สังคม

'พายุยางิ' ส่งผลไทยฝนตกหนัก สทนช.เตือนพื้นที่ท้ายเขื่อนเจ้าพระยา ยกของขึ้นที่สูง หลังระบายน้ำเพิ่ม

โดย nattachat_c

5 ก.ย. 2567

16 views

วานนี้ (4 ก.ย.) ดร.สุรสีห์ กิตติมณฑล เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นประธานการประชุมประเมินสถานการณ์น้ำประจำสัปดาห์ ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ ห้องประชุมน้ำปิง อาคารจุฑามาศ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ

ภายหลังการประชุม เลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สรุปสถานการณ์น้ำปัจจุบัน พบว่า ในช่วงเดือนกันยายนนี้ ปริมาณฝนในพื้นที่ภาคเหนือ และพื้นที่ภาคกลาง จะมากกว่าค่าเฉลี่ยปกติส่วนในเดือนตุลาคมและเดือนพฤศจิกายน ฝนจะไปตกหนักในพื้นที่ภาคใต้ และจากการคาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยา คาดว่าปีนี้จะมีพายุเข้าประเทศ 1- 2 ลูก

ส่วนการติดตามพายุใต้ฝุ่นยางิ พบว่าพายุจะเคลื่อนตัวมาทางประเทศฟิลิปปินส์ แล้วเคลื่อนไปทางเกาะไหหลำ และมีแนวโน้มว่าพายุจะไปขึ้นฝั่งที่ประเทศเวียดนาม ในช่วงวันที่ 6- 7 กันยายน ดังนั้นจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ของไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ในช่วงนี้จะมีอิทธิพลในภาคตะวันออก โดยเฉพาะจังหวัดตราด จังหวัดจันทบุรี จะมีแนวโน้มฝนตกหนัก และพื้นที่ภาคใต้ฝั่งอันดามันก็จะมีฝนตกหนักด้วย

ส่วนพื้นที่ภาคเหนือ ในพื้นที่ที่เคยมีน้ำท่วมเดิม ในวันที่ 6- 7 กันยายนนี้ จะได้รับอิทธิพลจากหางพายุ อาจทำให้พื้นที่ภาคเหนือตอนบน และพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน อยู่ในเกณฑ์ที่ต้องเฝ้าระวัง เพราะเป็นพื้นที่ประสบอุทกภัยไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเชียงราย พะเยา น่าน แพร่ สุโขทัย และลำปาง

แต่โชคดีที่เขื่อนต่างๆ ยังอยู่ในเกณฑ์ที่รองรับน้ำได้อยู่มาก เช่น

เขื่อนภูมิพล ยังสามารถรองรับน้ำได้ 6,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

เขื่อนแควน้อย ยังรองรับน้ำได้ 600 ล้านลูกบาศก์เมตร

เขื่อนสิริกิติ์ รองรับน้ำได้ 2,000 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทุ่งบางระกำ สามารถรองรับน้ำได้อีกประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตร

บึงบอระเพ็ด รับน้ำได้อีก 150 ล้านลูกบาศก์เมตร

ทั้งนี้ จากการประเมินพบว่าปัจจุบัน สถานี C2 จังหวัดนครสวรรค์ ระบายน้ำอยู่ที่ 1,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที อาจจะต้องระบายเพิ่มเป็น 2,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที เนื่องจากอิทธิพลของพายุยางิและร่องมรสุมที่พาดผ่าน ทำให้มีฝนตกหนักมากขึ้น จากจุดนี้จะส่งผลให้การระบายน้ำเขื่อนเจ้าพระยา จังหวัดชัยนาท ต้องเพิ่มการระบายด้วยจากปัจจุบันระบายอยู่ที่ 1,500 ลูกบาศก์เมตร/วินาที อาจต้องเพิ่มการระบายสูงสุดอยู่ที่ 2,000 ลูกบาศก์เมตร/วินาที ซึ่งจะส่งผลให้พื้นที่ท้ายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยาได้รับผลกระทบ จึงเตือนให้ยกของขึ้นที่สูง ทั้งจังหวัดชัยนาท สิงห์บุรี อ่างทอง พระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี นนทบุรี ต้องติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด

-------------

ประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา เรื่อง พายุ “ยางิ” ฉบับที่ 7 (166/2567)

เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (5 ก.ย. 67) พายุไต้ฝุ่น “ยางิ” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 19.2 องศาเหนือ ลองจิจูด 116.0 องศาตะวันออก มีความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 185 กิโลเมตรต่อชั่วโมง พายุนี้กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกอย่างช้า ๆ คาดว่าในช่วงวันที่ 6-7 ก.ย. 67 จะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงตามลำดับ ลักษณะเช่นนี้ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน มีฝนตกหนัก และลมกระโชกแรงบางแห่ง ในช่วงวันที่ 7-8 ก.ย. 67

อนึ่ง ในช่วงวันที่ 5-6 ก.ย. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกหนักบางแห่ง โดยมีฝนตกหนักมากบางพื้นที่ในภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสมซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ส่วนคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนควรงดออกจากฝั่งจนถึงวันที่ 8 ก.ย. 67 นี้ไว้ด้วย

----------------

กรมอุตุนิยมวิทยา ได้คาดการณ์ฝนตก ดังนี้

ภาคเหนือ : ร้อยละ 40 ของพื้นที่

ภาคอีสาน : ร้อยละ 40 ของพื้นที่

ภาคกลาง : ร้อยละ 60 ของพื้นที่

ภาคตะวันออก : ร้อยละ 70 ของพื้นที่

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) : ร้อยละ 60 ของพื้นที่

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) : ร้อยละ 70 ของพื้นที่

กทม.และปริมณฑล : ร้อยละ 60 ของพื้นที่

----------------

สทนช. คาดการณ์พื้นที่เสี่ยงอุทกภัย จากฝนตกสะสมในช่วง 3 วัน อาจมีปริมาณมากกว่า 200 มิลลิเมตร

ภาคตะวันออก : จ.ตราด - จ.ชลบุรี - จ.ปราจีนบุรี

ภาคใต้ : จ.ชุมพร - จ.ระนอง - จ.พังงา 

----------------

ช่วงเช้าวานนี้ (4 ก.ย.) ผู้สื่อข่าวได้รับการแจ้งว่าได้เกิดเหตุดินทรุด ที่ ศูนย์พัฒนาเด็ก โรงเรียนเพียงหลวง 16 ห้องเรียน บ้านร่มโพธิ์ทอง ม.19 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย โดยขณะเกิดท่ามกลางฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในเวลาต่อมาได้เกิดการทรุดตัวของดินไปทั่วบริเวณศูนย์พัฒนาเด็ก ทำให้ครูต้องพาเด็กนักเรียนวิ่งหนีออกจากจุดดังกล่าวเป็นการด่วน ซึ่งเด็กที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจ

ทั้งนี้ พบว่าได้เกิดรอยแยกบนพื้นดิน โดยเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อ วันที่ 3 กันยายน 2567 ที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่ฝนตกหนักเพิ่มเติม ทำให้สภาพถนน และโรงเรียนพังถล่มเกิดความเสียหายและเกิดอันตรายกับเด็กนักเรียนและครูที่ดูแลได้ อย่างไรก็ตามหลังเหตุดังกล่าวเกิดขึ้นทางครูและเจ้าหน้าที่ในศูนย์ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบเพื่อวางแนวทางการแก้ไขปัญหาเพราะเกรงว่าจะเกิดอันตรายกับเด็กนักเรียนได้

ขณะที่ผู้ใช้เฟซบุ๊ก 'Tu You' โพสต์ภาพพร้อมข้อความ ในกลุ่ม 'ข่าวรอบเวียงเทิง' โดยมีข้อความ ระบุ "ช่วยพวกหนูด้วย. ถนน และโรงเรียน. ใกล้จะทรุดแล้ว ศูนย์พัฒนาเด็ก ซึ่งอยู่ในโรงเรียน เพียงหลวง16 ห้องเรียนบ้านร่มโพธิ์ทอง ม.19 ต.ตับเต่า อ.เทิง จ.เชียงราย. หลังจากฝนตกหนักเพิ่มเติม วันที่. 3 กันยายน. 2567 เมื่อวาน"

----------------


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/3jLSdJoEt3k



คุณอาจสนใจ

Related News