เกือบไม่มีเงินจ่ายวัด ชายถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรหลอก กลางงานศพพ่อ

วันที่ 27 ส.ค 2567 ที่ อ.บ้านค่าย จ.ระยอง มีแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ได้โทรมาบอกผู้เสียหายว่า โทรมาจากธนาคารออมสิน สำนักงานใหญ่กรุงเทพมหานคร แจ้งว่ามีคนนำบัตรประชาชน ไปเปิดบัญชีม้าให้ผู้เสียหายไปที่ สภ.ระยอง ภายใน 2 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นจะดำเนินการตามกฏหมาย

นายสมชัย อายุ 55 ปี เล่าว่า ปกติก็จะไม่รับสายแปลก วันนี้พ่อเสียพึ่งนำร่างของพ่อมาที่วัดเพื่อจัดงานศพ ตนก็เกรงว่าคนที่รู้จักกับพ่อรู้ว่าพ่อเสียจะโทรมาถามก็เลยรับ ปรากฏว่าเป็นแก๊งมิจฉาชีพ Call Center บอกโทรมาจากธนาคารแห่งหนึ่ง บอกมีคนแอบเอาชื่อตนไปเปิดบัญชีม้าที่จังหวัดระยอง ให้ตนไปที่ สภ.เมืองระยอง ภายใน 2 ชั่วโมง ไม่เช่นนั้นจะเป็นเรื่องใหญ่ หรือถ้าไม่ไปจะให้ตนซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่ของธนาคาร ดำเนินการให้แทนได้

ซึ่งตนก็เลยงงว่าทำได้ด้วยเหรอ แล้วเจ้าหน้าที่ธนาคารรู้ได้ยังไงว่ามีคน ใช้เอกสารตนไปเปิดบัญชีม้า ด้าน นายแบงค์ อายุ 30 ปี เล่าว่าตนเห็นนายสมชัยคุยโทรศัพท์กับใครอยู่นานจึงเดินเข้ามา ถามและช่วยฟังปรากฏว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์จึงช่วยคุยและสอบถามข้อมูลกลับไป ฝั่งแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ตอบแบบตะกุกตะกัก ทำให้มั่นใจว่าเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์แน่นอน และเพื่อนของตนยังจะให้พาไป สภ.ตามที่ แก๊งคอลเซ็นเตอร์บอก ตนจึงแนะนำให้โทรไปสอบถามกับ จนท.ธนาคาร ที่เราเปิดบัญชีและเพื่อนที่เป็นตำรวจก่อนดีกว่าเพื่อความมั่นใจ

จากนั้นนายสมชัย จึงโทรไปถามเพื่อนที่เป็นตำรวจ ได้คำตอบว่าเป็นมิจฉาชีพแก๊งคอลเซ็นเตอร์โทรมาหลอก ตำรวจบอกอย่าให้ใครดำเนินการข้อมูลส่วนบุคคลของเราเด็ดขาด ต่อมาจึงโทรไปที่ธนาคารที่ตนเปิดบัญชี ปรากฏว่าธนาคารเล่าว่าไม่มีนโยบาย โทรไปหาลูกค้าแบบนี้

ตนจึงมั่นใจว่าโดนแก๊งคอลเซ็นเตอร์หลอกเอาเข้าแล้ว แต่ตนก็เลยสงสัยว่า พวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์เอาข้อมูลเรามาจากไหนทำไมต้องให้ไปที่โรงพัก ภายใน 2 ชั่วโมง จึงอยากให้เจ้าหน้าที่จัดการกับพวกแก๊งคอลเซ็นเตอร์ให้หมดไปจากประเทศไทยเสียที หากตนหลวมตัวให้เขาดำเนินการแทน เงินในบัญชีก็คงหมดม่มีไว้จัดงานศพให้กับคุณพ่อ

อย่างไรก็ตามกรณีที่เกิดขึ้น จึงขอนำมาเป็นอุทาหรณ์เตือนภัย ให้ทุกคนห้ามให้ข้อมูลส่วนตัวของเราให้ใครดำเนินการเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นเราอาจจะตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ก็ได้