เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 8 ต.ค. ร.ต.อ.พิพัฒน์ชัย ปานพิมพ์ รอง สว.(สอบสวน)สน.ธรรมศาลา รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาท มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตบริเวณท้ายซอยพุทธมณฑลสาย 2 ซอย 27 แขวงศาลาธรรมสพน์ เขตทวีวัฒนา กรุงเทพฯ จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ
ก่อนไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.ท.สุสิริวงษ์ ยอดวงษ์ รอง ผกก.ป.สน.ธรรมศาลา พ.ต.ท.พรม ดาทอง สวป.ธรรมศาลา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนสน.ธรรมศาลา ฝ่ายสืบสวนกก.สส.บกน.7 เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน แพทย์นิติเวช โรงพยาบาลตำรวจ และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู
ที่เกิดเหตุอยู่เกือบสุดซอย ข้างร้านอาหาร พบรถเก๋งโตโยต้า วีออส สีบรอนด์ทอง ทะเบียน 2726 กรุงเทพมหานคร จอดสตาร์ตรถ เปิดเครื่องเสียงดังกระหึ่ม ประตูหน้าเปิดทั้ง 2 บาน เบาะปรับเอนนอนทั้ง 2 ฝั่ง ภายในรถบนเบาะคนขับพบร่างของนายณัฐพล อายุ 42 ปี ชาวจ.นครปฐม นอนเอาขาก่ายไปบนศพของหญิงสาวที่นอนอยู่บนเบาะด้านซ้าย ในสภาพหมดสติ มีบาดแผลเป็นรูที่หน้าผากจากการถูกยิงด้วยลูกเหล็กของปืนหน้าไม้ เลือดอาบใบหน้า บนลำตัวพบปืนหน้าไม้ 1 กระบอกและที่ข้อมือขวาพบมีดพกเปื้อนเลือดคล้องยางยืดติดกับข้อมมือกันหลุด จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน
ส่วนศพหญิงสาวทราบชื่อน.ส.ชลธิชา อายุ 36 ปี อยู่บ้าน ในซอยเพชรเกษม 110 แยก 7 แขวงหนองค้างพลู เขตหนองแขม กรุงเทพฯ ผู้เป็นภรรยา นอนหงาย จมกองเลือด แขนซ้ายห้อยมานอกรถในชุดเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีฟ้า กางเกงขายาวสีดำ มีบาดแผลถูกแทงด้วยอาวุธมีดตามร่างกายกว่า 20 แผล เจ้าหน้าที่ทำการปฐมพยาบาลนายณัฐพล เบื้องต้นจนรู้สึกตัวก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลราชพิพัฒน์
จากการสอบสวนเบื้องต้นนายณัฐพล พอให้การได้ว่า ตนระแวงว่าภรรยาแอบมีชู้ จึงเปิดกระโปรงหลังรถเข้าไปแอบซ่อนตัว ภรรยาขับรถออกมาจากบ้านพักย่านหนองแขม โดยภรรยาทำงานเป็นคนขับรถประจำ ซึ่งอู่อยู่ปากซอยที่เกิดเหตุ จากนั้นภรรยานัดกับชายชู้ไว้ที่ร้านอาหารตามสั่งใกล้เคียงกับอู่จอดรถ ตนจึงเปิดกระโปรงท้ายออกมา แล้วออกมาขับรถเข้าไปในซอย เกิดทะเลาะกันอย่างรุนแรง จนก่อเหตุบานปลายดังกล่าว
ส่วนน.ส.รัชนี อายุ 35 ปี คนเห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า ก่อนเกิดเหตุเห็นรถคันดังกล่าวขับเข้ามาในซอย เหมือนไม่ชินทาง เปิดเครื่องเสียงดังลั่นรถ ขับเข้าไปสุดซอย ซึ่งเป็นซอยตัน แล้วกลับรถออกมา ขับส่ายไปมาชนกำแพงทั้งซ้าย ขวา จนกระทั่งมาจอดอยู่กลางถนน ประตูด้านซ้ายถูกเปิดออก มีเสียงผู้หญิงร้องขอความช่วยเหลือ โดยมีผู้ชายคล่อมร่างแล้วใช้มีดแทงไม่ยั้ง เสียงร้องโหยหวน ซึ่งก็ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วย เพราะผู้ชายตะโกนว่าเรื่องในครอบครัว แล้วบอกอีกว่ามันมากินข้าวกับชู้ แบบนี้ต้องฆ่าให้ตาย และอีกอย่างคือ ห่างจากจุดเกิดเหตุไปเพียงแค่ไม่ถึง 20 เมตร มีกองถ่ายมาถ่ายหนัง จึงสับสนว่าเป็นการถ่ายหนังหรือเรื่องจริง
จนกระทั่งเหตุการณ์สงบลง จึงเดินไปดูก็พบว่าเป็นเรื่องจริง สักพักก็มีบุรุษไปรษณีย์นำกระเป๋าถือของผู้หญิงคนตายมาส่งให้ตน บอกว่า ร้านอาหารตามสั่งกลางซอยเก็บได้ เพราะฝ่ายชายโยนลงจากรถไว้หน้าร้าน แล้วเห็นว่ารถคันดังกล่าวขับเข้ามาในซอย ซึ่งเป็นซอยตัน จึงเอามาฝากไว้กับตน ที่บ้านอยู่สุดซอย ฝากให้หญิงคนดังกล่าวด้วย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ฝ่ายสืบสวนได้ลงพื้นที่สอบสวนพยานแวดล้อมทั้งหมดทราบว่า ผู้ตายได้พาชายหนุ่มหน้าตาดี ผิวขาว มากินอาหารตามสั่งใกล้เคียงกับอู่รถประจำทางอยู่บ่อยครั้ง ล่าสุดคือช่วงเที่ยงของวันที่7 ต.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งคาดว่านายณัฐพล อาจระแคะระคายมานานแล้วจึงแอบมาท้ายรถ แล้วแสดงตัวจนกิ๊กของผู้ตายเห็นและหลบหนีไปได้ทัน จึงรอดตายหวุดหวิด อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่จะได้ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดใกล้เคียงที่เกิดเหตุ และรอสอบสวนนายณัฐพล ภายหลังอาการดีขึ้น เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงของการก่อเหตุครั้งนี้ต่อไป