ล่าเก๋งแดง-ชายร่างท้วม โยงแก๊งสายมู บุกสุสานลักกะโหลก แม่ร่ำไห้ลูกตายไปแล้ว ยังมาโดนขโมย

งัดหลุมฝังศพไร้ญาติ ขโมยกะโหลกของศพไปทั้งหมด 27 หัว ชาวบ้านเชื่อคนร้ายเป็นพวกสายมู นำไปทำพิธีทางไสยศาสตร์ ทางสุสานเร่งป้องกัน เพิ่มคนเฝ้าสุสาน 24 ชม.

จากกรณีเมื่อวันที่ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา ตำรวจ สภ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี รับแจ้งจากหน่วยกู้ภัยสว่างเหตุทุ่งเหียง ว่ามีชิ้นส่วนศพไร้ญาติที่ฝังไว้ในสุสานสว่างเหตุทุ่งเหียง ริมถนนสายพนัสนิคม - หนองเสม็ด  อ.พนัสนิคม จ.ชลบุรี ถูกลักขโมยหายไปจำนวนมาก  เมื่อเจ้าหน้าที่เข้าไปตรวจสอบที่สุสานฝังศพไร้ญาติติดกับป่ามันสำปะหลัง พบว่า แผ่นคอนกรีตฝาปิดหลุมศพ หนาประมาณ 15 เซนติเมตร ถูกงัดเปิดออกมา 12 หลุม ชิ้นส่วนกะโหลกของศพ หายไปทั้งหมด 12 ชิ้น และบริเวณป่าหญ้ารอบๆ หลุม มีรอยเท้าเดินเหยียบหญ้าจนเอนราบชัดเจน นอกจากนี้ยังพบว่า ต้นหญ้าและผักบุ้งที่ขึ้นเหนือหลุมศพ ถูกดึงออก ซึ่งยังไม่เหี่ยวมาก คาดว่าเพิ่งจะก่อเหตุไม่นาน  

ทางเจ้าหน้าที่ดูแลสุสาน เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 24 ก.ย.ที่ผ่านมา ก็เพิ่งจะเกิดเหตุขโมยชิ้นส่วนกะโหลกศพไร้ญาติมาแล้ว คราวนั้นหลุมศพถูกเปิด 15 หลุม กะโหลกศพไร้ญาติหายไป 15 ชิ้น ซึ่งไม่ทราบเจตนาของคนร้าย ไม่แน่ใจว่าเอาไปทำพิธีไสยศาสตร์หรือไม่ เพราะเอาไปแต่กะโหลก

เมื่อวานนี้ (23 ต.ค.67) ผู้สื่อข่าวไปตรวจสอบที่สุสานดังกล่าว พบว่ามีทางเดินทะลุจากป่ามันสำปะหลังด้านข้าง เข้ามายังสุสาน เชื่อคนร้ายใช้เส้นทางนี้เข้ามาขโมยกะโหลกศีรษะในช่วงกลางคืน โดยทางเจ้าหน้าที่ดูแลสุสาน วางมาตรการป้องกันเพิ่มเติม โดยล้อมรั้วและติดตั้งแผงโซล่าเซลล์และกล้องวงจรปิด เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุขึ้นอีก

นอกจากนี้ ยังพบว่า นางกาญจนา พลูศรีงาม อายุ 64 ปี  และนางสาวพัชรา แกมกล้า อายุ 39 ปี ลูกสาว เดินทางมาดูที่สุสาน หลังทราบข่าวว่ามีโจรขโมยชิ้นส่วนศพ พอเห็นหลุมฝังศพของนายพรชัย แกมกล้า ลูกชายที่เสียชีวิตด้วยอาการป่วย และนำร่างมาฝากไว้ที่หลุม 41 เพื่อรอเผา ถูกเปิดออกและถูกขโมยกะโหลกศีรษะไปด้วย

ทำให้นางกาญจนาร้องไห้เสียใจอย่างมาก จนถึงกับเป็นลม รับไม่ได้ที่เห็นร่างของลูกชายมีแต่ตัว หัวหายไป เพราะไม่คิดว่าลูกชายที่ไร้ลมหายใจไปแล้ว จะต้องมาเจอเรื่องแบบนี้อีก พร้อมกับอ้อนวอนให้คนก่อเหตุ เอาศีรษะลูกชายมาคืน นางกาญจนา บอกกับผู้สื่อข่าวว่า คนที่เอากะโหลกของลูกชายตนไป อาจจะเอาไปทำพิธีไสยศาสตร์ ซึ่งตนเชื่อว่าคนก่อเหตุไม่เจริญแน่ๆ ขอให้ตำรวจจับมาดำเนินคดีให้ได้  

ส่วนนางสาวพัชรา  น้องสาวของนายพรเทพ ผู้ตาย บอกว่า พี่ชายตนป่วย ต้องทรมาณก่อนจะเสียชีวิต พอตายไปแล้วก็ยังถูกเบียดเบียนแบบนี้ ตนอยากเห็นหน้าคนก่อเหตุ อยากถามว่า รู้ได้อย่างไรว่าเล่นคุณไสยแล้วทำให้ชีวิตเจริญ

ขณะที่ตำรวจเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้อง เช่น คนเฝ้าสุสาน และกรรมการมูลนิธิสว่างเหตุทุ่งเหียง ไปให้ปากคำเพิ่มเติม  โดยนายประเวศน์ สวัสดิ์ศรี อายุ 39 ปี ผู้ดูแลสุสาน บอกว่า ช่วงบ่ายวันที่ 22 ต.ค. ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีรถเข้ามาจอดในสุสาน จึงมาตรวจสอบ แต่เมื่อมาถึง ไม่พบรถคันดังกล่าว จึงลองเดินตรวจโดยรอบ พบว่าหลุมศพถูกเปิดออก 12 หลุม และกะโหลกศีรษะของศพหายไป มีร่องรอยคนเดินเข้ามาทางป่ามันสำปะหลังด้านข้างสุสาน จึงแจ้งมูลนิธิและแจ้งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ซึ่งส่วนตัวเสียใจมาก ที่คนร้ายมาก่อเหตุแบบนี้ เพราะศพที่ฝังที่นี่ นอกจากจะเป็นศพไร้ญาติ ยังต้องมาถูกขโมยชิ้นส่วนศพอีก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางตำรวจมีเบาะแสว่า ก่อนเกิดเหตุ มีพลเมืองดีเห็นรถเก๋งสีแดงขับเข้ามาจอดแถวบริเวณสุสาน คนขับเป็นชายร่างท้วม สูงประมาณ 165 ถึง 170 ซม. ลงจากรถมาเดินดูหลุมศพ ก่อนจะขับรถออกไป จากนั้นเวลากลางคืน มีรถกระบะขับมาจอดห่างจากสุสานประมาณ 50 เมตร แล้วคนก่อเหตุ คาดว่ามากัน 3 คน นำชะแลงมางัดเปิดหลุมศพ แล้วลงมือขโมยกะโหลกศีรษะศพใส่ถังแล้วยกไปขึ้นรถ ก่อนจะขับหนีไป  คาดว่าเป็นฝีมือกลุ่มคนเล่นไสยศาสตร์

ส่วนการตรวจสอบภายในสุสาน พบหลักฐาน 1 ชิ้น คือ บุหรี่ไฟฟ้าสีน้ำเงินตกอยู่บนฝาหลุมศพไร้ญาติ หลุมที่ 15/42  เจ้าหน้าที่จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน เพื่อตรวจสอบหาลายนิ้วมือ  

ขณะที่ผู้ดูแลสุสาน ก็นำเอกสารรายชื่อศพที่นำมาฝังไว้ จำนวน 150 รายชื่อ ซึ่งรวมกับรายชื่อศพที่ถูกขโมยกะโหลกศีรษะไป  มาให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ที่ สภ.พนัสนิคม เพื่อทำบันทึกไว้เป็นหลักฐาน และสืบสวนเพื่อตามหาตัวคนร้ายมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/tqEoO7KIZXI