สังคม
หนุ่มเจ้าของธุรกิจอะไหล่รถพร้อมแม่ บุกโวยเซลส์คอนโด เชิดเงินดาวน์ 1 ล้าน ด้านเซลส์สาวอ้างถูกบังคับ
โดย kanyapak_w
7 ก.ย. 2567
989 views
หนุ่มเจ้าของธุรกิจอะไหล่รถพร้อมแม่ บุกโวยเซลส์คอนโด เชิดเงินดาวน์ 1 ล้าน พบถูกปลอมลายเซ็น ล่าสุดเซลส์สาวโผล่รับถูกผู้จัดการฝ่ายขายบังคับให้ปลอมลายเซ็น
นี่เป็นคลิปที่ผู้เสียหาย พร้อมครอบครัว เข้าไปสอบถามกับฝ่ายขายโครงการ คอนโดมิเนียมแห่งหนึ่ง ริมถนนจอมเทียมสาย 2 ตำบลหนองปรือ อำเภอบางละมุง จังหวัดชลบุรี เพื่อทวงเงินดาวน์คอนโด ยอดรวม 1,050,000 บาท
แถมยังถูกปลอมลายเซ็นต์ไปรับเงินจากเจ้าของโครงการมาแล้ว แต่พอสอบถามกับฝ่ายขายกลับถูกบ่ายเบี่ยง และไม่มีท่าทีจะยอมคืนเงิน อ้างว่าไม่รู้ไม่เห็นแต่อย่างใด ซึ่งต่อมา นายพงษ์ณัฐธนา ผู้เสียหาย และครอบครัว ได้ตัดสินใจเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา สาขาโค้งดงตาล
คุณพงษ์ณัฐธนา ผู้เสียหาย เปิดเผยกับทีมข่าวว่า เมื่อประมาณ 10 ปีก่อน ตนเองพร้อมครอบครัว ได้ไปซื้อคอนโดแห่งหนึ่งย่านนาจอมเทียน อำเภอสัตหีบ จำนวน 3 ห้อง ตกห้องละ 2.3 ล้านบาท โดยทำสัญญาผ่อนชำระเงินดาวน์ มีการผ่อนเงินดาวน์ไปแล้ว ห้องแรก / 500,000 บาท , ห้องที่ 2 / 1,000,000 บาท , ห้องที่ 3 / 750,000 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 2,250,000 บาท
กระทั่งประมาณปลายปี 2565 โครงการหยุดก่อสร้างเพราะขาดสภาพคล่อง ทางฝ่ายขายติดต่อมาเจรจาว่า "ให้โยกไปซื้อคอนโดที่ย่านจอมเทียนแทน โดยไม่ต้องผ่อนเงินดาวน์ ให้ใช้จำนวนเงินที่ทางลูกค้าผ่อนกับโครงการนี้ไปแล้ว"
หลังจากนั้นตนเองจึงนำเรื่องไปปรึกษาครอบครัว ประกอบกับตนเองทำธุรกิจอยู่ที่กรุงเทพ จึงเปลี่ยนใจไม่อยากซื้อคอนโดในเมืองพัทยาแล้ว และขอเงินดาวน์คืนจากทางโครงการ โดยยอมขาดทุน 50% ซึ่งทางโครงการก็ตอบตกลง พร้อมกับทำสัญญาในการชำระเงิน 1,250,000 บาท ซึ่งตนเองได้รับเงินก้อนแรกมา 200,000 บาท หลังจากนั้นก็ไม่เคยได้เงินอีกเลย พยายามทวงถามกับทางโครงการ แต่ก็ถูกบ่ายเบี่ยงมาตลอด
แต่ล่าสุดตนสืบทราบมาว่า เจ้าของโครงการได้จ่ายเงิน 1 ล้านบาท คืนมาแล้ว แต่ตนไม่เคยได้รับเงินยอดดังกล่าว พอสืบไปสืบมาก็พบว่า มีผู้ปลอมแปลงเอกสารและลายเซ็นของตน ไปรับเงินคืนจากเจ้าของโครงการแล้ว ทางตนจึงบุกมาที่คอนโดเพื่อทวงถามเงิน (เป็นไปตามคลิป) ยืนยันว่าจะดำเนินคดีทั้งทางแพ่งและอาญาให้ถึงที่สุด
ล่าสุดทีมข่าวได้พูดคุยกับ นางสาวแนน (นามสมมติ) ที่กำลังเข้าแจ้งความและให้ข้อมูลกับตำรวจ โดยยอมรับว่า เป็นผู้ปลอมลายเซ็นลูกค้าในการไปขึ้นเงินกับเจ้าของโครงการ แต่ตนเองถูกผู้จัดการฝ่ายขายสั่งให้ทำ ที่ผ่านมาพยายามทักท้วงผู้จัดการฝ่ายขายแล้ว แต่ก็ต้องจำใจทำตามคำสั่ง เพราะตนเองเป็นลูกน้อง ที่ตัดสินใจเข้าให้ข้อมูลกับตำรวจ ก็เพื่อปกป้องสิทธิ์ และมาแสดงความบริสุทธิ์ว่าเธอไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง หรือรู้เห็นกับเงินจำนวนดังกล่าว เพราะเงินไม่ได้ถูกโอนเข้าบัญชีตนเอง แต่โอนเข้าบริษัท ซึ่งตอนนี้เธอไม่ได้ทำงานกับบริษัทฝ่ายขายคอนโดแห่งหนี้แล้ว
ปรากฎว่าระหว่างที่ผู้สื่อข่าวกำลังพูดคุยกับนางสาวแนน ได้มีโทรศัพท์จากผู้จัดการฝ่ายขายโทรเข้ามา ซึ่งนางสาวแนนถามว่าจะช่วยเหลืออย่างไรในเรื่องปลอมลายเซ็นลูกค้า แต่ผู้จัดการฝ่ายขายพูดว่า "อะไรใครเซ็น ฉันไม่รู้เรื่อง" เหมือนกับโยนความผิดมาให้นางสาวแนนเพียงคนเดียว ก่อนจะวางสายไป