สังคม

เปิดพฤติการณ์แก๊งคอลฯ หลอก นศ.ให้เช่าหอพักกักตัว เรียกค่าไถ่จากผู้ปกครอง ผู้เสียหายเพียบ

โดย petchpawee_k

11 ต.ค. 2567

118 views

นักศึกษาถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกให้เช่าหอพักกักตัว เรียกเงินค่าไถ่จากผู้ปกครอง มีนักศึกษาตกเป็นเหยื่อหลายราย 

เมื่อวานนี้ (10 ต.ค.67)  ที่ห้องประชุม  อาคารรัฐสีมาคุณากร มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี (มทส.) อ.เมือง จ.นครราชสีมา ทางมหาวิทยาลัยร่วมกับ สภ.โพธิ์กลาง จัดกิจกรรมเสวนาให้ความรู้ ในหัวข้อ “SUT รู้ทันกลลวง คอลเซ็นเตอร์ ภัยร้ายใกล้ตัว” โดย พ.ต.อ.วีณวัฒน์ ศรีแย้ม ผู้กำกับการ สภ.โพธิ์กลาง และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน สภ.โพธิ์กลาง มาบรรยายให้ความรู้แก่ผู้ร่วมฟังเสวนาทั้งในห้องประชุม และการไลฟ์สดผ่านเพจเฟซบุ๊ค “Suranaree University of Technology” และเพจ “มทส. ที่รัก” ของมหาวิทยาลัย ซึ่งมีคณาจารย์ นักศึกษา และผู้ปกครอง ร่วมฟังเสาวนากันเป็นจำนวนมาก


สาเหตุจากก่อนหน้านี้ มีเหตุการณ์แก๊งคอลเซ็นเตอร์ โทรศัพท์มาใช้อุบายหลอกนักศึกษาให้ไปเช่าหอพักกักตัว แล้วหลอกให้ผู้ปกครองโอนเงินให้นักศึกษา ก่อนที่นักศึกษาจะโอนเงินให้มิจฉาชีพ ซึ่งพบว่ามีนักศึกษามหาวิทยาลัยอื่น ทั้งในพื้นที่ จ.นครราชสีมา และในพื้นที่ภาคอื่นๆ ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพในลักษณะนี้หลายราย  ซึ่งนอกจากเคสลักษณะดังกล่าว ยังมีนักศึกษาของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีสุรนารี ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพรูปแบบต่างๆ อีกกว่า 200 ราย รวมมูลค่าความเสียหายกว่า 3 ล้านบาท


นายอรรถวุฒิ ภูคำวงษ์ ที่ปรึกษาหอพัก มทส. เปิดเผยว่า ในช่วงระหว่างวันที่ 1 ส.ค. – 30 ก.ย. 67 มีนักศึกษา มทส. ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพรูปแบบต่างๆ มากกว่า 200 ราย โดยเฉพาะภัยจากมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทรศัพท์มาใช้อุบายหลอกนักศึกษา ว่ามีส่วนพัวพันกับการกระทำความผิด และออกอุบายให้นักศึกษาไปเช่าหอพักกักตัวเอง แล้วหลอกให้ผู้ปกครองโอนเงินมาให้ ซึ่งเคสลักษณะนี้มีนักศึกษา มทส. ตกเป็นเหยื่อแล้วมากกว่า 10 ราย ในจำนวนนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามตัวไปช่วยเหลือไว้ได้ทัน 2 ราย พฤติกรรมของแก๊งคอลเซ็นเตอร์จะทำงานกันเป็นทีม โดยลำดับเหตุการณ์ คือ


1. ปลอมเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ โทรศัพท์หาผู้เสียหาย ทำเป็นว่ามีหมายเลขบัตรประชาชนไปเกี่ยวข้องคดีต่างๆ เช่น ไปติดตั้งอินเตอร์เนตบ้านไม่ชำระเงินที่ต่างหวัด เว็บพนันออนไลน์ เว็บสื่อลามกอนาจาร เเล้วเเต่มิจฉาชีพจะสร้างสถานการณ์ข่มขู่ให้เหยื่อเกิดความหวาดกลัว เกี่ยวกับคดีต่างๆ ที่จะเกิดขึ้น

2. หลังจากเหยื่อหลงเชื่อมิจฉาชีพ ก็จะให้เหยื่อไปหาสถานที่เงียบๆ คนเดียว สนทนาโดยไม่ให้มีบุคคลที่ 3 อยู่ด้วย และสั่งห้ามบอกใครเด็ดขาด ออกกลอุบายให้เหยื่อไปเช่าห้องพักกักตัวเอง เพื่อพูดคุยคดีความ เหยื่อบางรายกักตัวเอง 7 วัน โดยมิจฉาชีพจะใช้จิตวิทยาพูดคุมเหยื่อผ่านออนไลน์ พร้อมห้ามบอกใครว่าพักอยู่ที่ไหน

3. หลังจากเหยื่อดำเนินการต่างๆ เสร็จ เริ่มทำตามแผน โดยให้เหยื่อโอนค่าการดำเนินคดีก่อน และควบคุมเหยื่อผ่านออนไลน์ตลอดเวลา 24 ชม. ซึ่งมิจฉาชีพจะทำหน้าที่เข้าเวรเปลี่ยนกันควบคุมเหยื่อทางออนไลน์ หลังจากนั้นจะให้เหยื่อหลอกลวงผู้ปกครองสร้างสถานการณ์ต่างๆ ในการหาเงินมาให้ เช่น ให้เหยื่อถ่ายรูปปัจจุบันแล้วตกแต่งภาพผ่านเเอปต่างๆ ว่าเหยื่อโดนทำร้ายร่างกาย หรือให้เหยื่อพิมพ์ข้อความว่าถูกจับตัวหรือหายตัวออกจากหอ แล้วส่งไปให้ผู้ปกครอง พร้อมสั่งให้เหยื่อพิมพ์ข่มขู่ผู้ปกครองตนเองเพื่อให้ได้เงิน หากผู้ปกครองคนไหนหลงเชื่อก็จะโอนให้เหยื่ออย่างรวดเร็ว เพราะมิจฉาชีพใช้เหยื่อเป็นเครื่องมือในการติดต่อผู้ปกครอง ไม่ได้ให้ติดต่อเอง เพราะถ้าผู้ปกครองโอนโดยตรง  ก็จะเกิดข้อสงสัยของปลายทาง ว่าเลขบัญชีใคร อาจจะไม่โอน เลยต้องใช้บัญชีเหยื่อเป็นเครื่องมือและให้เหยื่อโอนเงินให้กลุ่มมิจฉาชีพอีกที

4. หลังจากนั้นมิจฉาชีพจะโทรหาผู้ปกครอง โดยได้เบอร์จากเหยื่อนั้นเอง ข่มขู่ว่าลูกติดพนันออนไลน์ให้นำเงินมาใช้หนี้ หรือถูกจับเรียกค่าไถ่บ้าง แล้วเเต่จะสร้างสถานการณ์ หากผู้ปกครองหลงเชื่อขาดสติ ก็จะเสียทรัพย์ทันที เหตุการณ์ใกล้ตัวกลยุทธของมิจฉาชีพทุกวันนี้ เปลี่ยนเเปลงมีทุกรูปแบบ เคสนักศึกษาล่าสุดนี้  ดีที่ไปช่วยได้ทันเหตุการณ์ รู้ที่พักของเหยื่อที่ถูกหลอกไปเช่าอยู่ เเจ้งผู้ปกครองและคนรอบข้างได้ทันการณ์ห้ามโอน แต่ก็มีการเสียทรัพย์จำนวนหนึ่ง เคสนี้เสียเงิน 33,000 บาท แต่มีบางเคสที่ไปเช่ารีสอร์ตซึ่งอยู่ห่างไกลมหาวิทยาลัย ทำให้ติดต่อไม่ได้ และมีนักศึกษารายหนึ่งที่ถูกหลอกเสียเงินมากที่สุดมากถึง 5 แสนบาท  ขณะที่เมื่อวันที่ 27 ก.ย.67 วันเดียว มีเคสนักศึกษา มทส.ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ 3 ราย เสียเงินไปกว่า 6.9 แสนบาท ซึ่งเบื้องต้น คาดว่าถ้ารวมความเสียหายของเหยื่อทั้งหมดกว่า 200 คน จะมากกว่า 3 ล้านบาท

5. มิจฉาชีพมีการให้เหยื่อตายใจโอนเงินให้ค่าเช่าห้องพัก เพื่อถ่วงเวลาให้เหยื่ออยู่กักตัวเองต่อและหาเเนวทางให้เหยื่อโกหกหลอกให้ผู้ปกครองโอนเงินให้ได้มากที่สุด และจะอ้างว่าทำเรื่องทางคดียังไม่เสร็จ...เงินก็คือเงินเหยื่อที่โอนให้จำนวนก่อนหน้านี้

ในวงเสวนา มีการโชว์ตัวอย่างข้อความที่มิจฉาชีพแชทคุยกับนักศึกษา โดยมิจฉาชีพปลอมเป็นตำรวจ พูดคุยกับนักศึกษา มีการสั่งห้ามนักศึกษาโทรหาใคร และให้นักศึกษา ส่งภาพเอกสารบางอย่างให้


รวมทั้งมีตัวอย่างข้อความที่มิจฉาชีพ แชทคุยกับผู้ปกครอง โดยมีการส่งรูปลูกหลานไปให้ผู้ปกครอง แล้วเรียกเงิน 1 แสนบาท  และเร่งให้ผู้ปกครองโอนเงิน โดยอ้างว่า ต้องส่งเงินให้นายอีกทอดหนึ่ง


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/o2jVEs1abaw


คุณอาจสนใจ