3 คนงานพลาดท่า หลังคาเหล็กเกี่ยวสายไฟแรงสูงบริเวณข้อต่อ ถูกไฟชอร์ตเสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 2 ราย

เมื่อเวลา 12.29 น วันที่ 4 กันยายน 2567 พนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ ได้รับแจ้งมีคนงานสร้างหลังคาเหล็ก ถูกกระแสไฟฟ้าดูดเสียชีวิต จุดเกิดเหตุ ปากซอย กรุงธนบุรี4แยก10 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร จึงเดินทางไปตรวจสอบ พร้อมด้วยอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญและแพทย์นิติเวชโรงพยาบาลจุฬา


ที่เกิดเหตุเป็นอาคารพาณิชย์ สูง 4 บ้านในซอยกรุงธนบุรี4 แยก10 แขวงบางลำภูล่าง เขตคลองสาน กรุงเทพมหานคร โดยพบผู้เสียชีวิต 1 ราย เป็น ชายทราบชื่อ นายเชาวลิต อายุ 62 ปี นอนหงายเสียชีวิต บนชั้นดาดฟ้า ซึ่งกำลังต่อเติม ทำหลังคา


นอกจากนี้ยังพบผู้บาดเจ็บ อีก 2 ราย ทราบชื่อ นาย สมนึก อายุ 57 ปี มีอาการบาดเจ็บที่มือทั้ง 2 ข้าง และขาทั้ง 2 ข้าง เนี่องจากถูกกระแสไฟฟ้าดูดจนไหม้ และนายชาติ อายุ 36 ปี อาการสาหัส มีบาดแผลไฟไหม้ตามลำตัวมือทั้ง 2 ข้างและขาทั้ง 2 ข้าง


จากการสอบถาม นางชูศรี อายุ 62 ปี ภรรยาผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเองอยู่ข้างล่างคอยดึงเชือกอยู่ เขาสามคนอยู่ด้านบนคอยดึงเชือกอยู่ด้านบน พอตนส่งขึ้นมาก็ได้ยินเสียงดังบึ้ม ตนก็เลยวิ่งขึ้นมาดูพอขึ้นมาถึงก็เห็นว่าเขาสามคนล้มลงไปแล้ว อีก 2 คน ลุกขึ้นได้ ส่วนอีกคนลุกไม่ได้ตนก็เลยไปปั๊มหัวใจเขาก็สะอึกขึ้นมาอยู่ 3 ครั้ง ผู้เสียชีวิตเป็นแฟนของตน เป็นช่างรับเหมาทำหลังคา ทำงานแบบนี้มา 40 กว่าปีแล้ว ครั้งนี้เป็นการผิดพลาดครั้งแรก


ส่วนทางด้าน นายสมนึก อายุ 57 ปี กล่าวว่า สังกะสีที่สาวขึ้นไปแล้วก็ไปโดนกับสายไฟแรงสูง ตนก็ชาสลบไปสักพักหนึ่ง ส่วนตอนนั้นทำงานอยู่ด้านบนกัน 3 คน ช่วยกันสาวหลังคาขึ้นไปพักเอาไว้ด้านบนก่อนโดยคนที่สลบอยู่เป็นหัวหน้า พวกตนได้รับจ้างจากเจ้าของบ้านมาทำ ตอนที่เกิดเหตุก็สลบไปทั้งหมดเลย 3 คน ส่วนตนพอพื้นขึ้นมาก็พบว่าได้รับบาดเจ็บที่มือและที่ขา


ส่วนคนงานอีกคน ซึ่งบาดเจ็บสาหัส นายชาติ อายุ 36 ปี กล่าวว่า เหตุเกิดจากแผ่นเมทัลชีท ปลายไปโดนข้อต่อสายไฟพอดี คนที่สลบอยู่เป็นหัวหน้า มาทำงานกันทั้งหมด 4 คน เป็นช่างติดตั้งหลังคา วันนี้มานำเอาแผ่นเมทัลชีท ขึ้นไปวางพักเอาไว้ด้านบนก่อนโดยการผูกเชือกแล้วดึงขึ้นไปด้านบน


ด้านนายชาญสุวิช พยานที่เห็นเหตุการณ์เล่าว่า บ้านหลังดังกล่าวได้จ้างคนงานมาต่อเติมหลังคาชั้นดาดฟ้าตั้งแต่เมื่อวาน โดยเมื่อวานเป็นการขึ้นโครงเหล็ก และวันนี้ได้นำแผ่นเหล็กเมทัลชีทมาปู มีช่าง 3 คนขึ้นไปดึงแผ่นเหล็กจากด้านบน ส่วนผู้หญิงอีกคนคอยผูกเชือกที่แผ่นเหล็กดึงอยู่ชั้นล่าง


ช่วงแรกๆ ก็ดึงขึ้นไปได้ จนกระทั่งมาถึงแผ่นที่เกิด เมื่อดึงขึ้นไปแล้ว จังหวะที่ช่างกำลังจับแผ่นเหล็กเพื่อดึงเข้าไปพักที่ดาดฟ้า ไม่แน่ใจว่าส่วนใดของแผ่นเหล็กไปโดนสายไฟฟ้าแรงสูง แต่เห็นแสงไฟวาบคล้ายหม้อแปลงไฟฟ้าระเบิด 2 ลูก ก่อนที่ไฟฟ้าจะดับทั้งหมด และมีแผ่นเหล็กร่วงหล่นลงมา จนชาวบ้านที่อยู่ในซอยต่างตกใจกันหมด ซึ่งคนเองมองว่าอันตรายและไม่ปลอดภัย เพราะมีช่างที่รับจ้างทำหลังคาลักษณะเดียวกันผ่านมาเห็น ต่างก็บอกว่าไม่ควรเสี่ยงเอาแผ่นเหล็กขึ้นทางด้านหน้าอาคาร เพราะมีสายไฟแรงสูงอยู่ตรงจุดดังกล่าวพอดี ควรดึงขึ้นฝั่งอื่น หรือถือขึ้นทางบันไดมากกว่า อีกทั้งยังโชคยังดีที่แผ่นเหล็กดังกล่าวไม่ตกลงบนถนนที่มีรถสัญจรผ่านไปมา มิฉะนั้นคงมีผู้บาดเจ็บมากกว่า


ด้านว่าที่ร้อยเอกศิริพงษ์ สนานคุณ ผู้อำนวยการกองบริการการจำหน่าย การไฟฟ้านครหลวงเขตยานนาวา เปิดเผยว่า สายไฟฟ้าจุดเกิดเหตุ เป็นส่วนของสายไฟด้านบนสุด ซึ่งเป็นสายไฟแรงดันกลาง ตามเกณฑ์ของการไฟฟ้าฯ หรือสายไฟแรงดันสูงตามความเข้าใจของประชาชน มีแรงดันไฟ 24,000 โวลต์


ซึ่งตามปกติจะมีฉนวน ยกเว้นบางจุดที่เป็นจุดต่อพ่วงเข้ากับหม้อแปลงไฟฟ้า จะเป็นสายเปลือย เช่นเดียวกับจุดที่เกิดเหตุ หากไปถูกโดนหรือเข้าใกล้ก็จะเกิดอันตรายต่อร่างกายและทรัพย์สินได้ ซึ่งตามปกติการไฟฟ้าฯ จะมีมาตรฐานในการติดตั้งให้อยู่ห่างจากอาคาร ป้ายโฆษณา หรือทรัพย์สินต่างๆ อยู่แล้ว แต่หากประชาชนมีการขนย้ายสิ่งของ ต่อเติม ก่อสร้าง หรือการใช้รถเครนขนาดใหญ่ ที่เสี่ยงต่อการจะไปโดนสายไฟฟ้า ไม่ว่าจะจุดใดก็ตาม ขอให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าอาจเป็นสายไฟฟ้าแรงดันสูง และประสานการไฟฟ้านครหลวงเขตต่างๆ ตามท้องที่ หรือ โทรสายด่วน 1130 ให้เข้าตรวจสอบและนำฉนวนมาหุ้มป้องกันระหว่างดำเนินการขนย้าย ต่อเติม ก่อสร้าง จนกว่าจะแล้วเสร็จ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้ โดยการไฟฟ้านครหลวงจะดำเนินการให้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย


ทั้งนี้ทางพนักงานสอบสวน สน.สำเหร่ จะสอบสวนหาสาเหตุการเกิดเหตุอีกครั้ง เบื้องต้นได้ให้อาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ส่งชันสูตรที่นิติเวชจุฬา