ดับ 1 โคม่า 1 ป่วย 21 คลัสเตอร์ซุ้มยาดองมรณะ บุกรวบ 2 พี่น้องผลิตเหล้าเถื่อน

รองอธิบดีกรมการแพทย์ เผยคลัสเตอร์ซุ้มยาดองเถื่อน ป่วย 21 คน เสียชีวิตแล้ว 1 คน โคม่า 1 คน ขณะที่กรมสรรพสามิตตรวจสอบต้นตอโรงงานผลิต พบลักลอบผสมเมทานอล สั่งปิด 18 ซุ้มยาดอง เก็บตัวอย่างส่งตรวจอยู่ระหว่างรอผล


เมื่อวันที่ 25 ส.ค.67 เวลา 10.00 น. นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ พร้อมตัวแทนเจ้าหน้าที่จากกรมสรรพสามิต และตำรวจนครบาล 3 ร่วมประชุมติดตามความคืบหน้ากรณีมีประชาชนเสียชีวิต และเข้ารับการรักษาด้วยอาการ Methanol intoxication เป็นพิษเฉียบพลัน จากการดื่มสุราเถื่อน หรือเมทานอล จากซุ้มยาดองย่านหทัยราษฎร์ เขตมีนบุรี  


นพ.เกรียงไกร นามไธสง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลนพรัตนราชธานี ซึ่งเป็นศูนย์ปฏิบัติการวางแนวทางรักษาผู้ป่วยจากการดื่มสุราเถื่อน ระบุว่า ล่าสุด มีผู้ป่วยได้รับสารพิษเมทานอล เข้ารับการรักษา จำนวน 21 ราย ในจำนวนนี้เสียชีวิตไปแล้ว 1 ราย ที่ รพ.สินแพทย์ เสรีรักษ์ และมีผู้ป่วยที่อาการหนัก น่าจะเสียชีวิตในไม่ช้านี้อีก 1 ราย นอกจากนี้ ในจำนวนผู้ป่วยที่ยังรักษาอยู่ 20 คน พบว่าเป็นผู้ป่วยสีแดง อาการรุนแรงประมาณ 15-16 คน ต้องอยู่ในห้องไอซียู โดยใส่เครื่องช่วยหายใจ 2 คน ต้องฟอกไต 17 คน


ด้านการสืบสวนสอบสวน โดยสำนักงานสรรพสามิตพื้นที่กรุงเทพมหานคร 5, กองบังคับการตำรวจนครบาล 3, สถานีตำรวจนครบาลมีนบุรี, สถานีตำรวจนครบาลนิมิตรใหม่ พบข้อมูลว่า ร้านส่งยาดองในพื้นที่ซอยหทัยราษฎร์ 21 ได้ส่งขายร้านค้าปลีก-ซุ้มยาดอง จำนวน 18 จุด โดยรับสุรามาจากพื้นที่ซอยกาญจนาภิเษก 25 ซึ่งอยู่ในระหว่างการสืบสวนและขยายผลต่อไป


พันตำรวจเอกอิสระ ณ พัทลุง รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 3 กล่าวว่า ในส่วนของคดี แบ่งเป็น 2 ส่วน เบื้องต้นได้เก็บพยานหลักฐาน ตัวอย่างของกลางจากแหล่งจำหน่าย 3 แหล่ง ที่ประชาชนมาซื้อไปที่ซอยสามวา / หทัยราษฎร์ / นิมิตรใหม่ และได้ไปตรวจสอบของกลางร่วมกับกรมสรรพสามิต โดยจะแยกของกลางเป็น 2 ส่วน ส่วนแรกให้กรมสรรพสามิตตรวจเพื่อทราบผลอย่างเร็ว ส่วนอีกส่วนจะส่งตรวจกับกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ เพื่อใช้ประกอบสำนวนคดี ในส่วนของพื้นที่มีนบุรี ที่มีผู้เสียชีวิต ตอนนี้ได้ส่งพิสูจน์ อยู่ระหว่างรอผลเพื่อนำมาเชื่อมโยงการกระทำความผิด


นายแพทย์ไพโรจน์ สุรัตนวนิช รองอธิบดีกรมการแพทย์ ระบุว่า จากการสอบสวนผู้ป่วยที่ยังสามารถพูดได้ บอกว่า จะมีซุ้มรับแอลกอฮอล์จากร้านหนึ่งในมีนบุรี แล้วไปรับสารตั้งต้นผสมมา ซึ่งทางสรรพสามิตได้สอบสวนไปถึงโรงงานผลิตต้นทางแล้ว ในส่วนของการดูแลประชาชนได้เข้าไปตักเตือนให้ความรู้แล้ว และตอนนี้ได้สร้างระบบการคัดกรองประเมินตนเอง หากพบมีความเสี่ยง ก็สามารถเข้าไปตรวจร่างกายได้ที่โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี โรงพยาบาลเวชการุณย์รัศมิ์ และโรงพยาบาลรัตนประชารักษ์ รายไหนพบว่ามีความรุนแรง จะรับรักษาและเจาะเลือดตรวจ เพื่อยืนยันว่ารับสารพิษไปปริมาณเท่าไหร่ ส่วนผู้ป่วยที่รับมาแล้วตอนนี้ พบว่าส่วนใหญ่ต้องใส่ท่อช่วยหายใจ และฟอกไต หลายคนมีภาวะหยุดหายใจ ต้อง CPR เพราะสารพิษตัวนี้ทำให้เลือดเป็นกรด ทำลายระบบต่าง ๆ โดยเฉพาะสายตา และไต ส่วนปริมาณที่รับไปยังไม่ชัดเจน ต้องรอผลตรวจจากกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์


นายพยุง บุญสมสุวรรณ ผู้อำนวยการสำนักตรวจสอบป้องกันและปราบปราม กรมสรรพสามิต กล่าวเพิ่มเติมว่า เมื่อวันที่ 24 ส.ค. ได้เข้าไปตรวจค้นจับกุมแหล่งผลิต อยู่บริเวณถนนกาญจนาภิเษก 25 ได้เก็บพยานหลักฐานน้ำสุรา เบื้องต้นทางห้องแลปของกรม ได้ตรวจพบมีเมทานอลปริมาณสูง และมี IPA ปนเปื้อนอยู่ โดยลักษณะโรงงานที่เข้าไปตรวจสอบ เป็นการลักลอบผลิต ซื้อแอลกอฮอล์ ทั้งเมทานอล เอทานอล นำมาผสมน้ำเปล่า วัดดีกรีแล้วส่งออกจำหน่าย


จากการสอบปากคำผู้ผลิต บอกว่าไม่ทราบว่าเป็นเมทานอล เพราะเมทานอลเป็นเคมีภัณฑ์ ดูลักษณะทางกายภาพไม่ได้ ต้องตรวจทางแลปเท่านั้น ส่วนสูตรผสม จะเอาเมทานอลมาผสม เจือจางน้ำ เอาปรอทมาวัดดีกรีให้ได้ 35-40 ดีกรี ซึ่งจุดที่กระจายส่งออกไปอยู่ย่านนี้ 18 จุด ประกอบด้วย ในเขตมีนบุรี ได้แก่ ซอยสามวา 1 / ซอยเสรีไทย 95 / ตลาดบางชัน / หน้าเคหะรามคำแหง / ซุ้มตรงข้าม รร.สุดใจวิทยา


ในเขตหนองจอก ได้แก่ ซอยสุวินทวงศ์ 64 ในเขตลาดกระบัง ได้แก่ ตลาดบึงใหญ่-บึงบัว / ถนนคุ้มเกล้า ในเขตประเวศ ได้แก่ ซอยอ่อนนุช 70 เขตคันนายาว ได้แก่ ซอยเสรีไทย 38 เขตคลองสามวา ได้แก่ ถนนเจริญพัฒนา (ตลาดกีบหมู) / ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 7 / ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 7 แยก 1 / ซอยสุเหร่าคลองหนึ่ง 9 / ซอยประชาร่วมใจ 19 / ซอยประชาร่วมใจ 43/1 / ซอยนิมิตใหม่ 9 ซอยสามวา 11/1 และซอยหทัยราษฎร์ 33 โดยเจ้าหน้าที่จะขยายผลต่อไป ทั้งนี้ขอเตือนว่าการผลิตและจำหน่ายสุราโดยไม่ได้รับอนุญาต มีโทษทั้งจำและปรับ


นายสมหวัง ชัยประกายวรรณ์ ผู้อำนวยการเขตคลองสามวา บอกว่า ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้สั่งการทั้ง 50 เขต เฝ้าระวังและประชาสัมพันธ์ โดยให้ผู้นำชุมชนไปสื่อสารกับประชาชนในชุมขนของตนเอง รวมถึงมีอาสาสมัครสาธารณสุขจากศูนย์สาธารณสุข เข้าไปช่วยคัดกรองผู้ที่มีความเสี่ยง และขอให้ประชาชนหลีกเลี่ยงร้านจำหน่ายแอลกอฮอล์ที่ไม่มีใบอนุญาต


ทั้งนี้ มีความกังวลใจเพราะลูกค้าส่วนใหญ่ที่ดื่มแอลกอฮอล์ในลักษณะนี้จะเป็นแรงงาน หรือคนในชุมชน ซึ่งส่วนใหญ่มาจากต่างจังหวัด และผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาส่วนใหญ่ก็ตัวคนเดียว จึงจะต้องประสานญาติอีกครั้ง และทางสำนักงานเขตก็จะเข้าไปให้ความช่วยเหลือในการดูแลด้วย และหลังจากนี้ก็จะไปดูสิทธิในการรักษาเยียวยา

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/CLnSWDuuOu4