สังคม

หนองคายยังอ่วม! น้ำโขงท่วมหลายอำเภอ แจ้งงดเข้า 'วัดพระธาตุหล้าหนอง' ถนนมีรอยร้าว

โดย thichaphat_d

16 ก.ย. 2567

21 views

ยังอ่วม! น้ำโขงท่วมเขตเทศบาลเมืองหนองคาย 18 ชุมชน งดเข้าพื้นที่หน้าองค์พระธาตุหล้าหนองถนนมีรอยร้าว ชาวบ้านหวั่นท่วมสูงซื้ออิฐบล็อกมาก่อปิดหน้าบ้าน บางคนตักน้ำที่ท่วมใส่ถุงพลาสติกมัดด้วยหนังยางวางกั้นหน้าบ้าน เผย ไม่มีแรงไปขนกระสอบทราย

วานนี้ (15 ก.ย.) สถานการณ์น้ำท่วม จ.หนองคาย ระดับน้ำในแม่น้ำโขง ลดลงอย่างช้า ๆ วานนี้อากาศปลอดโปร่งไม่มีฝน โดยช่วงเวลา 23.45 น. ระดับน้ำโขงที่ไหลผ่าน จ.หนองคาย วัดที่ส่วนอุทกวิทยาหนองคาย วัดได้ 13.65 เมตร ซึ่งเป็นสัญญาณดีต่อสถานการณ์น้ำในขณะนี้ หากไม่มีฝนตกหนักลงมาอีกระดับน้ำก็จะเริ่มลดลงอย่างต่อเนื่อง

ทีมข่าวลงพื้นที่บริเวณวัดธาตุ พระธาตุหล้าหนอง ชุมชนวัดธาตุ เขตเทศบาลเมืองหนองคาย เจ้าหน้าที่ทหารมณฑลทหารบก 24 ชาวบ้านและตำรวจ ยังคงช่วยกันเสริมความแข็งแกร่ง แนวกั้นกระสอบทราย สูง 1 เมตรกว่าป้องกันน้ำโขงเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน และนำแบริเออร์มาวางเสริมความแข็งแรงอีกชั้น แต่น้ำก็ซึมออก หลังจากก่อนหน้านี้กระสอบทรายที่ใช้เป็นแนวกั้นพังทลาย

ขณะที่เทศบาลเมืองหนองคายประกาศแจ้งงดเข้าพื้นที่บริเวณหน้าองค์พระธาตุหล้าหนอง แจ้งเตือนเนื่องจากถนนมีรอยร้าวจากน้ำโขงเซาะตลิ่ง

ช่วงค่ำที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่เร่งระดมนำแบริเออร์ปูนน้ำหนักครึ่งตัน ยกลงวางตามแนวกระสอบทรายรอบนอกหน้าพระธาตุหล้าหนอง ป้องกันน้ำโขงดันแนวกระสอบทรายเดิม ในขณะเดียวกันก็นำกระสอบทรายเสริมตามแนวแบริเออร์ปูน ที่เพิ่งวางไว้เพื่อป้องกันอีกชั้นหนึ่ง ทำให้แนวกระสอบทราย ที่เป็นบังเกอร์กันน้ำ มีความหนามากขึ้น หลังจากก่อนหน้านี้เสริมแนวกระสอบทรายด้วย แบริเออร์พลาสติก ใส่น้ำไปแล้วก็ตาม

รองปลัดเทศบาลเมืองคาย บอกว่า ที่ต้องยกระดับแนวกระสอบทรายบังเกอร์กันน้ำเนื่องจากแนวกระสอบทรายที่เป็นถุงกระสอบน้ำอิ่มตัวเกรงว่าจะพังอีก จึงต้องเสริมความแข็งแรงมากขึ้น  ซึ่งอาจต้องใช้แบริเออร์ปูน 40-50 ตัว รวมถึงระดมวางกระสอบทรายใส่เข้าไปอีก ซึ่งจะปฏิบัติการณ์ตลอดทั้งคืนเพราะยังไม่ไว้วางใจสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง

ย้อนไปช่วงกลางวันทีมข่าวลงพื้นที่ชุมชนธาตุใต้ ตั้งแต่ซอย 2 ถึงซอย 8 เขตเทศบาลเมืองหนองคาย พบว่าบ้านเรือนประชาชนถูกนำท่วมเกือบทุกหลัง จนต้องเก็บสิ่งของจำเป็นออกมาอาศัยอยู่ที่อื่น บางคนเช่าเต็นท์มากางอาศัยหลับนอนอยู่บนถนน ทำกับข้าวในเต็นท์แบ่งปันกันกินและใช้เป็นที่เก็บข้าวของ อาทิ ตู้เสื้อผ้า เครื่องซักผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ บางจุดเทศบาลฯ นำเต็นท์มากางให้พร้อมจัดศูนย์พักพิงให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน

ขณะที่หลายหน่วยงานนำอาหาร น้ำดื่ม เข้าไปช่วยเหลือ และอพยพผู้ป่วยติดเตียง ผู้สูงอายุ ชาวบ้านบางคนไปอาศัยอยู่บ้านญาติที่น้ำไม่ท่วม บางคนก็อาศัยอยู่ในบ้านของตัวเองซึ่งส่วนใหญ่เป็นบ้านชั้นเดียวแม้บ้านจะถูกน้ำท่วมก็ตาม โดยอาศัยเรือที่ใช้หาปลาในแม่น้ำโขง มาพายเข้าออกชุมชน ใครไม่มีเรือก็อาศัยของเพื่อนบ้าน บางก็ใช้ถังผสมปูนและกะละมังเดินลุยน้ำเข้าไปขนของ

นางชุติมา พนาลิกุล อายุ 62 ปี ชาวบ้านชุมชนธาตุใต้ ซอย 4 เทศบาลเมืองหนองคาย พาทีมข่าวเข้าไปดูบ้าน ซึ่งถูกน้ำท่วมห้องนอน ห้องครัว ไม่สามารถอาศัยได้ ต้องไปอาศัยอยู่กับญาติ พร้อมเล่าว่า เพราะทุกปีที่ผ่านมาน้ำโขงแค่ล้นตลิ่งเข้าท่วมบริเวณถนนหน้าบ้านเท่านั้น โดยตนได้นำกระสอบทรายไปวางกั้นบริเวณประตูห้องครัวเพราะอยู่ต่ำ ป้องกันไม่ให้น้ำไหลเข้าท่วมในบ้าน แต่น้ำได้ทะลักเข้าท่วมตอนกลางคืน ตนอาศัยอยู่กับลูกชายวัย 30 ปี พิการทางสมอง เก็บข้าวของไม่ทัน ที่นอนยกขึ้นที่สูงแล้วก็ยังถูกน้ำท่วม เสื้อผ้าบางส่วนปล่อยทิ้งจมน้ำ ไม่คิดว่าน้ำจะท่วมหนักขนาดนี้

ส่วนถนนประจักษ์ศิลปาคม ใจกลางเมืองหนองคาย น้ำได้ทะลักไหลเข้าท่วม ล้นออกตามท่อระบายน้ำ ระยะทาง 6 กิโลเมตร บางจุดระดับน้ำสูงเกือบ 1 เมตร กู้ภัยใช้เรือรับส่งชาวบ้านและส่งอาหารน้ำดื่ม เมื่อวานนี้ระดับน้ำทรงตัว โดยประชาชนที่มีบ้านเรือนอยู่ 2 ข้างทางถนนดังกล่าว ร้านค้าต่าง ๆ บางส่วนยังอาศัยอยู่ในบ้านตัวเองและนำกระสอบทราย พลาสติกมากั้นน้ำ

บางร้านซื้ออิฐบล็อกมาก่อหน้าร้านสูง 3-4 ชั้น ป้องกันน้ำเข้าร้าน สำหรับถนนเส้นนี้มีทั้ง โรงแรม, วิทยาลัยอาชีวศึกษาเทศบาลเมืองหนองคาย, สมาคมพ่อค้าไทยจีนหนองคาย, โรงเรียนเทศบาล 1 สว่างวิทยา, สถานีขนส่งผู้โดยสารจังหวัดหนองคาย, เทศบาลเมืองหนองคาย ได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วมเช่นกัน

ทีมข่าวไปเจอนางสาวกรวรรณ ภัทรนน อายุ 60 ปี ชาวบ้านเปิดร้านขายของบนถนนประจักษ์ศิลปาคม นั่งอยู่หน้าบ้าน ตักน้ำที่ท่วมใส่ถุงพลาสติกมัดด้วยหนังยาง และใส่ถุงพลาสติกซ้อนอีกชั้น แล้วนำพลาสติกมาห่อผูกด้วยเชือกฟาง วางกั้นน้ำอยู่ประตูหน้าบ้าน โดยเจ้าตัวบอกว่าไม่มีแรงไปขนกระสอบทราย หรือซื้ออิฐบล็อกมาก่อเหมือนชาวบ้านคนอื่นๆ จึงเลือกใช้วิธีนี้

นายอุรุยศ เอียสกุล นายกเทศมนตรีเมืองหนองคาย เปิดเผยว่า ทางเทศบาลฯ เฝ้าระวังบริเวณวัดธาตุ พระธาตุหล้าหนอง ชุมชนวัดธาตุ เป็นพิเศษ และป้องกันน้ำบริเวณนี้ ไม่ให้ไหลทะลักเข้าในเขตเมืองฯ ซึ่งเป็นพื้นที่เศรษฐกิจ ส่วนจุดอื่นมีการติดตั้งเครื่องสูบน้ำขนาดใหญ่และปิดท่อระบายน้ำ สำหรับจุดนี้นำกระสอบทรายมาวางเป็นแนวกั้นมากที่สุดเพราะอยู่ที่ต่ำ และกระสอบทรายถูกน้ำซัดพังทลายหลายรอบ

ทั้งนี้ทางเทศบาลฯ จะชะลอน้ำให้ได้มากที่สุดจนกว่าน้ำจะลดลง ซึ่งเป็นการบรรเทาอีกทางหนึ่ง ส่วนกระสอบทรายที่นำมาทำเป็นแนวกั้น ทางเทศบาลฯ ได้เตรียมความพร้อมรับมือมาล่วงหน้าแล้วตั้งแต่น้ำยังต่ำกว่าตลิ่ง แต่พอระดับน้ำที่เพิ่มสูงขึ้นทำให้แนวป้องกันน้ำบางจุดรับไม่ไหวถูกน้ำซัดกระสอบทรายพังทลาย อย่างไรก็ตามเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชั่วโมง

ส่วนน้ำที่ไหลเข้าเขตเทศบาลฯ ตอนนี้ซึ่งดันออกตามท่อระบายน้ำ บางพื้นที่ระดับน้ำสูง 2 ถึง 3 เมตร ประกอบกับฝนที่ตกหนักทำให้การระบายน้ำถนนประจักษ์ศิลปาคม เป็นไปอย่างล่าช้า และระบายน้ำออกแม่น้ำโขงไม่ได้ จึงทำให้น้ำท่วมขังที่ถนนประจักษ์ศิลปาคม ซึ่งน้ำโขงเพิ่มระดับสูงขึ้นเกือบถึงจุดสูงสุด และทะลักท่วมบ้านเรือนประชาชนเป็นบางส่วน

สำหรับชุมชนในเขตเทศบาลเมืองหนองคาย มีทั้งหมด 43 ชุมชน ได้รับผลกระทบถูกน้ำท่วม 18 ชุมชน ประชาชนได้รับความเดือดร้อน 900 กว่าคน ซึ่งทางเทศบาลได้เตรียมแพทย์ดูแลอย่างเต็มที่ และมีสถานที่พักพิงและจัดเต็นท์ให้กับชุมชนต่างๆ ที่ไม่ประสงค์มาอยู่ศูนย์อพยพ และประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขไปดูแลเรื่องความปลอดภัยด้านสุขภาพ มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าไปแจกอาหารน้ำดื่มและถุงยังชีพ

ข้อมูลของจังหวัดหนองคาย รายงานสถานการณ์น้ำโขงล้นตลิ่งเข้าท่วมพื้นที่ 5 อำเภอ ประกอบด้วย อ.เมืองหนองคาย, อ.ท่าบ่อ, อ.ศรีเชียงใหม่, อ.สังคม และ อ.รัตนวาปี จำนวน 18 ตำบล 77 หมู่บ้าน 2,850 ครัวเรือน พื้นที่การเกษตรได้รับความเสียหาย เป็นพื้นที่เดิม 33,450 ไร่ ถนนเสียหาย 6 สาย ในพื้นที่ อ.ศรีเชียงใหม่ 3 สาย และ อ.สังคม 3 สาย

ส่วนที่ อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย พบว่าบริเวณถนนมิ่งเมืองที่มาจากอำเภอเมือง มุ่งหน้าอำเภอสังคม ระยะทาง 3-4 กิโลเมตร มวลน้ำจากแม่น้ำโขงไหลเข้าท่วมทั้งบ้านเรือนของประชาชน พื้นที่การเกษตร และถนนที่ใช้สัญจร ระดับน้ำสูงประมาณ 60 ซม. บางจุดไหลแรงและเชี่ยวเพราะอยู่ที่ต่ำ ชาวบ้านบางรายต้องอพยพออกไปอยู่ที่อื่นชั่วคราว

แต่ชาวบ้านบางคนยังอยู่ในบ้านเหมือนเดิม โดยอาศัยอยู่ชั้นสองของบ้าน ส่วนข้าวของในบ้านก็ขนไปไว้ชั้นสองหมดแล้ว เนื่องจากว่ามีการแจ้งเตือนก่อนหน้านี้จึงทำให้ข้าวของไม่ได้รับความเสียหายมากนัก แต่ก็ยังกังวลว่าระดับน้ำจะเพิ่มสูงขึ้น แม้ว่าเมื่อวานนี้ตอนที่ทีมข่าวลงพื้นที่พบว่าระดับน้ำลดลง 1-2 เซนติเมตร

รถเล็กไม่สามารถสัญจรผ่านได้ ต้องใช้รถยกสูงเท่านั้น โดยชาวบ้านจะนำรถไปจอดอยู่ข้างทางและมีรถบรรทุกของทหาร รถบรรทุกและรถยกสูงของจิตอาสา รถไถแทรกเตอร์ คอยบริการรับส่งประชาชนเข้าออกพื้นที่ ส่วนร้านค้าต่าง ๆ สองข้างทาง ต่างนำกระสอบทรายและผ้าใบก่ออิฐบล็อกป้องกันน้ำเข้าบ้าน

นอกจากนี้พบว่าตลาดสด สถานที่ราชการหลายแห่งถูกน้ำท่วม อาทิ ที่ว่าการอำเภอศรีเชียงใหม่ , พื้นที่โดยรอบสถานีตำรวจภูธรศรีเชียงใหม่ แต่ยังเปิดให้บริการปกติ และบ้านพักตำรวจซึ่งอยู่ด้านหลังโรงพัก โดยน้ำได้ไหลเข้าท่วมโรงพักช่วงตีสามกว่าของวันที่ 12 ก.ย. ที่ผ่านมา เมื่อวานนี้ (15 ก.ย.) ระดับน้ำลดลงไปมากจนเห็นโคลน เจ้าหน้าที่ตำรวจเริ่มล้างทำความสะอาดบริเวณโรงพัก

ส่วนโรงพยาบาลศรีเชียงใหม่ น้ำไหลเข้าท่วมในพื้นที่บางส่วน ประตูทางเข้าออกโรงพยาบาล มีการนำกระสอบทรายมาวางกั้นน้ำ ป้องกันน้ำไหลเข้าท่วม และมีแผนรับมืออพยพผู้ป่วยทันทีกรณีน้ำท่วมสูง เดี๋ยวจุดที่ได้รับความเสียหายคือบ้านพักบุคลากรของโรงพยาบาล 9 หลัง ส่วนอุปกรณ์ทางการแพทย์ยังไม่ได้รับความเสียหาย

นายแพทย์จามิกร ใจดี ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศรีเชียงใหม่ เผยว่า หน้าโรงพยาบาลมีน้ำท่วมประมาณ 80 เซนติเมตร ก่อนหน้านี้ได้รับการประกาศแจ้งเตือน จึงมีแผนสกัดได้อย่างทันท่วงที ส่วนบุคลากรซึ่งบ้านพักถูกน้ำท่วมได้เข้ามาพักพิงภายในโรงพยาบาล อาศัยอาคารผู้ป่วยเป็นที่พักชั่วคราว

ส่วนผู้ป่วยในและผู้ป่วยฉุกเฉินให้บริการตามปกติ กรณีผู้ป่วยฉุกเฉินจะมีเรือ 1 ลำ รับมาส่งที่โรงพยาบาล ปัจจุบันมีผู้ป่วยนอนอยู่โรงพยาบาล 15 คน  เป็นผู้ป่วยทั่วไป 12 คน และผู้ป่วยติดเตียงที่เคลื่อนย้านหนีน้ำท่วม 3 คน หากน้ำท่วมโรงพยาบาลเกินกว่าระดับที่กั้นไว้ ก็จะส่งต่อผู้ป่วยไปยังโรงพยาบาลที่ปลอดภัย

ช่วงค่ำวานนี้ ทีมข่าวตระเวนสำรวจพื้นที่น้ำท่วม ไปเจอ นางคำพันธ์  พลธานี อายุ 73 ปี ชาวบ้านศรีเชียงใหม่ หมู่ 1 ต.พานพร้าว อ.ศรีเชียงใหม่ ขนเสื้อผ้า เครื่องครัว ของใช้จำเป็น ออกมานอนอยู่บนรถยนต์ และรถสามล้อเครื่อง พร้อมกับหลานชาย 3 คน ลูกสาวและลูกเขย สุนัขอีก 2 ตัว มีผ้าใบคลุมกันแดดกันฝน จุดเทียนสองสว่างยามค่ำคืน เพราะบ้านซึ่งเป็นบ้านชั้นเดียวถูกน้ำท่วมไม่สามารถอาศัยอยู่ได้

นางคำพันธ์ บอกว่า ตนต้องออกมาใช้ชีวิตริมทางอย่างลำบาก แต่ต้องอดทน บ้านถูกน้ำท่วมสูงมาก บ่งคืนตนก็นอนอยู่รถสามล้อเครื่อง บางคืนไปอาศัยนอนบ้านคนอื่น และให้หลานกับลูกเขยนอนเฝ้าทรัพย์สินบนสามล้อเครื่อง หากน้ำลดก็จะไปทำความสะอาดและขนข้าวของกลับเข้าบ้าน ตอนนี้นอนอยู่ริมทางไปเรื่อยๆ ไม่รู้น้ำจะลดเมื่อไหร่ ไม่เคยเห็นน้ำโขงท่วมหนักขนาดนี้ ครั้งนี้หนักที่สุด

นายสุทธิพงษ์ ประเสริฐสุข อายุ 59 ปี ชาว อ.ศรีเชียงใหม่ บอกว่า น้ำโขงเริ่มไหลเข้าท่วมเมื่อ 3 วันที่ผ่านมา น้ำมาแรงและเร็วจนหลายคนเก็บข้าวของไม่ทัน ต้องยกของไปไว้บนชั้นสองของบ้าน บางคนบ้านชั้นเดียวก็จะเดือดร้อน เก็บของไม่ทันเสียหายหนัก ซึ่งน้ำท่วมปีนี้เมื่อเทียบกับปี 2551 ที่น้ำท่วมสูงมากกว่า 2 เมตร คาดว่าปีนี้ระดับน้ำจะสูงไม่ถึงขนาดนั้น

ขณะที่หน่วยกู้ชีพ-กู้ภัยมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง เข้าทำการสำรวจเส้นทางและพร้อมช่วยเหลือชาวบ้านบริเวณหมู่บ้านฝั่งติดแม่น้ำริมโขง อ.ศรีเชียงใหม่ หากได้รับการร้องขอ ซึ่งยังมีชาวบ้านอีกจำนวนมากที่ได้รับความเดือดร้อน สำหรับ อ.ศรีเชียงใหม่ ซึ่งอยู่ตรงข้ามนครหลวงเวียงจันทน์ สปป.ลาว พื้นที่ส่วนใหญ่ติดแม่น้ำโขง น้ำได้ล้นตลิ่งเข้าท่วมตั้งแต่ช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาในหลายจุด



รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/kvrazX9DTOM

คุณอาจสนใจ

Related News