เมียแทบขาดใจ ห้ามผัวแล้วไม่ฟัง ขี่ จยย.ฝ่ากระแสน้ำ ก่อนถูกพัดจมหายกว่า 2 วัน สุดท้ายพบเป็นศพ

บึงกาฬ - วานนี้ (25 ส.ค.67)  ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ปริมาณน้ำในแม่น้ำโขง ที่ไหลผ่านจังหวัดบึงกาฬ วัดระดับน้ำในช่วงเช้า พบว่ามีระดับเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ประกอบกับมีมวลน้ำเหนือจากจังหวัดเลย จังหวัดหนองคาย และน้ำจากลำน้ำสาขาต่างๆ ในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน  ไหลลงมาสมทบ  ทำให้เวลา 8.00 น. ระดับน้ำโขงทะลุ 12.05 เมตร  ต่ำกว่าตลิ่งเพียง  2.95 เมตร  เหลืออีกเพียง 95 เซนติเมตรก็จะถึงจุดวิกฤตแล้ว (จุดวิกฤต 13 เมตร) ในขณะที่อ่างเก็บน้ำจำนวน 54 แห่ง ปริมาณเก็บกัก 49.611 ล้าน ลบ.ม. ปัจจุบันมีน้ำ 50.217 ล้าน.ลบ.ม.  


ต่อมา เวลา 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำในแม่น้ำโขงยังเพิ่มระดับขึ้นต่อเนื่อง อยู่ที่ 12.15 เมตร สูงสุดในรอบ 5 ปี ใกล้ถึงจุดวิกฤตแล้ว  ส่งผลกระทบเป็นวงกว้าง โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองบึงกาฬ ล่าสุด บริเวณจุดกลับรถใต้สะพานทางหลวงสาย 212 บึงกาฬ-ปากคาด ที่บ้านอาฮง ต.ไคสี อำเภอเมืองบึงกาฬ ถูกน้ำโขงไหลกลับเข้ามาตามลำห้วยอาฮง  ท่วมสูงกว่า 1 เมตร รถทุกชนิดไม่สามารถผ่านได้ ซึ่งแขวงทางหลวงบึงกาฬ  นำป้ายเข้าไปติดประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนชาวบ้าน  ให้หลีกเลี่ยงเส้นทางดังกล่าว


นอกจากนี้มวลน้ำจำนวนมากกำลังไหลย้อนกลับเข้าลำห้วยอาฮง คาดว่าจะเอ่อเข้าท่วมพื้นที่การเกษตรในตำบลไคสี ตำบลหอคำ และตำบลโนสว่าง อ.เมืองบึงกาฬ ในวันนี้ (26 ส.ค.67)


เชียงราย - วานนี้ (25 ส.ค.67)  เวลาประมาณ 15.00 น. ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำในแม่น้ำโขง ที่ไหลผ่าน อ.เชียงของ จ.เชียงราย  ยังคงเพิ่มปริมาณสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง วัดปริมาณน้ำในแม่น้ำโขงได้ 10.30 เซ็นติเมตร เพิ่มขึ้นจากวันที่ 24 ส.ค. 30 เซ็นติเมตร   ซึ่งถือว่าเกินความสูงของตลิ่งซึ่งอยู่ที่ 10 เมตร  เรือขนส่งสิ้นค้าข้ามประเทศผ่านแม่น้ำโขง ต้องเพิ่มความแข็งแรงในการผูกมัดเรือริมตลิ่ง บริเวณจุดบ้านผาถ่าน ต.เวียง อ.เชียงของ  ขณะเดียวกัน น้ำในแม่น้ำโขงก็ไหลล้นตลิ่งเข้าท่วมสวนสาธารณะลานปลาบึก 7 สี  


แต่ถึงแม้ว่าน้ำจะท่วมสูงในบางจุด และแม่น้ำโขงสูง แต่การขนส่งสินค้าข้ามแม่น้ำโขง ยังคงดำเนินไปตามปกติ เพียงแต่การเดินเรือต้องใช้ความระมัดระวังเพิ่มขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สาเหตุที่แม่น้ำโขงที่ไหลผ่าน อ.เชียงของ มีปริมาณมากขึ้น เนื่องจากทางตอนบนของแม่น้ำโขงมีปริมาณน้ำมาก ทั้งมีการระบายน้ำจากแม่น้ำกก แม่น้ำอิง ลงแม่น้ำโขง จึงให้น้ำสะสมในแม่น้ำโขงมากตามไปด้วย โดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องได้แจ้งเตือนไปยังพื้นที่รับน้ำจากต่อจาก อ.เชียงของ นั้นคือ อ.เวียงแก่น ให้เฝ้าระวังสถานการณ์แล้ว


พะเยา - ความคืบหน้ากรณีตำรวจ สภ.ภูซาง จ.พะเยา ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่บ้านสบบง ม.3 ต.สบบง อ.ภูซาง จ.พะเยา  ว่าเมื่อวันที่ 22 ส.ค.ที่ผ่านมา นายอรรครพงศ์ ต้นวงศ์ อายุ 43 ปี ชาวบ้านทุ่งควบ พยายามขี่จักรยานยนต์จะฝ่ากระแสน้ำหลากที่กำลังเชี่ยว  บริเวณสวนปลูกอ้อย  แม้ชาวบ้านคนอื่นๆ จะห้ามปราม แต่ก็ไม่ฟัง ยังฝืนขับรถจักรยานยนต์ไปต่อและถูกน้ำป่าพัดจมหายไป  ซึ่งต่อมาตำรวจประสานขอกำลังจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิลือชาพะเยา ชุดประดาน้ำ ไปค้นหาผู้สูญหาย แต่ค้นหานานถึง 2 วันก็ยังไม่เจอ


กระทั่งช่วงเช้าวันที่ 24 ส.ค. เวลาประมาณ 9.00 น. เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถกู้รถจักรยานยนต์ของผู้สูญหายได้  ซึ่งไปพบอยู่ห่างจากถนนเพียง 3 เมตร  ก่อนที่ช่วงเช้าวานนี้ (25 ส.ค.67) จะพบศพนายอรรครพงศ์ ลอยขึ้นมาเหนือน้ำ เจ้าหน้าที่จึงลำเลียงร่างขึ้นมาบนฝั่ง ท่ามกลางความโศกเศร้าของภรรยาและลูก


นายสมศักดิ์ นวลแก้ว เจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิลือชาจุดภูซาง เปิดเผยว่า ก่อนหน้านี้ ตนได้รับแจ้งจากชาวบ้าน ว่ามีคนถูกน้ำป่าพัดจมหายไปจากถนน  โดยช่วงเวลานั้นเป็นช่วงที่น้ำป่ากำลังหลากและไหลแรง   ชาวบ้านที่มาดูสถานการณ์น้ำ ให้ข้อมูลว่า ผู้ตายขับรถจักรยานยนต์กำลังจะข้ามไปอีกฝั่ง   ชาวบ้านหลายคนได้ห้ามไว้  แต่ผู้ตายไม่ยอมฟังคำเตือนและขับไปเรื่อย ๆ จนคาดว่าน่าจะเสียหลักล้ม  แล้วถูกกระแสน้ำพัดจมหายไปต่อหน้าต่อตาชาวบ้านที่เห็นเหตุการณ์  หลังจากนั้นกู้ภัยส่งทีมไปช่วยเหลือในรอบแรก แต่ระดับน้ำยังสูงและไหลเชี่ยว จึงได้ประสานไปยังทีมกู้ภัยชุดประดาน้ำให้เข้ามาช่วยให้ค้นหานานกว่า 2 วัน จนเช้าวันที่ 24 ส.ค. จึงไปพบรถจักรยานยนต์ของผู้ตาย  ห่างจากถนนเพียง 3 เมตร  จึงค้นหาต่อบริเวณโดยรอบ แต่ก็ยังไม่เจอศพ จึงยุติการค้นหาชั่วคราว


จนเช้าวานนี้ (25 ส.ค.67) ตนขับรถจักรยานยนต์พ่วงข้างขนน้ำดื่มไปให้เจ้าหน้าที่ที่จุดค้นหา ชาวบ้านมาบอกว่า เห็นบางอย่างคล้ายท่อนซุงลอยอยู่ในป่าอ้อย  คล้ายว่าเป็นศพ เมื่อตนไปตรวจสอบ ก็พบว่าเป็นศพจริง จึงแจ้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเข้าพื้นที่ และกู้ร่างผู้ตายขึ้นมาได้สำเร็จ จากสภาพศพ คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า  2 วัน และญาติไม่ติดใจสาเหตุการเสียชีวิต


นายสมศักดิ์ กล่าวว่า ในวันแรกของการค้นหา  ภรรยาของผู้ตายมาเล่าให้ว่า  วันเกิดเหตุ ภรรยาห้ามไม่ให้ผู้ตายออกจากบ้านเพราะมีน้ำท่วมและไหลเชี่ยว แต่ผู้ตายไม่ยอมฟัง จะออกไปหาไม้มาทำโต๊ะ อีกทั้งยังพูดเหมือนเป็นลางว่า “ออกจากบ้านครั้งนี้ไม่รู้ว่าจะไปโผล่ที่ไหน” ก่อนจะออกจากบ้านไป และไปประสบเหตุจมน้ำเสียชีวิต


ขณะที่ชลประทาน จ.พะเยา เปิดประตูระบายน้ำกว๊านพะเยา เพื่อระบายน้ำท่วมในเขตพื้นที่เทศบาลเมืองพะเยา  แต่กลับทำให้พื้นที่ปลายทางน้ำ อย่างอำเภอภูกามยาว  มีปริมาณน้ำสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว  และในพื้นที่ยังมีฝนตกกระหน่ำไม่หยุด  ทำให้ฟาร์มหมู ฟาร์มเป็ดไก่ เริ่มมีน้ำท่วมสูง  เจ้หน้าที่ต้องเร่งช่วยชาวบ้าน ขนย้ายหมู เป็ดไก่  ออกจากพื้นที่น้ำท่วมโดยด่วน


โดยนายราชัน ไชยเมือง เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิบัติกลาง นำกำลังเจ้าหน้าที่ และกู้ภัยพะเยา นำเรือไปขนย้ายหมูของชาวบ้านในอำเภอภูกามยาว  ออกจากพื้นที่น้ำท่วม นำมาขึ้นรถ เพื่ออพยพหมูไปยังที่ปลอดภัย  การขนย้ายเป็นไปอย่างลำบาก ทุลักทุเล เพราะระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตรแต่ต้องใช้เวลานานหลายชั่วโมง กว่าจะนำหมูออกมาได้  บางตัวจมน้ำตายไปก็มี  เบื้องต้นสามารถขนย้ายหมูออกมาได้ 400 ตัว  ส่วนเป็ดไก่ ขนย้ายขึ้นไปบนเขา เพื่อหนีน้ำ   ส่วนความเสียหาย หมูตายไปกี่ตัวนั้น ยังไม่สามารถประเมินได้ เพราะยังมีอีกหลายฟาร์มที่รอคอยความช่วยเหลือ และน้ำก็มาเร็วมาก  


พิษณุโลก - สถานการณ์น้ำในแม่น้ำยม ที่อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก วานนี้ (25 ส.ค.67)  ยังอยู่ในเกณฑ์เฝ้าระวัง ประชาชนในพื้นที่ยังคงติดตามสถานการณ์ระดับน้ำในแม่น้ำยมอย่างใกล้ชิด เพื่อให้สามารถป้องกันความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นและล้นตลิ่งได้ทันท่วงที


โดยที่ประตูระบายน้ำท่านางงาม อำเภอบางระกำ ได้ยกบานประตูลอย เพื่อผลักดันมวลน้ำไปตามลำน้ำได้อย่างสะดวกและลดผลกระทบพื้นที่ด้านบน


เช่นเดียวกับคลองบางแก้ว หรือคลองเมม คลองสาขาแม่น้ำยมที่ถูกใช้เป็นเครื่องมือบริหารจัดการน้ำ ตอนนี้ระดับน้ำยังอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำท่วมเมื่อปีพ.ศ.2554 ประมาณ 4 เมตร  แต่เพื่อช่วยเหลือพื้นที่น้ำท่วมในเขตอำเภอบางระกำ กรมชลประทาน จึงนำเอาเครื่องสูบน้ำขนานใหญ่ จำนวน 2 เครื่อง มาช่วยเร่งการระบายเพิ่มเติมจากประตูระบายน้ำที่มีอยู่ 5 บาน เพื่อลดทอนระดับน้ำในคลองบางแก้ว ลดผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับพื้นที่ลุ่มต่ำริมคลอง ที่อาจจะได้รับผลกระทบจากน้ำเอ่อล้นตลิ่งในช่วงนี้


ด้านนายชำนาญ ชูเที่ยง ผู้อำนวยการโครงการชลประทานจังหวัดพิษณุโลก เปิดเผยว่า ขณะนี้แม่น้ำยมที่ไหลผ่านจังหวัดสุโขไทย ล้นตลิ่งและคันคลองขาด ทำให้มีน้ำล้นทะลักออกมานอกลำน้ำ ซึ่งจะทำให้ปริมาณน้ำที่จะไหลผ่านพื้นที่อำเภอบางระกำ ลดลง และไหลมาช้าลงกว่าคาดหมาย โดยคาดว่าจะมาถึงอำเภอบางระกำในช่วงวันที่ 28 หรือ 29 สิงหาคมนี้ ซึ่งสั่งทุกหน่วยเฝ้าระวังและเตรียมพร้อมแล้ว

รับชมทางยูทูบที่ : https://youtu.be/SpZvubX3NEs