลุมฮู้ด สะพายเป้ลายการ์ตูน สีขาว - ดำ ลอกคอ กระชากสร้อย พร้อมทุบตีทำร้ายลากร่างไปกับพื้นร้าน จนนางพิชญาตะโกนร้องด้วยความเจ็บปวด แม้พยายามดิ้นขัดขืน แต่ไม่อาจสู้แรงคนร้ายได้ ก่อนคนร้ายจึงสามารถกระชากสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท และ พระเลี่ยมทอง 1 องค์ แล้ววิ่งหลบหนีออกไป

จากนั้น นางพิชญาพยายามกระเสือกกระสน หอบร่างบาดเจ็บวิ่งไล่ตามไป ก่อนพบ ชิ้นส่วนสร้อยทอง และพระเครื่อง ตกอยู่ห่างบ้านราว 50 เมตร ส่วนคนร้ายวิ่งหนีไปได้แบบไร้ร่องรอย

ต่อมาชุดสืบสวน สภ.สำโรงเหนือ พบเบาะแส กล้องวงจรปิด ใน ซ.ด่านสำโรง 30 พบ ผู้ก่อเหตุวิ่งออกไปทางปากซอย ก่อนขึ้นรถสองแถวหลบหนีไป ตามถนนสุขุมวิท มุ่งหน้า ต.ปากน้ำ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ

ต่อมา วานนี้ (24 ต.ค. 67) เวลา 17.00 น. ตำรวจ สภ.สำโรงเหนือ จ.สมุทรปราการ ปูพรมตรวจสอบเส้นทางหลบหนีของคนร้าย หลังพบเบาะแสว่า คนร้ายอาจหลบหนีไปย่าน ต.บางด้วน อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ห่างจุดเกิดเหตุราว 4 กิโลเมตร ซึ่งคาดว่าอาจเป็นชาวบ้านในละแวกดังกล่าว

กระทั่ง พบข้อมูลผู้ต้องสงสัย รูปพรรณสัณฐาน ตรงกับคนร้ายที่แท้เป็น 'หญิงผมสั้น' ท่าทางคล้ายผู้ชาย ชื่อนางชญานิน โพธิ์นอก อายุ 40 ปี ชาว อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น อาชีพหมอนวดแผนโบราณ พักอยู่ใน ซ.บางด้วน 19 เคยรับจ้างนวดตัวจับเส้นให้ 'หญิงชรา' ในละแวกบ้าน และชุมชนใกล้เคียง

จากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังไปควบคุมตัวนางชญานิน ขณะกำลังเดินสะพายเป้ลายการ์ตูน สีขาว - ดำ ใบเดียวกับคนร้ายก่อเหตุคดีชิงทรัพย์นางพิชญา โดยเมื่อเจ้าหน้าที่ไปถึง นางชญานินให้การด้วยสีหน้าตกใจ ยอมรับว่า เป็นคนร้ายก่อเหตุบุกชิงทองนางพิชญาจริง โดยตนทำงานเป็นหมอนวดแผนโบราณ รับนวดเพื่อสุขภาพ ทั้ง นวดตัว และจับเส้น ให้กลุ่ม สาวใหญ่ และ หญิงชรา คิดค่านวดครั้งละ 59 บาท ก่อนหน้านี้ เคยรับจ้างไปนวดให้นางพิชญา จนรู้จักกัน และรู้ว่านางพิชญาใส่สร้อยทอง เฝ้าร้านชำเพียงคนเดียว

โดยช่วงนี้ ตนมีปัญหาด้านการเงิน เนื่องจากต้องเลี้ยงลูกอายุ 9 ขวบ เพียงคนเดียว ส่วนสามีไม่ได้ทำงาน จึงเกิดความคิดชั่ววูบ ใส่แจ็กเก็ตคลุมหัวปิดบังใบหน้า บุกไปหานางพิชญา ก่อนทำทีขอซื้อน้ำอัดลม 1 ขวด จังหวะที่นางพิชญาเผลอ จึงล็อกคอกระชากสร้อย และลากตัวเข้าไปในห้อง ก่อนรีบวิ่งหนี แต่ชิ้นส่วนสร้อย และพระเลี่ยมทองหลุดจากมือ จึงไม่ได้ของกลางไป

เบื้องต้น ตำรวจไม่ปักใจเชื่อในคำให้การ หลังตรวจสอบข้อมูลพบว่า นางชญานิน เคยก่อเหตุมาแล้ว 3 ครั้ง โดย 2 ครั้ง ก่อนหน้านี้ ได้ทองรูปพรรณน้ำหนักรวม 1 บาท ซึ่งผู้เสียหายทุกรายเป็นหญิงสูงอายุ ซึ่งเป็นลูกค้านวดแผนโบราณทั้งสิ้น

อย่างไรก็ตาม ตำรวจแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน และ บุกรุกเคหะสถานในยามวิกาล ส่งพนักงานสอบสวน พร้อมแจ้งอายัดตัวดำเนินคดีเพิ่ม ในเหตุก่อนหน้านี้ เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

ด้าน ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุ ผู้ก่อเหตุได้แต่งตัวมิดชิดตามกล้องวงจรปิด เข้ามาทำทีขอซื้อน้ำอัดลม ในขณะที่ตนหันหลังไปหยิบถุง ผู้ก่อเหตุก็กระชากสร้อยคอทองคำของตน และลากตนไปกับพื้บตามคลิปวงจรปิด ซึ่งตนพยายามร้องขอความช่วยเหลือแต่ลูก และหลาน ก็ไม่ออกมาช่วย เพราะเขาเข้าใจว่าเป็นเสียงโทรทัศน์ และเป็นเสียงคนข้างบ้านทะเลาะกัน ทำให้ทางผู้ก่อเหตุสามารถกระชากสร้อยคอทองคำของตนไปได้ แต่สร้อยขาดทำให้เขาได้ทองไปแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น

เบื้องต้น ตนได้รับบาดเจ็บแค่ระบมตามตัว เพราะถูกลากไปกับพื้น ซึ่งตนอยากเตือนให้คนที่ดูข่าวระมัดระวัง ยิ่งบ้านไหนที่เปิดร้านขายของ อาจเป็นช่องทางของมิจฉาชีพที่จะก่อเหตุได้

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/ZivJL6EXqY0