สังคม

เปิดใจลูกสาวเหยื่อ 'ยาดองมรณะ' ขอทวงความยุติธรรมให้พ่อ - ออกหมายเรียก 'เจ๊ปู' โดน 4 ข้อหาหนัก

โดย petchpawee_k

28 ส.ค. 2567

33 views

ลูกสาวเหยื่อยาดองมรณะเปิดใจ เล่านาทีไปหาพ่อที่ รพ. หมอแจ้ง เลือดเป็นกรด ต้องล้างไตตลอดเวลา ชี้ มีโอกาสหาย แต่จะเป็นเจ้าชายนิทรา-ตาบอด” ไปดูในห้องพักเจอขวด ก่อนลองดม กลิ่นแอลกอฮอล์ล้างแผลทะลุจมูกร่ำไห้ คิดถึงพ่อ-เสียดายยังไม่ได้พาไปเที่ยวตามสัญญา - ขณะที่ ภรรยาเหยื่ออีกรายรุดรับศพฯสามี ฉะผู้ผสมเหล้าเถื่อนขายเห็นแก่เงินไม่ห่วงชีวิตคน 


กรณีคลัสเตอร์ซุ้มยาดองขายเหล้าเถื่อนผสมเมทานอล ส่งผลให้คนที่กินเข้าไปถูกหามส่งโรงพยาบาลพร้มอกันหลายราย ในเขตพื้นที่มีนบุรี หนองจอก และคลองสามวา จนส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตและอาการโคม่าอีกหลายราย กำลังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล


วานนี้ (27 ส.ค.67) ผู้สื่อข่าวงานว่า  เฟซบุ๊กของ น.ส.ปรียาภรณ์ สุจินดากุล ลูกสาวของผู้เสียชีวิต  ได้โพสต์ใบแจ้งค่ารักษาพยาบาลที่รวมมูลค่าสูงถึง 116,540 บาท พร้อมร้องขอความเป็นธรรมจากการเสียชีวิตของพ่อ ระบุข้อความว่า


"ที่หนูออกมาโพสต์ทุก ๆ อย่าง เพราะหนูอยากจะเห็นว่า จะมีใครรับผิดชอบการเสียชีวิตของพ่อหนูบ้าง ตั้งแต่พ่อหนูอยู่ที่โรงพยาบาล ไม่มีใครออกมารับผิดชอบทางพ่อหนูเป็นการส่วนตัว หรือเข้ามาคุยหรือขอโทษ ซึ่งที่ผ่านมาพวกหนูต้องเดินเรื่องเองมาตลอด และมีเพื่อนของพ่อที่คอยช่วยเหลือพวกหนูอยู่


ดูจากใบเสร็จของการชำระเงินเอานะคะ ถ้าสมมุติว่าพ่อหนูไม่มีเงินจากประกันสังคม พวกหนูไปหาเงินมาจากไหน เพราะทางพวกหนูแทบไม่มีญาติผู้ใหญ่จากไหนเลย  แล้วเดินเรื่องกันเองทั้งหมด พวกหนูเพิ่งจะบรรลุนิติภาวะไม่กี่ปี ครั้งแรกในชีวิตที่มาทำอะไรแบบนี้ หนูดิ้นกันสุดทาง หนูอยากให้พ่อหนูได้รับความยุติธรรมและตอนนี้หนูสามคนพี่น้องต้องไปหายืมคนอื่นเพื่อมาจัดงานศพ"


ต่อมาทีมข่าวลงพื้นที่วัดกระทุ่มเสือปลา ซอยอ่อนนุช 67 เขตประเวศ กทม. ซึ่งเป็นวัดที่จัดพิธีศพของนายปิติชัย สุจินดากุล อายุ 43 ปี หนึ่งในผู้เสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา  ลูกสาวได้เข้าไปกราบศพพ่อ พร้อมพูดกับพ่อว่า   “ป๋า ไม่ต้องเป็นห่วงนะ หนูจะช่วยป๋าตามเรื่องให้ถึงที่สุด”


ต่อมา น.ส.ปรียาภรณ์ สุจินดากุล อายุ 18 ปี ลูกสาวของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์กับทีมข่าวทั้งน้ำตา โดยเริ่มเล่าว่า พ่อของตนไปดื่มยาดองร้านที่สามวา 1 จากนั้นเกิดอาการชักเกร็ง ตาลาย แล้วเข้า รพ. อยู่ไอซียู พอตนเองไปที่ รพ. หมอแจ้งว่ามีเคสเข้ามา แล้วอาการลักษณะเดียวกันจากการดื่มยาดอง มีทั้งคนที่รอดชีวิตและคนที่ไม่รอดชีวิต  และเท่าที่ทราบ พ่อเริ่มมีอาการวันที่ 21 ส.ค. โดยพ่อบอกเพื่อนร่วมงานว่า ช่วงนี้เป็นอะไรไม่รู้ เวียนหัวบ่อย ตื่นเช้ามาตาลาย มองไม่ค่อยเห็น


ต่อมา เช้าวันที่ 23 ส.ค.พ่อไปทำงานไม่ไหว น่าจะมีการอาเจียนด้วย  ตกเย็นมีเบอร์โทรศัพท์ของพ่อโทรมา แต่พอรับสายกลับเป็นเพื่อนของพ่อ  ตอนนั้นใจไม่ดีแล้ว ต้องมีอะไรแน่ๆ  กระทั่งเพื่อนพ่อบอกว่าพ่ออยู่ ICU นะ มาที่ รพ.เลย  พอไปถึงก็เห็นว่ามีสายเต็มตัวพ่อแล้ว หมอแจ้งตอนนั้นว่าต้องคอยล้างไตอยู่ตลอดเวลา เหมือนไตวายเฉียบพลัน เลือดเป็นกรดเยอะมาก ไม่รู้จะรักษาได้ไหม   หมอแจ้งต่อว่าเมื่อสองวันก่อน มีผู้ป่วยลักษณะคล้ายกัน มาที่ รพ.1-2  ราย น่าจะไปกินยาดองมาเหมือนกัน เพราะอาการเหมือนกัน   ตนถามหมอว่า ผู้ป่วยเหล่านั้นอาการเป็นอย่างไรบ้าง  หมอก็บอกว่าคนแรกเสียชีวิต คนที่สองก็โคม่า  ซึ่งในครอบครัวตนก็ตกลงกันว่า จะพยายามรักษาให้ถึงที่สุดเท่าที่พ่อสู้ไหว


ขณะเดียวกันก็ถามหมอด้วยว่ามีโอกาสหายหรือไม่ ซึ่งหมอให้คำตอบว่า “มี แต่อาจจะเป็นเจ้าชายนิทรา หรือไม่ตาบอด เพราะม่านตาไม่ตอบสนอง”  ตอนนั้นทางครอบครัวคุยกันและเซ็นยินยอมการรักษาเพราะยังหวังอยู่ว่าจะรักษาหาย  จนการรักษาไม่ตอบสนองและเสียชีวิตในวันที่ 25 ส.ค.67  


โดยระหว่างการรักษาหมอบอกว่า เลือดเป็นกรดรุนแรงและไตวายเฉียบพลัน นอกจากนี้ยังมีอาการแทรกด้วย  สมองตาย ตาบอด  ส่วนสาเหตุการเสียชีวิตและแจ้งในใบมรณบัตร คือ “สันนิษฐานเลือดออก ในก้านสมองและในโพรงสมองน้อย”  คุณหมอแจ้งด้วยว่า ในร่างกายเจอสารเมทานอล และอธิบายว่าเป็นสารคล้ายๆ ไซนาไนด์ โดนเข้าไปตายได้เลย


น.ส.ปรียาภรณ์ บอกว่า ตอนที่รู้ว่าสาเหตุมาจากยาดอง ตกใจมาก เพราะคิดเพียงว่าทำให้มึนเมาเท่านั้น แต่พอมารู้ว่าใส่สารเมทานอลเข้าไป  ก็เลยไปค้นหาในอินเทอร์เน็ตดู ซึ่งตนมองว่าคนทำ ตั้งใจใส่สารนี้ลงไปเพราะอยากลดต้นทุน   ซึ่งตนก็ไม่รู้ว่า พ่อดื่มเข้าไปมากน้อยแค่ไหน  


ส่วนร้านยาดอง ทราบว่า เป็นร้านที่อยู่หลังบริษัท และพ่อก็จะไปดื่มหลังเลิกงานเป็นประจำ  โดยพ่ออาศัยอยู่คนเดียว เมื่อพ่อเสียชีวิต ตนไปดูที่ห้องพักของพ่อ ปรากฏว่ามีขวดพลาสติก 2 ขวดเล็ก   ที่ก้นขวดมียาดองหลงเหลืออยู่เล็กน้อย  ยาดองมีลักษณะสีน้ำตาลเข้ม  ตนและพี่ๆ จึงเปิดดม ได้กลิ่นเหมือนแอลกอฮอล์ล้างแผลชัดเจนมาก แสบจมูกมาก พอดมไปสักพักก็รู้สึกมึนหัวและปวดกระบอกตา   นอกจากนี้ยังเจอขวดยาดองขวดใหญ่ในห้องน้ำ ซึ่งเอาไปเป็นที่เขี่ยบุหรี่แล้ว   เมื่อตนถามเพื่อนๆของพ่อ ก็บอกชัดเจนว่าไปกินที่ร้านยาดอง ตรงสามวา 1


ส่วนค่ารักษาพยาบาลก็ได้เงินจากประกันสังคมมาจ่ายค่ารักษาหลักแสนบาท และตน 3 พี่น้อง เดินเรื่องจัดงานศพให้พ่อด้วยตนเอง เพราะไม่ได้มีญาติผู้ใหญ่ และบ้านเราไม่มีเงิน ถ้าไม่มีประกันสังคมก็ไม่รู้ว่าจะจ่ายค่ารักษาพยาบาลยังไง  เงินที่นำมาจัดงานศพ น้องชายและตนเองก็หยิบยืมมา   และทางวัดก็คอยช่วยลดค่าใช้จ่ายให้


น.ส.ปรียาภรณ์  ยังกล่าวว่า อยากให้เจ้าของร้านเข้ามาพูดคุย  อยากได้ยินแค่คำว่าขอโทษ  เพราะตั้งแต่เกิดเรื่อง เขาไม่ติดต่อมาเลย อยากให้มาคุยกันว่าจะมาเยียวยาอย่างไร  ถ้าอยากจะช่วยจริงๆ ให้ติดต่อมา เขาน่าจะรู้ว่าเขาทำอะไรลงไปกับชีวิตของคนๆหนึ่ง พร้อมยืนยันว่า จะเดำเนินคดีให้ถึงที่สุด โดยตอนนี้จะต้องรอผลชันสูตรละเอียดก่อน 45 วัน เพื่อดูสารในร่างกาย   เมื่อผลตรวจออกมาแล้วก็จะเอาผลมาแจ้งความดำเนินคดีได้


น.ส.ปรียาภรณ์ ยังกล่าวว่า ลูกๆ กับพ่อเพิ่งจะได้เจอกันในรอบ 10 ปี เมื่อวันที่ 28 ก.ค.67 ที่ผ่านมา พอกลับมาเจอกันในสภาพนี้ มันพูดไม่ออก รู้สึกผิดต่อพ่อที่ไม่ได้พาไปเที่ยวบางแสนตามที่คุยกันไว้


ช่วงท้าย น.ส.ปรียาภรณ์ ร่ำไห้ บอกว่า คิดถึงพ่อ ตอนไปกราบพ่อก็ได้บอกความในใจทุกอย่าง ว่า หนูรักพ่อมาก ถึงไม่ค่อยได้เจอพ่อ ก็คิดถึงตลอด ไม่คิดว่าจะมาเจอในสภาพนี้ ไม่คิดว่าพ่อจะไปเร็วขนาดนี้

ขณะเดียวกัน ย้อนกลับไปในช่วงเช้าวานนี้ (27 ส.ค.67) ที่สถาบันนิติเวชวิทยาโรงพยาบาลตำรวจ   น.ส.วนิดา อายุ 39 ปี  ซึ่งเป็นภรรยาของหนึ่งในผู้เสียชีวิต เดินทางมาติดต่อเอกสารเพื่อขอรับศพนายชาลี (สงวนนามสกุล) อายุ 47 ปี หลังเสียชีวิตที่โรงพยาบาลนพรัตน์ราชธานี จากการได้รับสารพิษเมทานอลจากการดื่มเหล้าเถื่อน เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม ที่ผ่านมา


น.ส.วนิดา เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเองกับสามี มีลูกด้วยกันสองคน  ปกติแล้วสามีจะดื่มเบียร์และสุราอยู่แล้ว แต่ก็ไม่เคยมีเหตุการณ์เลวร้าย โดยเมื่อวันที่ 21 ส.ค. สามีได้กินเหล้าเถื่อนแต่ยังไม่มีอาการ จนกระทั่งช่วงเช้าวันที่ 22 ส.ค.สามีมารับตนที่ทำงาน  พร้อมเล่าอาการให้ฟังว่ามีอาการเมามาก เวียนหัวหน้ามืด จนกระทั่งตอนเย็นตื่นมาอาการยังไม่ดีขึ้น  มีอาการอาเจียน เดินไม่ไหว หายใจเร็ว สายตาพร่ามัวมองไม่เห็น แต่ยังสื่อสารรู้เรื่อง   เมื่อไปถึงโรงพยาบาลหมอได้สอบถามว่ารับประทานอะไรมา  เนื่องจากพบว่ามีเมทานอลในร่างกายสูงทำให้เลือดเป็นกรด  ที่ผ่านมาสามีมีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน แต่ก็ไม่เคยมีอาการข้างเคียง จนกระทั่งล่าสุดมีอาการผิดปกติอย่างรุนแรงและถึงแก่ชีวิต


นางสาววนิดา กล่าวว่า ตนติดใจกับคนผลิตที่ใส่ส่วนผสมที่เป็นอันตรายกับคนกินเป็นจำนวนมาก ฝากถึงผู้ผสมเหล้าเถื่อนว่าเลวมาก อยากเจอหน้า และอยากจะถามว่าชีวิตคนทั้งคน ไม่น่ามาทดลองอะไรแบบนี้ หากเห็นแก่เงิน ตายไปก็เอาอะไรไม่ได้ ทำให้คนอื่นเดือดร้อน ส่วนที่สามีเสียชีวิตยังทำใจไม่ได้ รู้สึกเศร้าและไม่รู้จะพูดอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ตอนนี้ขอจัดงานสามีให้เรียบร้อยก่อน ส่วนผู้เสียชีวิตอีกราย สามีก็รู้จัก  เนื่องจากเป็นคนในพื้นที่ละแวกเดียวกัน แต่ไม่ได้นั่งกินร่วมวงเดียวกัน  ซึ่งไม่ทราบว่าผู้เสียชีวิตอีกรายไปดื่มเหล้าเถื่อนจากพื้นที่ไหน  เนื่องจากเสียชีวิตกันคนละโรงพยาบาล หลังจากนี้จะปรึกษากับทนายความ เพื่อรวบรวมผู้เสียหายในการฟ้องทางแพ่งกับผู้เกี่ยวข้องต่อไป // หลังจากนี้เมื่อจัดการเรื่องเอกสารเสร็จสิ้นแล้ว จะรับศพกลับไปบำเพ็ญกุศล ณ วัดแสนสุข เขตมีนบุรี  

----------------------

ตำรวจยึดยาดองส่งกรมสรรพสามิตตรวจพิสูจน์ - พร้อมออกหมายเรียก “เจ๊ปู” โดน 4 ข้อหาหนัก หลังผลตรวจสารเมทานอล 18 ซุ้มเกินมาตรฐาน


วานนี้ ( 27 ส.ค.67) พล.ต.ต.เกียรติกุล สนธิเณร ผบก.น.3 พร้อมด้วย พ.ต.อ.กฤษ ก้อมน้อย ผกก.สน.มีนบุรี  , พ.ต.ท.จำนงค์ ประสพสุขมั่งดี รอง ผกก.สส.สน.มีนบุรี และฝ่ายสืบสวน สน.มีนบุรี ร่วมกันแถลงความคืบหน้าคดี


พล.ต.ต.เกียรติกุล กล่าวว่า หลังจากได้สอบปากคำเจ๊ปูว่า ผลิตยาดองแล้วนำไปส่งที่ไหนบ้าง   ฝ่ายสืบสวนจึงได้ไปตรวจสอบ และจัดเก็บยาดองที่ยังหลงเหลืออยู่ในอีก 12 จุด จากทั้งหมด 18 จุด เพื่อไม่ให้เกิดการระบาด โดยได้ยาดองทั้งแบบที่เป็นแกลลอน  แบบที่ยังใส่โถไว้  และแบบที่แบ่งขายใส่ขวด ซึ่งผู้ขายไม่ได้นำออกขาย และเก็บไว้หลังเกิดเหตุ  โดยตำรวจจะส่งของกลางทั้งหมดไปให้กรมสรรพสามิตตรวจพิสูจน์ก่อนนำมาดำเนินคดีกับเจ้าของซุ้มยาดอง และวานนี้ได้เชิญผู้ขายยาดองมาสอบปากคำแล้ว


ทั้งนี้ จากการตรวจสอบยาดองทั้ง 18 ซุ้ม เบื้องต้นพบว่า มีปริมาณเมทานอลเกินกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งค่าเมทานอลดังกล่าว แตกต่างกับค่าเมทานอลในจุดที่ผลิตเหล้าขาวของ 2 พี่น้อง เอสและอาร์ท ดังนั้น ตำรวจจึงต้องหาความเชื่อมโยงเพิ่มเติมด้วย เพราะยังสงสัยว่าทำไมถึงมีความแตกต่างกัน และค่าที่ตรวจได้ไม่สอดคล้องกัน รวมถึงจะต้องสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง ทั้งซุ้มยาดองเจ๊ปู และ 2 พี่น้องที่จำหน่ายเหล้าขาว เพิ่มเติมอีกด้วย โดยจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่า เมทานอลที่เกินค่ามาอยู่ในขั้นตอนไหน


ส่วนการดำเนินคดีกับเจ๊ปู  หลังมีผลการตรวจออกมาในเบื้องต้นแล้วว่าพบเมทานอลในยาดอง ก็สามารถเรียกเจ๊ปู เข้ามารับทราบข้อกล่าวหา ฐานกระทำการโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย  กระทำการโดยประมาทเป็นเหตุทำให้ผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส ผลิตสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต และจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต  เพราะมีพยานหลักฐานเพียงพอที่เชื่อได้ว่ากระทำความผิดจริง โดยตำรวจจะเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาทันทีภายในวันนี้ ทั้งนี้ จากการสอบปากคำเจ๊ปู ยังคงยืนยันว่า ผสมตามสูตรของพ่อตามที่ได้แถลงข่าวไป


รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/YYEJF00AfzU



คุณอาจสนใจ

Related News