รวบแก๊งค้ายาข้ามชาติ ซุกเฮโรอีน 91 กก.คารถ เตรียมส่งต่อประเทศที่ 3

ป.ป.ส. รวบแก๊งค้าเฮโรอีนข้ามชาติ ยึดเฮโรอีนกว่า 90 กก. เตรียมใช้รถสไลด์บรรทุกรถแข่งเก่า ขนส่งเรือฝั่ง จ.ระยอง ไปยังประเทศที่สาม เร่งขยายผล-จับเจ้าของอู่ร่วมขบวนการ

วานนี้ (2 ก.ย. 67) พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. พร้อมด้วย นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมแถลงผลปฏิบัติการกวาดล้างแหล่งพักยาเสพติดในพื้นที่ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี ตรวจยึดเฮโรอีนกว่า 90 กิโลกรัม จํานวน 262 แท่ง พร้อมรถยนต์ของกลางที่ใช้ในการลําเลียงขนยาเสพติด และทรัพย์สิน จํานวนมาก

การจับกุมในครั้งนี้ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา มีรายงานอุบัติเหตุรถกระบะต้องสงสัย เสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าข้างทางในพื้นที่ จ.เชียงราย โดยผู้ขับไม่ยอมให้ยกรถไปซ่อม และได้หลบหนีไป  

เมื่อตรวจค้นในรถ พบว่า รถคันดังกล่าวมีช่องลับบริเวณกระบะท้ายรถ จึงประสานหน่วยงานในพื้นที่เฝ้าติดตามอย่างใกล้ชิด และมอบหมายให้หน่วยบัญชาการสกัดกั้นและปราบปรามยาเสพติดสารตั้งต้นและเคมีภัณฑ์ ชายแดนภาคเหนือ (นบ.ยส.35) เฝ้าระวังรถที่มีพฤติการณ์น่าสงสัย

กระทั่ง วันที่ 3 กรกฎาคม หน่วย นบ.ยส.35 และกองกําลังผาเมือง สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาได้ 2 คน พร้อมของกลางเป็น ยาไอซ์ 106 กิโลกรัม ซุกซ่อนในรถยนต์ 2 คัน ซึ่งพบว่า ผู้ต้องหาเป็นเจ้าของรถกระบะคันที่เกิดอุบัติเหตุชนเสาไฟฟ้าก่อนหน้านี้ที่ จ.เชียงราย  

จึงเชื่อว่ามีเครือข่ายกลุ่มลำเลียงยาเสพติดที่ใช้รถกระบะดัดแปลงทำช่องลับในการซุกซ่อนยาเสพติดแ ละคาดว่าน่าจะมีอีกจำนวนหลายคัน จึงได้สั่งการให้ นายปฤณ เมฆานันท์ ผู้อำนวยการสำนักปราบปรามยาเสพติด มอบหมายชุดปฏิบัติการตามสืบสวนวิเคราะห์พฤติการณ์ความเคลื่อนไหวของกลุ่มรถกระบะต้องสงสัย จนสามารถพิสูจน์ทราบได้ในเวลาต่อมาว่า มีรถดัดแปลงอีกจำนวนหลายคัน เพื่อใช้ในการลักลอบลำเลียงยาเสพติด

จนช่วงเช้ามืด ของวันที่ 1 กันยายน ที่ผ่านมา ชุดปฏิบัติการ ป.ป.ส. ตรวจสอบพบว่า มีรถกระบะต้องสงสัยเดินทางออกจาก จ.เชียงราย มุ่งหน้ามายังพื้นที่ภาคกลาง จึงสนธิกำลังติดตาม จนพบว่า รถกระบะคันดังกล่าว เข้าไปจอดในโกดังล้อมรั้วด้วยสังกะสี  พื้นที่ ต.บางแม่นาง อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี 

เจ้าหน้าที่จึงนำกำลังแสดงตัวขอเข้าตรวจค้น พบของกลางยาเสพติดเป็น เฮโรอีน 91.7 กิโลกรัม จํานวน 262 แท่ง ซุกช่อนในช่องลับท้ายกระบะ พร้อมจับกุมผู้ต้องหา 2 คน ตรวจยึดรถแข่งสภาพเก่าพุพังอีก 6 คัน และยึดทรัพย์สินเพิ่มเติม อาทิ ที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง 1 แปลง เงินสด รถยนต์ ทองคำ ยางอะไหล่ รถยนต์ และล้อแม็กซ์ รวมมูลค่าประมาณ 5 ล้านบาท

เบื้องต้น ผู้ต้องหาให้การว่าลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 3 ครั้ง โดยยาเสพติดส่วนใหญ่เป็นเฮโรอีน ไอซ์ เคตามีน และ ยาบ้า โดยใช้เส้นทางลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาจากพื้นที่ภาคเหนือ เลี่ยงด่านตรวจจนมาถึง จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นจุดพักยาเสพติด  

ผู้ต้องหารับสารภาพด้วยว่า มีการลักลอบขนเฮโรอีน และไอซ์ ครั้งละประมาณ 100 กิโลกรัม เฉลี่ยเดือนละ 3 ครั้ง

และจากการสืบสวนพบว่า ตั้งแต่ในห้วงเดือนมีนาคม 2567 - ปัจจุบัน รวมระยะเวลา 6 เดือน กลุ่มผู้ต้องหาลักลอบลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 15 ครั้ง โดยยาเสพติดทั้งหมดจะนําไปซุกซ่อนในรถแข่งเก่าสภาพพุพัง เพื่อนำขึ้นรถสไลด์ หวังตบตาเจ้าหน้าที่ จากนั้น จะลำเลียงไปยัง จ.ระยอง เพื่อขนส่งทางเรือไปยังปลายทางประเทศมาเลเซีย ไต้หวัน ออสเตเลีย ซึ่งเจ้าของอู่ดังกล่าว อยู่ระหว่างการหลบหนี เจ้าหน้าที่จึงกําลังเร่งติดตามตัวมาดําเนินคดี

ทั้งนี้ ผู้ต้องหาเปิดเผยกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า ได้รับการติดต่อว่าจ้างจากชาวไทยใหญ่ประเทศเพื่อนบ้านให้ไปรับรถ ให้ค่าจ้างครั้งละ 120,000 บาท โดยยอมรับว่า รู้ว่าสิ่งของในรถเป็นยาเสพติด แต่ไม่ทราบชนิดว่าเป็นยาเสพติดประเภทใด ซึ่งตนมีหน้าที่ขับรถคันดังกล่าวมาจาก จ.เชียงราย มุ่งหน้ามายังพื้นที่ จ.นนทบุรี เพื่อนํายาเสพติดมาพักไว้ เมื่อเสร็จภารกิจก็จะนั่งรถทัวร์กลับไปยัง จ.เชียงราย ส่วนเหตุผลที่ทํา เพราะปัญหาหนี้สิน และค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ภายในครอบครัว และมีหนี้ที่ผูกพันกับทางฝั่งผู้ว่าจ้างอีกด้วย

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/XhlSLOPuLDU