สังคม

เขตเศรษฐกิจเชียงใหม่ น้ำแห้งแล้ว แต่โคลนเต็มเมือง - ‘ภูมิธรรม’ ขอโทษบางส่วนช่วยเหลือล่าช้า ไม่ได้กินข้าว

โดย thichaphat_d

8 ต.ค. 2567

39 views

เขตเศรษฐกิจเมืองเชียงใหม่น้ำแห้งแล้ว แต่โคลนตมเต็มเมือง ผู้ประกอบการทยอยล้างทำความสะอาดร้าน พบข้าวของเปื้อนโคลนเพียบ บางคนถึงกลับปล่อยโฮ หลังเข้าสำรวจความเสียหาย ฝากนายกฯ คนใหม่ต้องเข้ามาดูความเสียหายเขตเศรษฐกิจ ชี้ ใกล้ช่วงไฮซีซั่นแล้ว ไม่รู้เดือนสองเดือนจะฟื้นฟูเสร็จหรือไม่

กรณีน้ำปิงทะลักท่วม หลายพื้นที่ในจังหวัดเชียงใหม่ ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชน และเขตเศรษฐกิจของเมืองเชียงใหม่ได้รับผลกระทบกินพื้นที่เป็นวงกว้าง ล่าสุดวานนี้ (7 ต.ค.67) หลายพื้นที่ในเขตเมืองน้ำแห้งแล้ว แต่บางจุดโคลนตมเต็มพื้นที่

ทีมข่าวสำรวจสถานการณ์น้ำในเขตเมือง เริ่มต้นที่ ถนนช้างคลาน พบว่า จากเดิมเมื่อวันก่อนที่น้ำอยู่ระดับเข่าไปถึงเอว แต่ล่าสุดน้ำแห้งแล้ว แต่บางจุดยังมีน้ำขังอยู่ในระดับตาตุ่ม ซึ่งรถสามารถสัญจรไปมาได้อย่างสะดวกแล้วเช่นกัน ขณะเดียวกันบริเวณโรงแรมแชงกรีลา โรงแรมหนึ่งเดียว บนถนนช้างคลานที่ไม่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วม เนื่องจากใช้ Flood Gate ที่สูงกว่า 1.80 เมตร ยาว 15 เมตร รับมือกับน้ำ จนได้รับเสียงชื่นชมเป็นอย่างมาก ว่ามีการเตรียมการรับมือเป็นอย่างดี ล่าสุดทางโรงแรมได้เอา Flood Gate ออกแล้ว ส่วนไนท์บาซาร์ น้ำแห้งแล้วเช่นกัน ผู้ประกอบการยังคงทยอยทำความสะอาดร้านและสำรวจความเสียหายต่อเนื่อง

ย้อนกลับไปตั้งแต่ช่วงสาย ทีมข่าวได้สำรวจตามเมืองเชียงใหม่ บริเวณที่ติดกับแม่น้ำปิง  ตั้งแต่เทศบาลเมืองเชียงใหม่ เรื่อยมาตามถนนวังสิงห์คำ บริเวณที่มีเจดีย์ขาว เรื่อยมายังโซนตลาดนวรัตน์ น้ำแห้งแล้ว แต่โคลนเต็มถนน เทศบาลได้เริ่มนำรถน้ำมาฉีดทำความสะอาด โดยเมื่อวานนี้ เน้นให้เสร็จเฉพาะบนถนนวังสิงห์คำก่อน  เนื่องจากว่าต้องการให้ประชาชนสามารถเข้ามาติดต่อและประสานงานที่เทศบาลเมืองเชียงใหม่ได้สะดวก ส่วนจุดอื่นๆจะเริ่มปฏิบัติการต่อไปเช้าวันนี้ (8 ต.ค.67)

ต่อมา ทีมข่าวลงพื้นที่สำรวจความเสียหายตลาดนวรัตน์ อีกหนึ่งเขตเศรษฐกิจเมืองเชียงใหม่หลังน้ำลด พบโคลนตมเต็มโซนนี้ เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่ติดกับแม่น้ำปิง ขณะที่ข้าวของภายในร้านเปื้อนโคลนเพียบ ด้านผู้ประกอบการทยอยเข้าพื้นที่สำรวจความเสียหายและล้างทำความสะอาดต่อเนื่อง บางร้านข้าวของเสียหายเป็นจำนวนมาก ต้องเก็บมากองไว้หน้าร้านเตรียมทิ้ง บางร้านของที่พอล้างแล้วนำมาใช้ใหม่ได้ ก็นั่งล้างกันอยู่หน้าร้านตัวเอง ขณะที่บางคนแม้แต่หม้อหนึ่งใบก็มีค่า เก็บมาล้างทำความสะอาดหวังให้กลับมาใช้ได้ใหม่อีกครั้ง

ที่ร้านเชียงฮง ซึ่งขายเครื่องครัว พบว่าพนักงานกำลังช่วยกันถูโคลนออกจากร้าน โดยสินค้าภายในร้านเสียหายเป็นจำนวนมาก วางกองอยู่กับพื้นเปื้อนโคลนเพียบ ป้าแดง อายุ 54 ปี พาทีมข่าวเดินเข้าไปสำรวจความเสียหายภายในร้าน ทันทีที่เข้าไปเจอข้าวของเปื้อนโคลน ถึงกลับปล่อยโฮ เล่าว่า เห็นของเสียหายแล้ว ใจหายมาก อยู่ตรงนี้มา 30 กว่าปีแล้ว น้ำไม่เคยท่วมเข้าร้าน  มันพูดลำบาก ทำใจไม่ได้ ส่วนของที่เสียหาย จากนี้คงนำกลับมาขายใหม่ได้ยากแล้ว การฟื้นฟูก็ไม่รู้จะเป็นยังไงต่อ ไม่รู้จะมีใครช่วยได้หรือไม่

นอกจากนี้ ทีมข่าวลงพื้นที่กาดหลวง หนึ่งในเขตเศรษฐกิจของเมืองเชียงใหม่ ซึ่งระดับน้ำลดลงแล้ว แต่มีโคลนตมบางส่วนในพื้นที่กาดหลวง โดยเฉพาะโซนที่ติดกับริมน้ำแม่ปิง ส่วนผู้ประกอบการในพื้นที่ทยอย กลับเข้ามายังร้านค้า เพื่อสำรวจความเสียหายและล้างทำความสะอาดร้านต่อเนื่อง โดยผู้ประกอบการทุกร้านต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า ครั้งนี้หนักมากและไม่เคยมีกรณีที่โคลนตมเข้ามาถึงในตัวร้านมาก่อน เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว แต่ละร้านต่างช่วยกันเอาไม้ถูโคลนออกจากร้าน

ช่วงหนึ่งขณะที่ทีมข่าวลงพื้นที่ เจอกับร้านผ้า ชื่อร้านเชียงใหม่ใจดี สาขากาดหลวง  หนึ่งในร้านที่ถูกน้ำทะลักเข้าท่วมและผู้ประกอบการกำลังช่วยกันกำจัดโคลนออกจากร้าน

โดยคุณสุจินดา อายุ 57  ปี ผู้จัดการร้าน พาทีมข่าวเดินสำรวจ พบว่า ผ้านับพันม้วน ช่วงล่างของม้วนผ้าถูกน้ำท่วมและทิ้งรอยโคลนไว้ทุกม้วน เสียหายอย่างหนัก

คุณป้าสุจินดา เล่าว่า จุดนี้น้ำไม่เคยทะลักท่วม แม้แต่ปี 54 ก็ท่วมแค่ปริ่มๆ  ความจริงแล้วทางร้านก็นำกระทรอบทรายมากั้นน้ำแล้ว ไม่ได้ชะล่าใจ แต่สุดท้ายก็ไม่รอด หลังน้ำลด ตอนแรกตั้งใจว่าเข้ามาร้านจะมาทำความสะอาดเพียงเล็กน้อยเพราะคิดว่าน้ำเข้าไม่เยอะ แต่ปรากฏว่าเรียบร้อยทั้งหมด เสียหายหนัก  ผ้าเกรดพรีเมี่ยมเสียหายทั้งหมด ทั้ง 3 สาขา คือ สาขากาดหลวง / สาขาช้างม่อย / สาขาข่วงเมรุเชียงใหม่  ซึ่งนาทีที่มาเห็นผ้าเปื้อนโคลน แทบจะทำใจไม่ได้ เสียหายจนน้ำตาตก ตั้งใจใส่ชุดมาขายของต้อนรับลูกค้า แต่ที่ไหนได้โคลนเปื้อนผ้าทุกม้วน

ต่อจากนี้ ตนก็ไม่รู้ว่าจะทำอย่างไรกับผ้าที่เปื้อนโคลน ส่วนตัวมองว่าอาจขายไม่ได้ ถึงเอาไปล้าง แล้วชาวบ้านมาซื้อในราคาถูกไป ก็ไม่รู้จะนำไปใช้ต่อได้หรือไม่ ซึ่งเราก็ต้องทำใจ นายห้างก็บอกว่าจะทำยังไงได้ เพราะมันภัยธรรมชาติ

ส่วนความเสียหายทั้ง 3 ร้านยังประเมินไม่ได้  แต่หากประเมินเฉพาะสาขากาดหลวง น่าจะหลัก 50 ล้านบาท เพราะสาขานี้ผ้ามีราคาแพง มีตั้งแต่ผ้าเมตรละ 300 / 500 / ส่วนลูกไม้ราคาเมตรละ 1,200-1,400 บาท เสียหายหมดเลย และยิ่งมาเห็นโคลน ยิ่งใจสลาย  

ทั้งนี้ คุณป้าสุจินดา  ยังขอฝากไปยังเทศบาลให้เข้ามาช่วยเหลือชาวเมืองเชียงใหม่ พร้อมกับฝากไปถึงรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ว่า  “รัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ต้องมาดูความเสียหาย เพราะปีนี้เสียหายเยอะจริงๆ ทั้งเชียงราย เชียงใหม่ เหมือนกันหมด นายกฯ ต้องมาเข้ามาดูย่านนี้ เพราะเป็นย่านเศรษฐกิจและตอนนี้พังแล้ว เศรษฐกิจหยุดนิ่งฟื้นฟูได้ตอนไหนก็ยังไม่รู้ เดือนนี้ทั้งเดือนและเดือนหน้าทั้งเดือน ไม่รู้จะฟื้นฟูได้หรือไม่ อีกอย่างช่วงนี้ใกล้เข้าหน้าไฮซีซัน ปกตินักท่องเที่ยวจะมาเที่ยวช่วงพฤศจิกายน-ธันวาคม แต่กลับกลายมาเป็นแบบนี้ ดังนั้นรัฐบาลต้องเข้ามาช่วยดูแลเรื่องการท่องเที่ยวของบ้านเราแล้ว”

---------------------------------------

นายกฯ ห่วงน้ำท่วมเชียงใหม่ สั่ง ศปช.ส่วนหน้าเร่งช่วยเหลือ เตรียมคุย ครม. วางแผนแก้ปัญหาน้ำท่วมระยะยาว

นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี  ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งหลายพื้นที่ยังอยู่ในวิกฤติ ว่า เห็นข่าวแล้ว ขอส่งความห่วงใยไปถึงคนเชียงใหม่ด้วย เพราะหลายจุดจริงๆ แต่เราก็มีศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัย วาตภัย และดินโคลนถล่ม (ศปช.) ส่วนหน้าเข้าไปดูแล แต่จากการสอบถามประชาชนในพื้นที่ก็ถือว่าโชคดี เพราะได้รับ SMS แจ้งเตือน ก่อนล่วงหน้าหลายวัน จึงมีการเตรียมการพอสมควร แต่เมื่อน้ำมาจริงๆก็ถือว่าหนัก ซึ่งทุกฝ่ายก็ช่วยกันเต็มที่  

ส่วนจะถือโอกาสปรับเปลี่ยนเรื่องผังเมืองให้รับกับสถานการณ์น้ำหรือไม่  นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเป็นภาพใหญ่ เราต้องมีแพลน เอ บี ซี ดี ลำดับแรก คือ แก้ปัญหาเฉพาะหน้าว่ารับมือได้แค่ไหน การเยียวยาต้องเกิดขึ้นเร็วที่สุด แต่เรื่องแผนจัดการน้ำระยะยาว ต้องมาคุยกัน ต้องมีคณะกรรมการพูดคุยอย่างอย่างจริงจัง ต้องนำผู้รู้มาวางแผน ส่วนตัวยอมรับว่า เห็นน้ำท่วมตั้งแต่ช่วงหาเสียง อยากวางแผนระยะยาวให้จบ และเป็นสิ่งที่ยึดไว้ว่า ไม่ว่าจะรัฐบาลไหน ให้ทำเรื่องนี้ต่อให้จบ  เพราะเป็นประโยชน์ต่อประเทศจริงๆ ซึ่งจะนำเรื่องนี้ไปพูดคุยใน ครม. เพื่อดูว่าสามารถทำอะไรได้บ้าง ให้ ครม.ช่วยกันคิดว่าจะวางแผนระยะยาวได้อย่างไร ถ้าจะใช้เวลาถึง 10 ปีในการซ่อมและสร้าง ก็ต้องใช้ เพราะเป็นสิ่งที่ต้องทำ หากเทียบกับงบฯ แก้ปัญหาเฉพาะหน้า ก็ถือว่ามากพอสมควร แต่เรื่องแผนระยะยาวต้องผลักดันให้เกิดขึ้นให้ได้

------------------------------------------

‘ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์’ เปิดโรงครัว-แจกถุงยังชีพ ส่งกำลังใจช่วยชาวเชียงใหม่พ้นวิกฤตอุทกภัยไปด้วยกัน

เมื่อวานนี้ (7 ต.ค.67) นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เปิดโรงครัว “ครัวปันรัก จากใจ ดร.ทักษิณ ชินวัตร” บริเวณตลาดแปดเก้าพลาซ่า ตำบลหนองหอย อำเภอเมืองเชียงใหม่ เพื่อทำข้าวกล่องแจกจ่ายให้กับประชาชนชาวเชียงใหม่ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่น้ำท่วมสูง และประชาชนไม่สามารถออกมาจับจ่ายใช้สอย หรือไม่สามารถเดินทางออกมาได้อย่างสะดวก พร้อมทั้งยังได้สนับสนุนวัตถุดิบการเปิดโรงครัวสนาม ให้กับสถานีตำรวจภูธรจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อทำอาหารช่วยเหลือประชาชนชาวเชียงใหม่ ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยน้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ด้วย

ขณะที่นางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ส่งกำลังใจให้ประชาชนชาวเชียงใหม่ โดยได้สนับสนุนข้าวกล่อง พร้อมอุปกรณ์เครื่องครัว เต็นท์ และเรือลำเลียง เพื่อกระจายอาหาร และข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้กับประชาชนชาวเชียงใหม่ ที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตัวเมืองเชียงใหม่ ต่างอำเภอ ตามชุมชนต่าง ๆ ที่ได้รับผลกระทบ โดยใช้พื้นที่กาดต้นพยอม บริเวณหลังมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ เป็นสถานที่ตั้งโรงครัวประกอบอาหาร พร้อมข้อความให้กำลังใจว่า "ขอส่งกำลังใจ๋ หื้อจาวเจียงใหม่ พ้นวิกฤตไปโตยกั๋นเน้อเจ้า"

-----------------------------------------

‘ภูมิธรรม’ ขอโทษชาวเชียงใหม่บางส่วน ได้รับการช่วยเหลือล่าช้า-ไม่ได้กินข้าว วอนเข้าใจคนหน้างาน วิจารณ์ได้แต่อยากให้คิดมุมบวกบ้าง

นายภูมิธรรม เวชชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เผยกระแสข่าวประชาชนบางส่วนในจังหวัดเชียงใหม่ ไม่ได้กินข้าว เพราะการช่วยเหลือจากหน่วยงานรัฐเข้าไม่ถึงนั้น หากทราบแล้วก็จะรีบจัดการ ซึ่งการเข้าไม่ถึงมีความเป็นไปได้ เพราะน้ำมาเร็วมาก มาทุกทิศทาง แต่ก็พยายามเต็มกำลัง พร้อมกล่าวขอโทษที่ยังทำหน้าที่ได้ไม่เต็มที่ และจะพยายามเข้าไปแก้ไขปัญหาให้ได้มากที่สุด ย้ำว่าเสบียงอาหารในภาพรวมไม่มีปัญหาเลย อาจมีบางส่วนที่ยังติดขัดอยู่บ้าง เพราะน้ำท่วมทั้งจังหวัด ซึ่งเราก็ดูดาวเทียมและทุกส่วนก็พยายามแก้ไขปัญหากันอยู่แล้ว ยืนยันว่าเราพยายามรับฟัง แก้ไขปัญหาและทำให้ดีที่สุดเท่าที่เราจะทำได้

โดยขณะนี้ อยู่ระหว่างการจัดการปัญหาเรื่องโคลน ซึ่งหลายส่วนสามารถเคลียร์ออกมาได้แล้ว ส่วนพื้นที่เชียงใหม่ ไม่น่าเป็นห่วงเพราะฝนหยุดตกแล้ว รอแค่น้ำหลากออกไป  ซึ่งขณะนี้ได้มีการเพิ่มรถยกสูงขนาดใหญ่เข้าไปช่วยลำเลียงคนออกจากพื้นที่ คาดว่าใน 2 วันนี้ สถานการณ์จะคลี่คลาย ส่วนการขนย้ายช้างและคนที่อยู่รอบลำน้ำปิง ได้นำออกมาหมดแล้ว

ส่วนพื้นที่จังหวัดนนทบุรี ที่แม่น้ำเจ้าพระยาเริ่มเอ่อเข้าท่วมตามแนวตลิ่งบ้านเรือนประชาชนนั้น นายภูมิธรรม กล่าวว่า ได้มีการประกาศเตือนเบื้องต้นแล้ว และมีการจัดสรรการระบายน้ำ ไม่ให้มากจนเกินไป แต่ยอมรับว่าอาจจะมีผลกระทบบ้าง ทั้งจังหวัดอยุธยาพื้นที่อำเภอบางบาลและโผงเผง หรือในเขตปทุมธานีและนนทบุรี เนื่องจากเป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ซึ่งจังหวัดอยุธยาก็เป็นพื้นที่นอกคันกั้นน้ำด้วย เมื่อเกิดน้ำท่วมก็ต้องมีการเยียวยาไป

ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าการแก้ไขปัญหาไม่สามารถแก้ได้ทั้งหมด เพราะเป็นเรื่องใหญ่ที่ต้องแก้ทั้งระบบ ทั้งการเคลื่อนย้ายประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ลุ่มต่ำ ที่เกิดน้ำท่วมซ้ำซาก ซึ่งงบประมาณหนึ่งปีในการดูแลเรื่องน้ำท่วม เป็นแสนล้าน ซึ่งวันนี้จะมีการรายงานต่อที่ประชุมคณะรัฐมนตรี

นายภูมิธรรมยอมรับว่า หลักเกณฑ์เยียวยาประชาชนที่จะปรับเป็น 9,000 บาททุกครัวเรือนนั้น มีปัญหา ที่ยากลำบากเรื่องระเบียบ ไม่รวดเร็วอย่างที่ใจอยากได้ ซึ่งวันนี้จะเสนอเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรี เพื่อทำเรื่องอนุมัติย้อนหลัง เพราะมองว่าประชาชนกำลังเดือดร้อน ไม่ควรพูดเรื่องหลักเกณฑ์ 3,000 5,000 7,000 แล้ว เพราะน้ำเข้าก็ท่วมทั้งบ้าน ซึ่งในส่วนนี้ต้องใช้ระยะเวลาในการแก้ระเบียบกฎเกณฑ์อีกหลายอย่าง เพราะตอนนี้มีเพียงหลักเกณฑ์เก่า ซึ่งจะพยายามให้กระทรวงมหาดไทย สั่ง ปภ. เร่งจ่ายดูแลประชาชนไปพลางก่อน และหลังจากนี้จะหารือกับกฤษฎีกาต่อไป

ส่วนเงินเยียวยา ที่ถูกมองว่าไม่สมดุลกับความเสียหายนั้นนายภูมิธรรม กล่าวว่า ไม่สมดุลอยู่แล้ว เพราะเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น รุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมาและเป็นเหตุการณ์ที่โคลน สิ่งที่วางไว้เป็นกฎเกณฑ์เก่า ซึ่งต้องทำตามกฎเกณฑ์ที่กฎหมายอนุญาตไว้



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/THGvBFTeif8

คุณอาจสนใจ

Related News