กัปตันเครื่องบินวิเคราะห์ เหตุเครื่องบินตก คาดสภาพอากาศไม่ดี-เครื่องเสียการควบคุม

วันที่ 23 ส.ค. 2567 กัปตันบริษัทเครื่องบินเอกชนแห่งหนึ่ง เปิดเผยกับทีมข่าวถึงกรณีเหตุเครื่ององบินเล็กแบบ Cessna Caravan C208 ทะเบียน HSSKR ขึ้นบินจากสนามบินสุวรรณภูมิปลายทางเกาะไม้ซี้ จังหวัดตราดประสบเหตุตกอยู่ในพื้นที่ หมู่ที่ 6 บ้านเขาดิน อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา

โดยเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างเร่งค้นหานักบินและลูกเรือที่มากับเครื่องรวม 9 ราย ว่าจากการประเมินคาดว่าสาเหตุการตก อาจเกิดจากสภาพอากาศไม่ดีอาจทำให้เครื่องเสียการควบคุมและตกโหม่งโลกได้ หากสภาพอากาศทำให้นักบินไม่รู้ท่าทางการบิน ทำให้เครื่องบินเกิดการหมุนตัวหรือว่าไม่รู้ทิศทาง ทำให้ความเร็วเครื่องบินลดลงไม่สามารถควบคุมการบินได้

สำหรับเครื่องบินลำดังกล่าวทราบว่าไม่ถึงกับเก่ามาก ซึ่งเครื่องแบบเดียวกันนี้ในประเทศไทยพบว่ามีการใช้ในกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กรมฝนหลวง(ทำฝนหลวง) แม้เป็นเครื่องขนาดเล็กจำนวน เก้าถึงสิบที่นั่งก็จะมีกล่องดำหรือมีตัวบันทึกข้อมูลการบินตามกฎหมายของแต่ระหว่างประเทศ

ทั้งนี้ในการตรวจสอบของพิสูจน์หลักฐานเพื่อหาสาเหตุของเครื่องบินตก ในส่วนของตัวกล่องดำตามขั้นตอนจะถูกส่งไปตรวจสอบกับทางบริษัทเจ้าของผู้ผลิต ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เพราะประเทศไทยยังไม่มีเครื่องไม้เครื่องมือในการถอนโค้ด สำหรับตรวจทางเทคนิค ส่วนกรณีที่ในเครื่องไม่มีกล่องดำก็จะต้องตรวจสอบจากเศษซากของเครื่องบิน เครื่องวัดประกอบการบินหรือข้อมูลของสถานีเรดาร์ของวิทยุการบินหรือกองทัพอากาศเพราะมีเครื่องมือในการตรวจจับว่าเครื่องบินเร็วหรือมีความสูงเท่าไหร่ ส่วนสาเหตุที่เครื่องบินอาจไม่มีกล่องดำนั้น

ส่วนหนึ่งขึ้นอยู่กฎหมายระหว่างประเทศว่าเครื่องรับผู้โดยขนาดไหนถึงต้องมีข้อมูลบันทึกการบิน บางประเทศอาจบังคับให้มีหรือไม่มี ขึ้นอยู่กับขนาดของเครื่องบิน ซึ่งกล่องดำจะไม่ถูกติดมากับเครื่องทุกลำ แต่จะต้องมีการติดเพิ่มเข้าไป เนื่องจากราคาจะแพงขึ้น

ถามว่าตามกฎหมายไทยเครื่องบินขนาด 9-10 ที่นั่ง จะต้องมีกล่องดำติดตั้งหรือไม่ กัปตันระบุว่าหากเป็นการให้บริการเชิงพาณิชย์รับผู้โดยสารเห็นว่าควรจะมี แต่รายละเอียดก็ต้องสอบถามกับสำนักงานการบินพลเรือนเพราะเป็นข้อกฎหมายส่วนตัวไม่ทราบแน่ชัด แต่เครื่องบินขนาดใหญ่ต้องมีอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ส่วนตัวไม่แน่ใจว่าเครื่องบินลำดับดังกล่าวมีกล่องดำหรือไม่ แต่ว่าตามปกติแล้วเครื่องบินระดับปานกลาง น่าจะมีเพื่อบันทึกข้อมูลการบินได้

ส่วนเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานของไทยก็จะต้องตรวจสอบในประเด็นที่มีผู้เสียชีวิตในประเทศไทยตามกฎหมายไทย เช่น การตรวจพิสูจน์อัตลักษณ์ของผู้เสียชีวิตว่าเป็นใคร กับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าเกิดวันไหนอย่างไร ส่วนการนำชิ้นส่วนของเครื่องบินมาตรวจสอบหรือไม่นั้น ระบุว่าในประเทศไทยมีคณะกรรมการสอบสวนอากาศยานอุบัติเหตุในประเทศไทย ให้เป็นหน้าที่ของสำนักงานการบินพลเรือนในการดำเนินการและส่งสำนวนให้ตำรวจเพื่อใช้ประกอบในคดีต่อไป

กัปตันบริษัทฯ ยังได้ฝากถึงบริษัทผู้ให้บริการการบินว่าต้องมีการเตรียมความพร้อมทุกครั้งก่อนให้บริการ เช่น เรื่องการตรวจสภาพเครื่องบินกับสภาพอากาศว่าเหมาะสมต่อการบินหรือไม่ในวันนั้นหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้อุบัติเหตุหรือการสูญเสียเกิดขึ้น

ทั้งนี้ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบบริษัท ไทย ฟลายอิ้ง เซอร์วิส จำกัด คาดว่าเป็นเจ้าของเครื่องบินลำที่เกิดอุบัติเหตุ ตั้งอยู่บริเวณถนนพระรามห้า ถนนนครไชยศรี เขตดุสิต อาคารเอวีออน ได้รับคำบอกเล่าจากเจ้าหน้าที่อาคารว่า บริษัทดังกล่าวก่อนหน้านี้เมื่อสองปีได้มาเช่าอาคารดำเนินกิจการเกี่ยวกับให้บริการเช่าเหมาลำเครื่องบิน โดยไม่ทราบรายละเอียดเรื่องธุรกิจ จากนั้นได้ย้ายออกจากอาคารไปที่ทำการใหม่ โดยทราบว่าอยู่ภายในสนามบินดอนเมืองและสนามบินสุวรรณภูมิ ลักษณะเป็นการให้บริการแบบเช่าเหมาลำ ซึ่งขณะนี้ก็ติดตามข่าวเนื่องจากมีการเผยแพร่หลายช่องทางก็รู้สึกตกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

ขณะเดียวกัน ทีมข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยังเจ้าหน้าที่บริษัทฯได้รับคำตอบว่า ขณะนี้ผู้บริหารของบริษัทอยู่ระหว่างการประชุม แต่เมื่อถามว่าเครื่องบินลำที่เกิดอุบัติเหตุเป็นของบริษัทหรือไม่เจ้าหน้าที่ปฎิเสธขอให้รายละเอียด อ้างว่าอยู่ระหว่างการประชุมไม่สามารถตอบคำถามสื่อมวลชนได้