จ่อออกหมายจับ ‘ครูสาว’ ดักชิงเงินเมียรองปลัดกระทรวงเกษตรฯ พบประวัติ เคยก่อคดีลักทรัพย์เพียบ

ตร.บุรีรัมย์ ให้ครูต้องสงสัยชิงเงิน เมียรองปลัดกระทรวงเกษตรฯ หายใจอีกวัน หลังพบกล้องวงจรปิดเกี่ยวโยงไปถึงธนาคาร ที่เอาเงินไปฝากที่ตู้ ATM  ตร.รอหลักฐานขอหมายศาล ล่าสุด ผกก.ตั้งข้อหารอแล้ว

ความคืบหน้ากรณีคนร้ายบุกปีนรั้วบ้านภรรยารองปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เพื่อหวังจะชิงทรัพย์ โดยมีกล้องวงจรปิดจับภาพไว้ได้  

เมื่อคนร้ายปีนรั้วหลังบ้านบริเวณโรงจอดรถแล้ว ก็เข้าไปหันรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย จากที่จอดหันหน้าเข้าบ้าน ก็กลับรถหันออกจากบ้าน กะว่าถ้าชิงทรัพย์แล้วก็จะชิงรถไปด้วยเลย จากนั้นเมื่อผู้เสียหายเดินออกมาจะขี่รถจักรยานยนต์ออกไปเปิดร้าน คนร้ายก็เข้าประชิดตัวพยายามแย่งกระเป๋าสะพาย โดยคนร้ายมีมีดเป็นอาวุธ ผู้เสียหายพยายามต่อสู้ขัดขืนแต่สู้แรงไม่ไหวและบาดเจ็บจากคมมีด จึงยอมปล่อยกระเป๋า คนร้ายจึงชิงกระเป๋าที่มีเงินสด 15,000 บาทหลบหนีไป โดยไม่ได้เอารถไปด้วย เหตุเกิดเมื่อช่วง 03.30 น.ของวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา  ซึ่งต่อมาตำรวจสืบสวนจนพบตัวผู้ต้องสงสัย แต่ยังให้การปฏิเสธ  

เมื่อวานนี้ (25 ก.ย.67) ร.ต.อ. เดชา บุตรวิเศษ รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.พุทไธสง จ.บุรีรัมย์ เปิดเผยว่า  ได้เลื่อนการออกหมายจับผู้ต้องสงสัย เป็นครูผู้หญิงรายหนึ่ง ตำแหน่งชำนาญการพิเศษ วัย 49 ปี สอนอยู่ที่โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.พุทไธสง ออกไปอีก 1 วัน เป็นวันที่ 26 ก.ย. หลังจากตำรวจชุดสืบสวนมีกล้องวงจรปิดเพิ่มเติม

โดยกล้องวงจรปิดชุดดังกล่าว จับภาพครูขี่รถจักรยานไฟฟ้าออกจากบริเวณสี่แยกกลางอำเภอ แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางธนาคาร ก่อนจะเลี้ยวขวาไปทางร้านของผู้เสียหาย ซึ่งบ้านเช่าของผู้ต้องสงสัยอยู่ตรงข้ามกับร้านของผู้เสียหาย และเป็นเวลาไล่เลี่ยกันหลังก่อเหตุ

ซึ่งภาพล่าสุดที่ได้มาเป็นเวลาที่ใกล้เคียงกับช่วงที่ก่อเหตุมากที่สุด แต่ไม่เห็นใบหน้าที่ชัดเจน  ทั้งที่เกิดเหตุและตอนขี่จักรยานไฟฟ้า ตอนนี้ตำรวจได้ขอภาพกล้องวงจรปิดบริเวณหน้าตู้ ATM ของธนาคาร ซึ่งจะเห็นใบหน้าชัดเจนกว่านี้ แต่ต้องรอให้ธนาคารสาขาใหญ่อนุมัติก่อน จึงมีการเลื่อนการขอหมายจับออกไปอีก 1 วัน

พ.ต.อ.ธัชพล ส่องแสง ผกก.สภ.พุทไธสง   กล่าวว่า ตอนนี้ถือว่า ยังไม่สามารถยืนยันได้  กำลังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน  ส่วนกรณีมีผู้ใหญ่บ้านเห็นภาพคนร้ายแล้ว บอกว่าคล้ายกับคนในชุมชนนั้น ทางตำรวจยังไม่ฟันธง

ขณะที่การสอบสวนผู้ต้องสงสัย เจ้าตัวปฏิเสธอยู่แล้ว แต่คำให้การบางส่วนยังขัดแย้งกับความเป็นจริง   ถ้าได้พยานหลักฐานเพิ่ม ก็จะขอหมายจับทันที

ทั้งนี้ชุดสืบสวนได้มีการประชุมไล่ภาพจากกล้องวงจรปิดทุกมุมในเขตเทศบาลพุทไธสง ตอนนี้เอาภาพมาเชื่อมต่อกันแล้ว  พอรู้ได้ว่า หลังก่อเหตุผู้ต้องหาใช้เส้นทางไหนอย่างไร

ส่วนพฤติการณ์ของผู้ต้องสงสัย เคยก่อเหตุคดีลักทรัพย์เมื่อปี 2561 ในเขตพื้นที่ อ.นาโพธิ์ ส่วนใหญ่จะลักทรัพย์ในเวลากลางคืน แต่ครั้งนั้นโชคดีที่สามีรับว่าทำคนเดียว จึงรอดจากการติดคุก

เบื้องต้นตำรวจได้เตรียมตั้งข้อหา ชิงทรัพย์ในเวลากลางคืน,บุกรุกในเคหะสถานในเวลากลางคืน และพกพาอาวุธ

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/SyBUH0YJvK0