สังคม

อาลัย ผอ.น้ำดี ปีนซ่อมหลังคา รร.ถูกพายุซัดพังในวันหยุด ก่อนพลัดตกเสียชีวิตสลด

โดย petchpawee_k

11 ชั่วโมงที่แล้ว

2K views

ผอ.วัย 56 ปี มาทำงานวันหยุด เห็นหลังคารั่วหลังพายุพัดกระหน่ำ ปีนขึ้นซ่อมหลังคาเอง ก่อนพลัดตกทะลุอาคารเรียน เสียชีวิต ครู-นักเรียนเศร้า สูญเสีย ผอ.น้ำดี


วานนี้ (24 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 22 ก.ย.67 เกิดเหตุ นายพุฒวัฒน์ อายุ 56 ปี รองผู้อำนวยการโรงเรียน รักษาราชการแทน ผอ.โรงเรียนแห่งหนึ่ง  ในตำบลไทรม้า อำเภอเมืองนนทบุรี จังหวัดนนทบุรี  พลัดตกจากหลังคาอาคารเรียนลงมาจนได้รับบาดเจ็บสาหัสขณะปีนขึ้นไปซ่อมหลังคาที่เป็นช่องโหว่ หลังถูกพายุฝนตกกระหน่ำซัดจนหลังคาอาคารเรียนเปิด หลังเกิดเหตุทางอาจารย์ในโรงเรียนได้ช่วยกันนำตัว รักษาการ ผอ.ส่งโรงพยาบาลพระนั่งเกล้า  ได้เพียง 1 วัน จนเมื่อเวลา 00.30 น. วานนี้ (24 ก.ย.) จึงได้เสียชีวิตลง


ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าว เพื่อสอบถามเหตุการณ์ที่เกิด โดยพบว่าเหตุเกิดที่อาคารเรียนชั้นประถม เป็นอาคารสูง 4 ชั้น

น.ส.สุนทรีย์ ครูผู้ดูแลชั้นนักเรียนอนุบาล เปิดเผยว่า โดยปกติ รักษาการ ผอ.เป็นคนร่าเริงและมีน้ำใจกับลูกน้องมาก นิสัยดี มีความโอบอ้อมอารี อยู่กันแบบเป็นพี่เป็นน้อง วันที่เกิดเหตุเป็นวันอาทิตย์ ซึ่งก็เป็นปกติที่รักษาการจะเข้ามาดูโรงเรียนแม้กระทั่งในวันเสาร์อาทิตย์เพื่อดูความเรียบร้อยความปลอดภัยภายในโรงเรียนด้วยความเป็นห่วง โดยระหว่างที่รักษาการมาตรวจดูแลโรงเรียน มีคุณครูที่ทำงานอยู่ชั้น 4 มาแจ้งกับทางรักษาการ ผอ. ว่าหลังคาอาคารเรียนถูกลมพายุพัดเปิดจนทำให้น้ำฝนไหลตกลงมาใส่ฝ้าเพดาน ทางรักษาการจึงได้ชวนครูอีกคนหนึ่งขึ้นไปดูหลังคาที่ชั้น 4 ที่บริเวณในห้องน้ำด้วยกัน จึงพบว่าหลังคาถูกเปิดออกจากลมพายุฝนที่ตกกระหน่ำแรงมาตั้งแต่วันศุกร์และวันเสาร์มีลมแรง จนพัดหลังคาเปิดออกเป็นช่อง ทำให้มีน้ำฝนไหลตกมาที่ฝ้าห้องน้ำและห้องพักครู

ทำให้ทาง รักษาการ ตัดสินใจปีนขึ้นบันไดขึ้นไปดูบนหลังคาด้วยตนเอง เนื่องจากเป็นช่วงวันหยุดไม่มีช่างมาทำงาน ประกอบกับความเป็นห่วงว่า หากปล่อยไว้แล้วโรงเรียรเปิดเรียนในวันจันทร์จะมีนักเรียนจะมาโรงเรียนอาจจะทำให้เกิดอันตรายตามมา รวมทั้งหากเกิดฝนตกกระหน่ำลงมาอีกจะเกิดความเสียหายกับโรงเรียนเพิ่มขึ้น จึงตัดสินใจปีนขึ้นไปบนหลังคาเพื่อแก้ไขด้วยตัวเอง จนเกิดเหตุไม่คาดคิดตามมา เพียงเพราะเป็นห่วงกลัวว่าหลังคาหรือฝ้าถล่มลงมาใส่เด็กนักเรียน

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ครูและผู้ปกครองที่ทราบข่าวตกใจไปตามๆ กัน ทุกคนก็ไม่มีใครคิดว่ารักษาการจะปีนหลังคาอาคารเรียนขึ้นไปซ่อมเอง แต่รักษาการคงเห็นว่าเป็นวันอาทิตย์ซึ่งเป็นวันหยุด ไม่อยากรบกวนลูกน้องจึงตัดสินใจขึ้นไปซ่อมด้วยตนเอง

ทางด้านนายวิรัตน์ ครูชั้นประถม ซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ เปิดเผยว่า ในวันเกิดเหตุขณะที่ตนนั่งทำงานอยู่ที่ในห้องพละ ตนเห็นรักษาการเดินถือซิลิโคนผ่านห้องไป จึงถามว่าจะเอาซิลิโคนไปทำอะไร รักษาการก็บอกว่าจะขึ้นไปซ่อมหลังคา ด้วยความเป็นห่วงตนจึงตามรักษาการขึ้นไปที่อาคารเรียนชั้น 4 ด้วย ก็พบว่าที่บริเวณในห้องน้ำซึ่งติดกับห้องพักครูขั้น 4 หลังคาอาคารเรียนได้ถูกลมพายุฝนพัดกระเบื้องหลังคาจนหลุดออกไปสองแผ่น ทำให้เกิดเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ และมีน้ำฝนตกไหลนองผ่านลงมา

ในตอนแรกตนได้พยายามปีนขึ้นไปซ่อมขยับหลังคาจากใต้ฝ้า แต่ไม่สามารถดึงกระเบื้องทั้งสองแผ่นกลับมาปิดได้ มีทางเดียวที่จะซ่อมหลังคาได้คือต้องปีนขึ้นไปบนหลังคาเท่านั้น ซึ่งตนยังบอกกับรักษาการว่าต้องให้ช่างมาดู แต่ในส่วนที่ตนเดินลงไปเอาอุปกรณ์ในการซ่อมหลังคากลับขึ้นมา ก็พบว่าทางรักษาการได้ปีนบันไดขึ้นไปอยู่บนหลังคาอาคารเรียนแล้ว ตนยังตะโกนบอกให้ ค่อยๆ เดินตามแนวยึดของหัวตะปูไว้ แต่ปรากฏว่าระหว่างที่รักษาการเดินใกล้จะถึงจุดที่หลังคาเปิดออกแล้ว รักษาการเกิดเหยียบพลาด ทำให้ร่างหล่นทะลุฝ้าลงไปนอนสลบอยู่ในห้องน้ำ

หลังเกิดเหตุตนก็ยังไม่สามารถลงมาช่วยเหลือได้ทันทีเพราะอยู่บนหลังคาอาคารเรียนเหมือนกัน จึงค่อยๆ หาทางเดินลงมา ก็พบว่ารักษาการนอนสลบไม่รู้สึกตัวอยู่ที่พื้นในห้องน้ำ มีเลือดไหลนองออกมาจากทางปาก ซึ่งตนก็ไม่แน่ใจว่าระหว่างที่ร่วงตกจากหลังคาลงมา ศรีษะของรักษาการไปกระแทกกับขอบปูนหรือกระแทกกับพื้นจนมีเลือดไหลออกมาหรือไม่ ตนกับบรรดาครูในโรงเรียนจึงแจ้งขอความช่วยเหลือนำตัวรักษาการส่งโรงพยาบาลอย่างเร่งด่วน

ซึ่งอุปนิสัยของรักษาการ ผอ.เป็นคนนิสัยดีกับลูกน้องอยู่กันแบบสบายเป็นกันเอง ตนรู้สึกเสียใจที่มาเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ซึ่งเป็นเพราะรักษาการเป็นห่วงเด็กนักเรียนและห่วงว่าครูจะทำงานไม่ได้เพราะมีน้ำฝนไหลผ่านเข้ามาเยอะ จนเกิดรูรั่วตามมาหลายจุด ครูและนักเรียนในโรงเรียนทุกคนเสียใจกับการจากไปของรักษาการ สภาพจิตใจของตนในตอนนี้นังไม่ดีขึ้นเลยที่เห็นเหตุการณ์ต่อหน้าต่อตา

ต่อมาผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่วัดแดงธรรมชาติ ศาลา 5 ต.ไทรม้า อ.เมือง จ.นนทบุรี ญาติและครูได้นำร่างนายพุฒวัฒน์ มาประกอบพิธีทางศาสนาที่วัดดังกล่าว

ด้าน พ.ต.อ.ธงชัย เย็นประเสริฐ นายก อบจ.นนทบุรี กล่าวว่า การเสียชีวิตของนายพุฒวัฒน์ นับว่าเป็นการสูญเสียบุคลากรด้านการศึกษาที่สำคัญคนหนึ่ง เนื่องจากผู้ตายเป็นที่รักใคร่ของผู้บังคับบัญชาและผู้ใต้บังคับบัญชา

นายพุฒลักษณ์ อายุ 25 ปี ซึ่งเป็นลูกชาย กล่าวว่า หลังจากทราบเรื่องได้เดินทางจากขอนแก่นมาที่โรงพยาบาล ซึ่งช่วงเช้าตนก็ได้เห็นอาการคุณพ่อมีอาการสมองตาย โดยคุณหมอยังยื้อในการหายใจอยู่ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดีที่ทำให้ตนมากราบลาพ่อทัน คุณพ่อเข้ารักษาตัวที่ รพ.พระนั่งเกล้าเป็นเวลา 2 วัน คือ วันอาทิตย์และวันจันทร์ ตนรู้สึกเป็นเกียรติมาก ด้วยผลงานของพ่อเอง เขาสมควรได้รับในสิ่งที่เขาทำมาอยู่แล้ว ก็อยากบอกว่าพ่อเป็นแบบอย่างที่ตนอยากจะทำให้ได้ ทั้งผลงานทั้งความดีที่ท่านสร้างกับคนส่วนมาก ตนก็จะเก็บเกี่ยวสิ่งดีๆ และจะสานต่อในอนาคต ให้ทั้งสังคมและคนรอบข้าง

ด้านนางจำรูญ อายุ 77 ปี แม่ของรักษาการ ผอ. กล่าวว่า ตนอยู่ที่ขอนแก่นและไม่ทราบเรื่องว่าลูกชายตนจะมาโรงเรียนในวัดหยุดและปีนขึ้นไปซ่อมหลังคา ตนเสียใจมากที่ลูกชายตกลงมาแล้วเสียชีวิต คาดไม่ถึงและไม่มีลางสังหรณ์ก่อนเกิดเหตุ


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/xHXbv8RZ1C8

คุณอาจสนใจ

Related News