สาวร้องข้างบ้านทำโชว์รูมกัญชา ส่งกลิ่นเหม็น-เสียงดัง ซ้ำผนังชื้น ชาวบ้านชี้ที่นี่เป็นแหล่งชุมชน วอนออกไปทำที่อื่น

คุณอ้อม (นามสมมุติ) ร้องเรียนกับทีมข่าวว่า บ้านที่เธอพักอาศัย ย่านพระโขนง มีคนเช่าบ้านที่อยู่ติดกัน ปล่อยให้ผู้เช่าเข้ามาทำการปลูกฟาร์มกัญชา ทั้งที่ในชุมชน เป็นชุมชนที่สงบ และไม่เคยมีปัญหาอะไรมาก่อน กระทั่งผู้เช่ากลุ่มนี้เข้ามาเช่าเดือนมีนาคม หลังจากนั้น ก็ได้รับผลกระทบทั้งทางเสียง และหนักสุดคือ กลิ่นของกัญชา ที่เข้าไปในบ้านทำให้หลายคนต้องเก็บตัวในบ้าน เปิดเครื่องฟอกอากาศ


คุณอ้อม บอกว่า เริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคม ก็เริ่มมีการติดตั้งอุปกรณ์ มีการขนถังแก๊สออกซิเจนเข้ามากลางเดือนมีนาคม พอเข้าเดือนเมษายน ที่บ้านก็เริ่มได้ยินเสียงสั่นสะเทือนมาตามผนัง ตามโครงสร้างกำแพง เพราะต้องใช้กำแพงร่วมกับเพื่อนบ้านหลังนี้


จนปลายเดือนเมษายน ผนังฝั่งที่ใช้ร่วมกัน ก็มีความชื้นมากกว่าปกติ และทำให้ตู้เสื้อผ้าบิวท์อิน ไม้โป่งพอง ก็พบว่ามีปลวกกินตู้เสื้อผ้ากลางบ้าน ตอนแรกก็ยังไม่ได้รู้ว่าเกิดจากอะไร แต่พอรู้ว่ามีความชื้นโครงไม้มันผุออกมาจากผนังบ้านฝั่งที่ติดกับบ้านเช่า และตลอดทุกวัน ก็มีเสียงดังเรื่อยมา จนถึงประมาณกรกฎาคม สิงหาคมที่เงียบไป แต่ตอนนี้เหมือนเริ่มกลับมาแล้ว


ส่วนปัญหาเรื่องกลิ่น หนักสุดเป็นพฤษภาคมจนถึงมิถุนายน ที่กลิ่นแรงมาก แบบตลบอบอวล เข้าไปในบ้านเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามประมาณ 5 ถึง 6 หลังที่เขาอยู่อาศัย ซึ่งก็จะมีทั้งเด็ก และคนแก่ จนทำให้พฤติกรรมการอยู่ผิดปกติไปเลย ทุกคนต้องปิดบ้านทุกบ้าน แล้วก็ใช้เครื่องฟอกอากาศอยู่ จากเดิมที่ปกติ คนในซอย จะออกมาออกกำลังกายช่วงเย็นกันเยอะ แต่ช่วงเดือนมิถุนายนเพราะกลิ่นมันแรง ทุกคนต้องหนีเข้าบ้าน


ทั้งนี้ ช่วงที่ผู้เช่าย้ายเข้ามา ก็เริ่มมีการห่อฟอยล์ เอาถังออกซิเจนเข้ามา ชาวบ้านก็เคยติดต่อสอบถามไปที่เจ้าของบ้านที่ให้เช่า ซึ่งเป็นบริษัทแห่งหนึ่ง ทางเจ้าของบอกว่า ผู้เช่าจะทำโชว์รูมปลูกกัญชา แนวออร์แกนิก เพื่อให้ลูกค้าเดินมาดูว่าปลูกยังไง และมีฟาร์มอยู่ที่จังหวัดปทุมธานี แต่พอนานวัน ตนเองมองว่ามันดูยิ่งใหญ่ และมีอุปกรณ์มากขึ้น


ที่ผ่านมา ตอนช่วงที่ได้รับผลกระทบเยอะ ๆ ประมาณเมษายน ก็ไปทำการเขียนร้องเรียนที่เขตพระโขนง ก็ทำได้เพียงแจ้งเหตุเดือดร้อนรำคาญ ที่ฝ่ายสิ่งแวดล้อม ของสำนักงานเขตพระโขนง


แต่พอเข้าเดือนพฤษภาคม สำนักงานเขตก็มาตรวจในบ้านที่ตนร้องเรียน แต่กว่าจะได้รายงาน ต้องไปทวงถามจนเข้าเดือนมิถุนายน เนื่องจากชุมชนทนไม่ไหวแล้วเพราะได้กลิ่น และก็ให้มีการแก้ไข แต่ก็ไม่ดีขึ้น


ซึ่งจากที่ตนเองเห็นจากรายงานของเขต การปลูกของเขา ไม่ได้มีการป้องกันอะไร ไม่ได้มีฉนวนหุ้ม ซึ่งมาถึงจุดนี้มันไม่ใช่โชว์รูมแล้ว อีกทั้งพื้นที่ตรงนี้เป็นบ้านพักอาศัย เป็นแหล่งชุมชน คนที่มาทำถ้ามีความรู้เรื่องการทำฟาร์มเฉพาะเขาจะไม่ทำแบบนี้กับเรา ปล่อยเช่าให้ใครก็ได้ แล้วทำอะไรก็ได้ แต่ไม่มีการคำนึงถึงสภาพแวดล้อม หรือชุมชนที่เป็นอยู่


ถามว่าผิดกฎหมายไหม โอเค ตอนนี้ไม่ผิดกฎหมาย แต่ความรับผิดชอบต่อสังคมมันไม่มี เพราะคุณทำให้คนอื่นเดือดร้อน แล้วคนที่อาศัยอยู่ล่ะ ต้องซ่อมบ้าน หรืออาจจะต้องรักษาตัวเอง มันก็ไม่ถูกต้อง


เมื่อถามว่าอยากให้แก้ยังไง ตนมองว่ามันอยู่ผิดที่ผิดทางตั้งแต่แรก มันไม่ควรที่จะมาอยู่ในชุมชน ขนาดเป็นโรงเรือนอยู่ต่างจังหวัด กลิ่นยังไม่เข้าบ้านคนอื่น บางครั้งเสาร์-อาทิตย์ก็ต้องไปพักต่างจังหวัดแทน เพราะมันเครียด พอได้ยินเสียงดังตลอด 24 ชั่วโมง ตลอดเจ็ดวัน แล้วกลิ่นก็เข้า


ทั้งนี้ ก่อนหน้านี้ทางสำนักงานเขตได้เข้าไปตรวจสอบและได้มีการทำเอกสารชี้แจงมาที่ผู้ร้องเรียน โดยพบว่าการแก้ปัญหาทางกลิ่น ได้มีการนำม่านพลาสติกที่มีแม่เหล็กดูดมาติดตั้ง ป้องกันกลิ่น


ส่วนเสียง มีการนำแผ่นกระดาษเคลือบโฟม 3มิติ มาติดที่กำแพง ส่วนการแก้ไขเรื่องสั่นสะเทือน มีการนำแผ่นยางมาติดตั้งที่ใต้ฐานรองขาของชั้นปลูก นำมาวางใต้เครื่องลดความชื้น และใช้แผ่นฟองน้ำนำมาติดกับ พัดลมผนังและพัดลมแบบอินไลน์


ทีมข่าวได้พูดคุยกับอาม่า ที่อยู่บ้านละแวกใกล้เคียง ก็บอกว่า กลิ่นแรงมากก็ เวลาออกมาเดินข้างนอกก็ไม่ไหว เวียนหัว น้ำตาไหล คอแห้ง บางทีเวียนหัวแบบอยากจะอาเจียน


ที่ผ่านมา หน่วยงานก็แก้ไม่ได้เลย อยากถามว่าทำไมถึงแก้ไม่ได้ มันสมควรจะแก้ได้แล้ว มันไม่ใช่เรื่องหนักหนาอะไร นี่มันเรื่องอากาศทำลายคนอื่น


ตนเองอยากบอกกับคนที่เช่าว่า ย้ายออกไปเร็วๆ เลย และเมื่อประมาณสามเดือนก่อนหน้านี้ ทางคนที่เช่าบ้านทำฟาร์มกัญชา ได้มีการเอาหนังสือมาให้อาม่าเซ็น และบอกว่าอีก 1 เดือนจะย้ายออก เลยถามกลับไปว่าถ้าจะออก ทำไมจะต้องให้เซ็น ก็ออกไปเลย แต่อาม่าก็ไม่รู้ว่าเอกสารที่เอามาให้เซ็นคือเอกสารอะไร หรือมีเป้าหมายอะไรที่เอาไปให้เซ็น และจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ย้าย


ทีมข่าวถามว่า เขาบอกว่าจะเปิดเป็นแค่โชว์รูมเฉยๆ นะ อาม่าบอกว่าโชว์อะไร ไปโชว์ที่บ้านเขา ที่นี่ไม่ต้อนรับ ที่นี่มีคนแก่อาศัยอยู่มีเด็กอยู่หลายคน และได้รับผลกระทบอย่างหนัก ส่วนสำนักงานเขต อยากบอกว่าให้เขาย้ายออกไปเลย ไม่ต้องมาแก้ไข