ดิไอคอน แจง 5 ดาราดัง ไม่ใช่ผู้ถือหุ้น - 'กรรชัย' เปิดคลิปเสียงชายปริศนา 'ติดสินบนเทวดา' สคบ.

วานนี้ (10 ต.ค. 67) พลตำรวจเอก กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ รักษาราชการแทนผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ พร้อมด้วยพลตำรวจโท อัคราเดช พิมลศรี ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และพลตำรวจโท จิรภพ ภูริเดช ผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ได้เดินทางมาร่วมประชุมกับตำรวจสอบสวนกลาง เพื่อสอบถามความคืบหน้า รวมทั้งพูดคุยกับกลุ่มผู้เสียหายจากธุรกิจเครือข่ายขายตรง

โดยใช้เวลาในการประชุมนานกว่า 1 ชั่วโมงครึ่ง ก็ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงคดีดังกล่าวว่า ในวันนี้สอบปากคำผู้เสียหายไปประมาณ 80 ปาก โดยพบว่ามีมูลค่าความเสียหายประมาณ 31 ล้านบาท ซึ่งยังไม่สามารถให้คำตอบว่าข้อมูลจากผู้เสียหายจะเข้าข่ายความผิดในข้อหาใดบ้าง จะเห็นก็ต่อเมื่อหลังจากนี้ที่จะมีการสืบสวนสอบสวนรายละเอียดกันอีกครั้ง

แต่จากข้อมูลของผู้เสียหายมีความเป็นไปได้ที่จะเข้าข่ายความผิดที่เกี่ยวกับเรื่องของธุรกิจการขายตรง แชร์ลูกโซ่ และการหลอกลวงลงทุน เพราะตามข้อมูลพบว่าพฤติกรรมของบริษัทที่ถูกกล่าวหา จะชักชวนให้ทำธุรกิจโดยเสียค่าอบรม จากนั้นเข้าสู่กระบวนการเปิดเครดิต ด้วยการแบ่งเป็นระดับธรรมดา 2,500 บาท ระดับซูเปอร์ 25,000 บาท และระดับดีลเลอร์ 250,000 บาท ซึ่งตอนนี้ รายละเอียดบริษัทยังอยู่ระหว่างการตรวจสอบว่า มีการจดทะเบียนแบบไหน และตามเงื่อนไขตามที่จดทะเบียนหรือไม่

ส่วนดารานักแสดงชื่อดังที่มาเป็นพรีเซนเตอร์ หรือช่วยโฆษณาสินค้า หรือมีส่วนร่วมในการบริหาร ก็จะดูข้อเท็จจริงเบื้องต้นเรื่องนี้ก่อนว่า มีการทำความผิดข้อหาอะไร หากพบว่ามีส่วนร่วมในการกระทำความผิดหรือสนับสนุน ก็จะถูกดำเนินคดีด้วยแน่นอน ซึ่งจนถึงตอนนี้ ในขณะนี้ ยังไม่มีดารานักแสดงคนใดติดต่อมาให้ข้อมูล

กรณีที่ผู้เสียหายกังวลเรื่องยักย้ายถ่ายเททรัพย์สิน 'บิ๊กต่าย' ยอมรับว่า ตอนนี้ ตำรวจยังไม่มีสิทธิ์ในการยึดทรัพย์ แต่ในวันนี้ จะทำหนังสือถึง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อใช้อำนาจของ ปปง. ให้อายัดทรัพย์ของเจ้าของบริษัททั้งหมดเอาไว้ก่อน เพราะในตอนนี้ยังไม่รู้ว่าจะมีการกระทำความผิดในข้อหาอะไรหรือไม่

ส่วนผู้เสียหายบางคนที่เคยแจ้งความที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง เมื่อปี 2565 ตอนนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ได้สั่งให้ พลตำรวจโท อัคราเดช ตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนเข้าข่ายการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่หรือไม่ หากพบก็จะดำเนินการทั้งอาญาและวินัย โดยไม่ละเว้นอย่างแน่นอน

และที่มีโพสต์ในโลกโซเชียลข่มขู่เอาชีวิตผู้ประกาศข่าวช่องหนึ่งกลางรายการ ยืนยันว่าจะต้องตรวจสอบ และหาตัวคนที่ข่มขู่มาดำเนินคดีให้ได้

พร้อมฝากประชาสัมพันธ์ไปถึงประชาชนที่ได้รับความเสียหายจากบริษัทดังกล่าว หากไม่สะดวกที่จะเดินทางมาแจ้งความที่ตำรวจสอบสวนกลาง สามารถเข้าเว็บไซต์เพื่อแจ้งความผ่านทางออนไลน์ได้เช่นกัน

ในวันเดียวกัน กันต์ กันตถาวร พิธีกร และนักแสดงชื่อดัง ได้โพสต์ไอจีขอยุติบทบาทพิธีกร หลังมีกระแสดราม่าโถมใส่ โดยเจ้าตัวบอกว่า

นื่องด้วยกระแสข่าวที่กำลังเป็นประเด็นทางสังคมซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับตัวผมเอง ตัวผมเองไม่ได้นิ่งนอนใจและเพื่อเป็นการแสดงความบริสุทธิ์ใจและความรับผิดชอบต่อตัวเองและสังคมรวมไปถึงต้นสังกัดและผู้ที่ร่วมงานด้วย ผมจึงขอยุติบทบาทการเป็นพิธีกรในทุกรายการจนกว่าจะมีความชัดเจนและความกระจ่าง และพร้อมที่จะให้ข้อมูลกับทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อความถูกต้องในกระบวนการยุติธรรม

ทั้งนี้ หลังจากที่ กันต์ กันตถาวร ออกมาแถลงถึงการยุติบทบาทพิธีกรทุกรายการของเวิร์คพอยท์ สังคมก็ตั้งคำถามว่า กันต์ขอยุติเอง หรือเป็นการโดนไล่ออกหรือไม่

ต่อมา บริษัท ไทย บรอดคาสดิ้ง จำกัด ในเครือ บริษัท เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมน์ จำกัด (มหาชน) ได้ออกมาชี้แจงว่า

ประกาศเรื่องศิลปินในสังคม เนื่องด้วยกระแสข่าวที่กำลังเป็นประเด็นทางสังคมในขณะนี้ ซึ่งมีข่าวเกี่ยวข้องกับ คุณกันต์ กันตถาวร ซึ่งเป็นพิธีกรในสังคม กรณีนี้บริษัทไม่นิ่งนอนใจ และตระหนักถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น

บริษัทได้พิจารณาหารือร่วมกับคุณกันต์ กันตถาวร ในเรื่องบทบาทการเป็นพิธีกร ซึ่งคุณกันต์ กันตถาวร ได้ขอยุติบทบาทเป็นพิธีกรรายการจนกว่าจะมีความชัดเจนในเรื่องดังกล่าวต่อไป

ด้าน มิน-พีชญา วัฒนามนตรี อีกหนึ่งคนดังที่นั่งแท่นตำแหน่ง ผู้อำนวยการฝ่ายสื่อสารองค์กร ในเครือ ดิไอคอนกรุ๊ป เตรียมตั้งโต๊ะแถลงข่าวชี้แจงข้อเท็จจริงต่าง ๆ ให้ประชาชนได้รับทราบ ในวันศุกร์ที่ 11 ต.ค. เวลา 14.00น. ณ ห้อง Sarocha ชั้น 3 โรงแรมสวิสโฮเต็ล กรุงเทพฯ รัชดา

ล่าสุด ตอนเย็น บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ได้โพสต์ชี้แจงถึงเหล่าดาราที่มาปรากฎตัวเป็นพรีเซ็นเตอร์ และมีชื่ออยู่ในบริษัท โดยแบ่งเป็น 2 ส่วนด้วยกัน ซึ่งส่วนแรกได้กล่าวถึง กันต์ กันตถาวร, แซม ยุรนันท์ และ มิน พีชญา โดยระบุว่า

ขอชี้แจงว่า คุณกันต์ กันตถาวร, คุณแซม ยุรนันท์ ภมรมนตรี และคุณมิน พีชญา วัฒนามนตรี ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจลงนาม ตามหนังสือรับรองบริษัท และไม่ได้เป็นผู้มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแต่อย่างใด เป็นเพียงผู้ช่วย ทำการตลาดสินค้าของบริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จึงขอชี้แจง มาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน

อีกส่วนกล่าวถึง บอย ปกรณ์ และ โดม ปกรณ์ ลัม ระบุว่า

บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด ขอชี้แจงว่า คุณบอย ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ พรีเซ็นเตอร์ ROOM COFFEE และ คุณโดม ปกรณ์ ล้ม พรีเซ็นเตอร์ BOOM COLLAGEN ไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจลงนาม ตามหนังสือรับรองบริษัท และไม่ได้เป็นผู้มีชื่อเป็นผู้ถือหุ้นในบริษัทแต่อย่างใด เป็นเพียงพรีเซ็นเตอร์สินค้า ทำการตลาดสินค้าของ บริษัท ดิไอคอนกรุ๊ป จำกัด จึงขอชี้แจง มาเพื่อให้ทราบโดยทั่วกัน

ในวันเดียวกันนี้ ในรายการโหนกระแส นายณัชภัทร ขาวแก้ว ผอ.ฝ่ายรับเรื่องราวร้องทุกข์และติดตามสอดส่องการประกอบธุรกิจ ระบุถึงกรณีบริษัทขายตรงชื่อดัง ที่ใช้ดาราตัวท็อปของเมืองไทยเป็นพรีเซ็นเตอร์ สร้างดาวน์ไลน์ ชวนให้ประชาชนมาร่วมลงทุนว่า เรื่องนี้ หนักใจพอสมควร เพราะตอนยื่นขอจดทะเบียนไม่ได้มีข้อเท็จจริงตามที่เป็นข่าว โดยตอนจดทะเบียน มีการแจ้งว่าเป็นการหาตัวแทนขายปลีก ซื้อเยอะได้ส่วนลด โดยตัวแทนจะได้ส่วนต่างตรงนั้นไป

ในช่วงหนึ่ง 'หนุ่ม กรรชัย' ได้ถาม นายณิชภัทร ว่า สคบ.มีเจ้าที่ไหม คุณณัชภัทร ตอบกลับทันทีว่า ไม่มี

จากนั้น หนุ่ม กรรชัย เปิดคลิปเสียง โดยไม่ระบุว่าเป็นเสียงของใคร เนื้อหาในคลิป มีชายคนหนึ่งพูดว่า ถูกร้องเรียนไปที่ สคบ. เมื่อไปถึงก็อุทิศบุญให้เทพเทวดาที่ สคบ. และ บางช่วงบอกว่า “เป็นการติดสินบนเทวดา ทุกคนต้องกินต้องใช้ เป็นมนุษย์ก็กินบุญ เป็นเทวดาก็ต้องกินบุญ”

นายณิชภัทร บอกว่า ไม่รู้ในคลิปหมายถึงใคร ใครจะดูแลใคร แต่ยืนยันว่า บอสพอลไม่ได้รู้จักเขาเป็นการส่วนตัว

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/Ci-X4tQzlTQ