สังคม

จิตอาสาเร่งอพยพผู้ประสบภัย ท่ามกลางน้ำเชี่ยว ระทึก! ‘ไทด์ เอกพันธ์ - นักข่าว' ถูกน้ำซัดเรือล่ม ระหว่างช่วยเหลือ

โดย petchpawee_k

13 ก.ย. 2567

255 views

เปิดนาทีระทึก! ไทด์ เอกพันธ์ -นักข่าว ถูกกระแสน้ำซัดเรือล่ม ระหว่างช่วยผู้ประสบภัยเชียงราย อุปกรณ์สื่อสารเสียหาย ขณะที่ ‘กัน จอมพลัง’ ถูกเจ็ตสกีพุ่งชน  เผย ไม่เป็นอะไรมากเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำต่อไป


วานนี้ ( 12 ก.ย.) เวลา 16.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าระหว่าง ทีมกู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูนำโดย ไทด์ เอกพันธ์ บันลือฤทธิ์ พร้อมด้วย ดารา 2 และเจ้าหน้าที่กู้ชีพ กู้ภัย ได้นำกำลังลงเรือ เพื่อเข้าไปให้การช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วม บริเวณชุมชนวังทอง อ.แม่สาย เพื่อการอพยพชาวบ้านและนำข้าวกล่อง น้ำดื่มเข้าไปแจกจ่าย ให้ผู้ที่ติดค้างอยู่ในบ้าน


แต่ปรากฏว่าระหว่างที่ขับเรือเข้าไปพื้นที่นั้นกระแสน้ำยังคงไหลเชี่ยว จู่ ๆ เครื่องเรือดับ เพราะมีเศษหญ้า เศษผ้า เศษขยะและกิ่งไม้ เข้าไปพันที่ตัวเครื่องยนต์ เครื่องติดกับตอไม้ เรือขวางติดสายโทรศัพท์  จึงทำให้น้ำซัดเข้าตัวเรือ ทำให้เรือขนาด 16 ฟุต ค่อย ๆ เอียงและล่ม ทำให้ไทด์ เอกพันธ์ ทีมสื่อมวลชน และกู้ภัยรวมถึงผู้อยู่บนเรือทุกคนจมน้ำและถูกน้ำซัดไหลไปตามกระแส  มีผู้โดยสารทั้งหมด 6 คน ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่กู้ภัย 4 นาย และนักข่าว 2 คน เหตุเกิดบริเวณหลังโรงแรมวังทอง พื้นที่บ้านเกาะทราย หมู่ที่ 7  ขณะกำลังเข้าไปอพยพผู้ป่วย ทีมกู้ภัยทีมร่วมภารกิจได้ช่วยกันตะโกนให้ช่วยเหลือ  


เคราะห์ดีที่เจ้าหน้าที่สวมเสื้อชูชีพ ทำให้ทุกคนปลอดภัย ไม่ได้รับอันตราย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยบาดเจ็บบริเวณขาทั้ง 2 ข้าง 1 คน นำส่ง โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ศรีบุรินทร์แม่สาย แต่ทรัพย์สินไม่ว่าจะเป็นอุปกรณ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัย รวมถึงโทรศัพท์มือถือ จมหายไปกับกระแสน้ำ  และสามารถนำเรือกลับขึ้นฝั่งได้ปลอดภัย เหตุการณ์นี้นายญวุฒิ โพธิ์อำไพ อาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู กำลังเฟซบุ๊กไลฟ์การช่วยเหลือผู้ประสบภัย บันทึกภาพเหตุนี้ไว้ได้


ขณะที่เพจ ‘ต้นปราการ’ ซึ่งเป็นอาสากู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญูนั่งอยู่บนเรือด้วย  ได้ไลฟ์เล่าวินาทีเรือล่ม เพื่อนร่วมทีมน้ำตาไหล ในคลิปจะเห็นว่าเจ้าหน้าที่กู้ภัยพยายามเข้าไปช่วยเหลือและบอกว่าทุกคนปลอดภัย  และเล่าว่าก่อนเรือล่มเจอน้ำวนขยับเรือใม่ได้เลย หญ้าพันเครื่องยนต์ โดยโทรศัพท์ของตนจมน้ำหายไป 3 เครื่องทั้งนี้กูภัยได้นำเชือกไปขึง ให้กู้ภัยและนักข่าวที่ประสบเหตุจัสบเชือกเดินเลาะออกมาอย่างปลอดภัย


คลิปอีกมุมโพสต์โดย  ‘กลุ่มเฉพาะกิจน้ำท่วมร่วมกตัญญู’ จะเห็นเรือคว่ำทั้งลำ กระแสน้ำแรงมาก ทำให้อาสาสมัครทั้งหมด และนักข่าว ช่างภาพ ลอยตามน้ำ มีคนตะโกนบอกให้หาที่เกาะไว้ ก่อนที่กู้ภัยอีกส่วนที่ยืนอยู่ด้านข้าง ไม่ได้อยู่บนเรือช่วยคว้าและดึงตัวไว้ไม่ให้กระแสน้ำพัดไป ก่อนที่ทั้งหมดจะได้รับการช่วยเหลือต่อมา


ขณะที่วานนี้ (12 ก.ย.) ‘กัน จอมพลัง’ ได้ไลฟ์สดขณะลงพื้นที่ช่วยผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย ซึ่งยังมีชาวบ้านติดค้างภายในบ้านจำนวนมากไม่ได้กินข้าวกินน้ำ โดยหนึ่งในผู้ประสบภัยที่ กัน พลัง ทีมงานเจ็ตสกีและทหารเรือไปช่วยเหลือนั้นเป็นคุณยายพิการแขนข้างเดียว ติดอยู่ในบ้านนาน 3 วัน โดยบางช่วง กัน จอมพลัง ระบุว่า คุณยายท่านนี้เป็นลมมาแล้ว 2-3 รอบ และยายออกจากบ้านใม่ได้ จึงต้องงัดซี่กรงเหล็กหน้าต่าง  อุ้มยายออกมาจากหน้าต่างอย่างทุลักทุเล แต่ในที่สุดทีมงานก็ช่วยเหลือออกมาได้


ระหว่างลงพื้นที่มีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นในขณะที่ กัน จอมพลลัง ไลฟ์สดช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมได้เกิดอุบัติเหตุ เจ็ตสกีพุ่งชนทำให้เจ็ตสกีมีรอยแตก ซึ่งก็ได้มีการขอโทษขออภัยกันเพราะเป็นอุบัติเหตุไม่ได้ตั้งใจให้เกิดขึ้น ทางด้าน กัน จอมพลัง เผยว่าตนเองไม่เป็นอะไรมากขอบคุณทุกคนที่เป็นห่วงและยังคงเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมต่อไป

-------------------------------------------

จิตอาสาช่วยน้ำท่วม เร่งอพยพผู้ประสบภัยท่ามกลางน้ำเชี่ยว- เฮลิคอปเตอร์ กองทัพฯ บินหย่อนอาหาร-น้ำดื่ม ผู้ประสบภัยโบกมือขอความช่วยเหลือ - กู้ภัยช่วยหญิงท้องแก่ใกล้คลอดพามุดน้ำหนีตาย  ติดอยู่ในบ้าน4 วัน


สำหรับ อ.แม่สาย หลายพื้นที่น้ำยังท่วมสูง เจ้าหน้าที่กู้ภัย จิตอาสา หลายภาคส่วนยังให้การช่วยเหลือต่อเนื่อง เช่น กลุ่ม ‘เจ็ตสกี โซไซตี้ ทริปท่องเที่ยวทางสายน้ำ’ ได้โพสต์คลิปขณะช่วยอพยพชาวบ้านเกาะทราย อ.แม่สาย โดยให้ผู้ประสบภัยหญิงชรา ขี่หลังเดินลุยน้ำออกมาท่ามกลางแระแสน้ำที่ไหลเชี่ยว และช่วยกันอพยพประชาชน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ เด็ก นั่งเจ็ตสกีออกมาจากจุดที่น้ำท่วมสูง ผู้สูงอายุบางคนต้องอุ้มออกจากบ้านมานั่งเจ็ตสกี  อพยพไปอยู่ที่ปลอดภัย


แม้ระดับน้ำในพื้นที่จะลงลงไปมาก แต่บางจุดน้ำไหลแรง ทางเพจระบว่า “อพยพทั้งชุมชน ติดมาหลายวันเพิ่งจะได้ออกทยอยกันไป คนป่วย คนชรา เด็ก พาออกไปเยอะแล้ว” และโพสต์อีกว่า “ช่วยได้เยอะพอสมควร วันนี้ร้อยกว่าคนที่พาอพยพออกมา ผู้ป่วยหนัก ๆ ก็หลายเคส แต่ละจุดที่เข้าไปน้ำเชี่ยวมากไม่ง่ายอย่างที่คิดเลย


ในชุมชนดังกล่าวพบว่ามีผู้ประสบภัยหลายคนออกมายืนรอรับแจกข้าวแจกน้ำ โดยมีมีเฮลิคอปเตอร์ของกองทัพฯ นำอาหารน้ำดื่มใส่ตระกร้าหย่อนลงมาให้ผู้ประสบภัยที่อยู่ด้านล่างและบางส่วนที่ติดค้างอยู่บนบ้านและบนอาคาร  ชาวบ้านต่างโบกมือขอความช่วยเหลือ บางคนบอกไม่ได้กินข้าวกินน้ำมา 3 วัน แล้ว ทางเพจฯ ระบุว่า แจกข้าวทางอากาศ เรืออื่นมาไม่ได้นะจุดนี้ต้องเจ็ตสกี ทางที่จะมาน้ำยังไหลแรงมาก”


ขณะเดียวกัน ทีมเรือตอบโต้ภัยพิบัติ มูลนิธิเพชรเกษม ได้ลงพื้นที่ไปยังชุมชนเกาะทรายซอย 9 ต.แม่สาย อ.แม่สาย จ.เชียงราย เพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ยังคงติดค้างอยู่ภายใน กระทั่งไปถึงจุดหนึ่ง ซึ่งมีชาวบ้านรวมตัวกันจำนวนมาก เพราะไม่สามารถฝ่ากระแสน้ำออกมาได้ โดยพบว่าหนึ่งในนั้นเป็นหญิงท้องแก่ใกล้คลอด ติดค้างในบ้านมาถึง 4 วัน และยังไม่รับประทานอาหารเลย


ซึ่งกู้ภัยเพชรเกษม ก็ได้นำเชือกโยงข้ามไปยังตึกดังกล่าว แล้วนำเสื้อชูชีพใส่ให้หญิงท้องแก่ พร้อมกับเกี่ยวสลิงกับเชือกหลัง โดยกู้ภัยจะอยู่ด้านหลังเพื่อประคองตัวหญิงท้อง ก่อนที่อีกชุดจะช่วยกันดึงตัวข้ามกลับมา และการช่วยเหลือก็เป็นไปอย่างทุลักทุเล เนื่องจากกระแสน้ำเชี่ยวกราก ต้องลุ้นตลอดการช่วยเหลือ แต่สุดท้ายก็สามารถพาหญิงท้องแก่ข้ามออกมาได้อย่างปลอดภัย ก่อนที่เธอจะยกมือไหว้เพื่อเป็นการขอบคุณ


ขณะที่เฟซบุ๊ก 'เปิ้ล นาคร' ได้โพสต์ภาพขณะเข้าช่วยคุณยายตาบอด พร้อมข้อความ ระบุ "ยายตาบอด..น้ำโคตรโหดในรอบ 80 ปี แม่สาย เชียงราย# น้ำท่วม2567 "  

------------------

แม่สายยังหนักหลังน้ำลด พบดินโคลนกองสูงหนาเต็มเมือง - บางคนนั่งโกยด้วยมือ หวั่นดินแห้งยิ่งกำจัดยาก - ขณะที่คลินิกแพทย์รัฐกานต์ เสียหายหนัก ยาคนไข้ไหลตามน้ำเกลี้ยง -ด้านชาวบ้านอีกราย เล่า นาทีนำปิ๊กอัพคู่ในมาจอดจุดปลอดภัยที่น้ำไม่เคยท่วมถึง แต่สุดท้ายถูกกระแสน้ำพัดพลิกตะแคง จนต้องจ้างรถมายกเอาไปซ่อม

สถานการณ์เมื่อวานนี้ (12 ก.ย.67) หลังจากระดับน้ำในพื้นที่ชุมชนตลาดไม้ลุงขน  เหมืองแดง ตลาดพลอย เกาะทราย บางจุดระดับเริ่มลดลงบ้างแล้ว พบว่าชาวบ้านบางส่วนที่บ้านอยู่ต้นๆซอย พอน้ำเริ่มลด รีบพากันเข้าไปสำรวจบ้านและเร่งทำความสะอาด เพราะหากปล่อยให้ดินโคลนแห้ง จะทำให้การทำความสะอาดลำบาก


ช่วงหนึ่งทีมข่าวได้เจอกับคุณยุ้ย เจ้าของร้านแก๊สและร้านขายของชำ ที่นั่งทิ้งตัวเอามือโดนกินโคลนออกจากของที่เธอขาย ทั้งถังแก๊ส ขวดซอส ขวดน้ำมันต่างๆ คุณยุ้ย บอกว่า ความเสียหายทั้งหมดนี้ประเมินค่าไม่ได้บ้านตัวเองไม่เคยท่วมมาก่อน ยังทำอะไรได้ไม่มาก ทำได้เพียงใช้มือโกยโคลนออก ประตูก็เปิดได้นิดเดียว เพราะโคลนมันดันทั้ง 2 ฝั่ง

ขณะที่อีกคน คือ คุณลุงยอดวัย 68 ปี เจ้าของร้านขายสังฆภัณฑ์ ที่พอน้ำออกจากบ้าน ปรากฏว่าโคลนดินเต็มบ้าน ในบ้านหนาและสูงครึ่งเข่า หน้าบ้านหนาและสูงแทบจะถึงเอว ซึ่งบ้านและร้านสังฆภัณฑ์หลังนี้


ลุงยอด เล่าว่า สภาพดินโคลนแบบนี้ ต้องมีหน่วยงานราชการเอารถตักเข้ามาช่วยชาวบ้าน ต้องมีน้ำเข้ามาช่วยอีกแรงเพื่อความง่ายในการกำจัด อย่างร้านสังฆภัณฑ์ของตนคงใช้เวลามากกว่า 2 สัปดาห์ หน้าบ้านโคลนสูงประมาณเข่า ส่วนหลังบ้านสูงแทบจะเท่าเอว เข้าไปไม่ได้เลย


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าแม้จะค่ำมืดแล้ว ยังมีผู้คนบางส่วนที่ยังคงพยายามตักดินออกจากร้านค้า จากบ้านของตัวเองให้ได้มากที่สุดเพราะว่าหากดินแห้งจะเป็นอุปสรรค และยากในการกำจัด


ระหว่างลงพื้นที่ทีมข่าวเจอคุณลุงอภิชาติ และคุณถาวร ผู้ช่วยคลินิกแพทย์รัฐกานต์ ซอยเหมืองแดง ที่กำลังเคลียร์ดิน ซึ่งทั้งสองบอกว่าเป็นดินทรายที่มาจากฝั่งเมียนมาร์ ทะลุเข้ามาคลินิกโดยตรงเพราะว่า คลินิกตรงหันหน้าตรงกับซอยที่น้ำทะลักมา  โดยพบว่าสภาพด้านในคลินิค ดินทรายหนามาก เมื่อวานเคีลยร์ได้ 4 ชม. เคลียร์ได้นิดเดียว คาดว่าหนึ่งสัปดาห์ แต่ไม่รู้จะเสร็จหรือไม่เพราะทรายหนามาก/ ส่วนข้าวของเสียหายหมด ทั้งยาที่เคาน์เตอร์ ยาในตู้เย็นสำหรับจ่ายคนไข้หายไปหมดเลย

ในซอยเหมืองแดงถัดไปอีกไม่ไกล พบกับรถกระบะของ 4 ประตูของคุณเอ ชาวบ้านในพื้นที่ไม้ลุงขน โดยกระแสน้ำพัดจนรถพลิกตะแคง  ซึ่งเจ้าตัวเพิ่งมาเห็นหลังจากที่ออกมาได้ ก่อนได้จ้างรถยกเพื่อส่งซ่อม  


คุณเอ เล่าว่า วันเกิดเหตุตนได้เอารถมาจอดบริเวณถนนซอยเหมืองแดง เพราะคิดว่าน้ำจะท่วมไม่ถึง ซึ่งตนเพิ่งทราบหลังจากที่ออกมาได้ช่วงเช้าวานนี้  พอมาเห็นสภาพรถตกใจมาก ตอนแรกคิดว่ารถหาย แต่พอเดินๆไปดูเห็นหงายท้องอยู่ข้างตึก  เบื้องต้นนำรถมีประกันแต่ไม่รู้ว่าประกันจะรับเคลมหรือไม่


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/BfKeo4ljvmI

คุณอาจสนใจ

Related News