สังคม

'แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์' ปฏิเสธทุกข้อหา โดนตรวจสอบเส้นทางการเงิน - ลูกค้ายังแห่ขายทอง ตร.ยึดทองไปตรวจสอบ

โดย nattachat_c

1 ต.ค. 2567

22 views

ผู้การ ปคบ.เผย ‘แม่ตั๊ก-ป๋าเบียร์’ ให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน จ่อออกหมายเรียกคนร่วมไลฟ์รีวิว อินฟลูฯ-คนดัง สอบปากคำ ภาพ ตร.ร่วมเฟรมแม่ตั๊กหากเกี่ยวข้องเอาผิดวินัย-อาญา ยันไม่กระทบคดี ด้าน ตร.บุกร้านทอง ย่านหทัยราษฎร์ ยึดอุปกรณ์-เอกสาร-ทองคำบางส่วนของลูกค้าไปตรวจสอบ ทองที่ห้อยอยู่ในร้านหลังหยุด 1 วันหายเกลี้ยงทั้งร้าน


วานนี้ (30 ก.ย. 67) พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผู้บังคับการกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) เปิดเผยภายหลังตำรวจได้ขอศาลอนุมัติหมายจับ 3 หมายจับ (รวม 4 ข้อหา) โดยมีผู้ต้องหาคือ น.ส.กรกนก หรือแม่ตั๊ก และ นายกานต์พล หรือป๋าเบียร์ และหมายค้นอีก 2 จุด จนสามารถจับกุมผู้ถูกกล่าวหาไว้ได้ เบื้องต้น ทั้งคู่ยังคงให้การปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา และไม่ขอให้การใด ๆ


โดยคดีนี้ เป็นคดีที่ส่งผลกระทบต่อประชาชน แม้ว่าขณะนี้ จะมีผู้เสียหายมาร้องทุกข์เพียงแค่ 2 คน แต่ก็มีผู้เสียหายจำนวนมากที่ยังไม่ได้มาร้องทุกข์กับตำรวจ ดังนั้น พนักงานสอบสวนจะคัดค้านการประกันตัว และจะฝากขังต่อศาลอาญาในวันนี้ (1 ต.ค. 67) และการประกันตัวให้เป็นดุลพินิจของศาล


ส่วนพยานหลักฐานที่ตรวจยึดได้จากบ้านของแม่ตั๊ก ที่มีทั้งตู้เซฟ และอาวุธปืน 4 กระบอก ตรวจสอบเบื้องต้น อาวุธปืนมีทะเบียน โดยเจ้าหน้าที่ก็ได้เก็บรวบรวมหลักฐานเอกสารได้พอสมควร แต่ยังไม่สามารถเปิดเผยได้ เพราะอยู่ระหว่างการตรวจสอบ อาจกระทบต่อคดี แต่มีการตรวจยึดทองได้บางส่วน


ขณะที่ทรัพย์สินอื่น ๆ เช่น รถหรูหลายคัน ที่มีกระแสข่าวว่าถูกขนย้ายไปอำเภออรัญประเทศ จ.สระแก้ว นั้น ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้มีการเฝ้าสังเกตการณ์ ติดตามทรัพย์ ตั้งแต่ก่อนที่หมายจับจะออกอยู่แล้ว ตลอดจนมีการเฝ้าระวังตามแนวชายแดน เบื้องต้น ยังไม่พบว่ามีการยักย้ายถ่ายเทรถหรูออกนอกประเทศ


ทั้งนี้ จะรายงานคดีไปยัง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เพื่อให้ดำเนินการสืบเส้นทางการเงิน และทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิด เนื่องจากคดีนี้เป็นมูลฐานความผิดฐานฉ้อโกงประชาชน


ขณะที่ ตอนนี้ ตำรวจยังอยู่ระหว่างขยายผลบัญชีแถว 2 และ แถว 3 รวมถึงบุคคลที่มาร่วมรีวิว ทั้งอินฟลูเอนเซอร์ ดารา ศิลปิน เพื่อออกหมายเรียกมาสอบปากคำว่า มีส่วนรู้เห็นหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้น การไลฟ์รีวิวร่วมกันเข้าข่ายความผิดร่วมกันโฆษณาโดยใช้ข้อความที่ไม่เป็นธรรมต่อผู้บริโภค แต่ยืนยันว่า จะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย


ส่วนที่ปรากฎภาพตำรวจสนิทสนมกับแม่ตั๊ก ยืนยันว่า ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว หากคนไหนมีส่วนเกี่ยวข้องก็ให้ดำเนินการทั้งทางวินัย และทางอาญา ยืนยันว่า ภาพดังกล่าวไม่กระทบต่อการดำเนินคดี เพราะผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนการสั่งการให้ดำเนินคดีไปตามพยานหลักฐาน และให้เกิดความเป็นธรรม


ด้าน ตำรวจกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการคุ้มครองผู้บริโภค (บก.ปคบ.) ได้เข้าตรวจสอบภายในร้านทองเคทูเอ็น เจ้าหน้าที่ชุดหนึ่งเข้าตรวจสอบภายในร้านทองเคทูเอ็น เจ้าหน้าที่ได้มีการพูดคุยกับผู้จัดการร้านประมาณ 5 นาที ก่อนจะพาเดินเข้าไปภายในห้องแยกที่อยู่หลังเคาน์เตอร์ทอง


ในวันเดียวกัน ผู้แทนสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) เดินทางมายังร้านทองเคทูเอ็น ย่านหทัยราษฎร์ เพื่อส่งหนังสือเรียกครั้งที่ 2 พร้อมเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า วันนี้ ตนเป็นตัวแทนมาส่งหนังสือเรียกให้เข้ามาให้ข้อมูลเป็นครั้งที่ 2 หลังจากที่ส่งหนังสือเรียกครั้งแรกไปเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 26 ก.ย. 2567 ที่ผ่านมา


ส่วนบรรยากาศที่ร้านทองเคทูเอ็น ย่านหทัยราษฎร์ ลูกค้าจำนวนมากทยอยไปขายทองคืน หนึ่งในนั้นคือ นางสาววิใลวรรณ ศรีประสงค์ อายุ 37 ปี พร้อมเพื่อนอีก 2 คน บินตรงมาจากประเทศกัมพูชา เพื่อนำทองมาขายคืน โดยเสียค่าเดินทางขาเดียวกว่า 5,000 บาท โดยตั้งใจจะนำปี่เซียะที่ซื้อมาในราคา 33,000 บาท มาขายคืน


โดยเธอบอกว่าตั้งแต่ตอนที่สั่งซื้อและเมื่อได้รับปี่เซียะ รู้สึกว่าของมีความเปราะบางมาก ในตอนนั้น ได้ติดต่อทางร้านเพื่อขายคืน แต่ทางร้านตีราคารับซื้อคืนให้เพียง 10,000 บาท ซึ่งทำให้เธอรู้สึกไม่พอใจ แต่ไม่สามารถทำอะไรได้ เนื่องจากตนทำงาน และพักอยู่ต่างประเทศ


ซึ่งการเดินทางครั้งนี้ มาตามคำแนะนำของเพื่อนจากมาเลเซีย ซึ่งเพื่อนได้บินมาขายได้สำเร็จก่อนหน้านี้ แล้วเพื่อนแนะนำว่าให้รีบนำมาขายคืน ก่อนที่จะนำมาขายคืนไม่ได้ เพราะกังวลว่าเค้าจะถูกจับก่อน


แต่ในวันนี้ เมื่อเดินทางมาถึงกลับพบว่า ร้านได้ปิดรับคิวแล้ว เธอพยายามต่อรองโดยชี้แจงว่ามาจากต่างประเทศ แต่ทางร้านปฏิเสธ และให้เธอเดินทางมาอีกครั้งในวันถัดไป


น.ส.วิใลวรรณ ยอมรับว่า รู้สึกเสียใจ และไม่พอใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากตั้งใจจะรีบเดินทางกลับไปทำงานที่กัมพูชาต่อ ทั้งนี้ เธอยังเผยว่าเหตุผลที่ตัดสินใจซื้อปี่เซียะเป็นเพราะความเชื่อมั่นในความดีของ 'แม่ตั๊ก' แต่หลังจากเหตุการณ์นี้ เธอระบุว่า จะไม่ใช้บริการร้านดังกล่าวอีกต่อไป


ด้าน  พ.ต.อ.ยิ่งยศ ฉลาดปรุ ผู้กำกับการ สน.นิมิตรใหม่ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ ปคบ. ได้ตรวจยึดเฉพาะทองคำที่ลูกค้านำมาขายคืนเท่านั้น ไม่ได้นำทองคำส่วนอื่นในร้านไปตรวจสอบ


และหลังจากที่ได้พูดคุยกับผู้จัดการร้าน ทราบว่า ร้านยังคงเปิดให้บริการตามปกติ ลูกค้ายังสามารถนำทองมาขายคืนได้เช่นเดิม โดยเงินที่นำมาจ่ายคืนให้ลูกค้าจะมาจากการนำทองคำเหล่านั้นไปขายต่อ เพื่อนำเงินมาหมุนเวียนอีกที พร้อมแนะนำให้ลูกค้าติดตามความเคลื่อนไหว และเงื่อนไขต่าง ๆ ผ่านทางเพจของร้านทองเคทูเอ็น หากมีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ทางร้านจะแจ้งให้ทราบ


ในวันเดียวกัน ที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ รรท.อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ มอบหมายให้ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงินนอกระบบ และโฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ เป็นผู้แทนรับหนังสือแจ้งเบาะแสจาก นายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากรรมาธิการ การกฎหมาย การยุติธรรม และสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร


เพื่อให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ พิจารณาสืบสวน สอบสวน ดำเนินคดีกับ 'แม่ตั๊ก' กรกนก และ นายกานต์พล เรืองอร่าม หรือ 'ป๋าเบียร์' ที่ได้ประกาศขายทองออนไลน์ ซึ่งสินค้าไม่ตรงกับมาตรฐานที่ประกาศ ทำให้มีผู้เสียหายในเบื้องต้น จำนวนกว่า 241 ราย ทั้งในกรุงเทพมหานคร ต่างจังหวัด และต่างประเทศ ทำความเสียหายที่มีผลกระทบรุนแรงต่อความสงบเรียบร้อย และศีลธรรมอันดีของประชาชน



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/hknAS9RXTEc

คุณอาจสนใจ

Related News