สังคม

เสียชีวิตแล้ว 2 ราย ภูเก็ตดินสไลด์ บาดเจ็บ 4 ราย-ชาวบ้านบอกยังสูญหายอีก 2 ราย

โดย kanyapak_w

23 ส.ค. 2567

162 views

(23 ส.ค.) ความคืบหน้าจากสถานการณ์ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดภูเก็ตตั้งแต่คืนวันที่ 22 ส.ค. ถึงเช้าวันที่ 23 ส.ค.67 วัดปริมาณน้ำฝนได้ 200 มิลลิเมตร ส่งผลให้เกิดเหตุน้ำท่วมขัง น้ำรอระบาย น้ำป่าไหลหลาก และดินสไลด์หลายในพื้นที่ตำบลฉลอง และตำบลกะรน จังหวัดภูเก็ต หลายจุด เบื้องต้นประชาชนได้รับความเสียหาย 250 ครัวเรือน เจ็บ 4 คน เสียชีวิต 2 ราย



ขณะเดียวกัน ได้เกิดเหตุดินโคลนถล่มทับบ้านเรือนราษฎร จำนวน 2 หลัง ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตหนึ่งรายและยังคงค้นหาอีกสองราย บริเวณ ซอยปฏัก 2 หมู่ที่ 2 ตำบลกะรน อำเภอเมืองภูเก็ต เบื้องต้นทราบว่าเป็น ชาวต่างด้าว (เมียนมา) ที่มาเช่าอาศัยอยู่เพื่อทำมาหากิน ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เคลื่อนย้ายร่างหญิง 1 ราย อายุประมาณ 35-40 ปี จากอุบัติเหตุดินสไลด์พื้นที่กะตะ ซอยปฎัก 8 เพื่อส่งไปให้ไปชันสูตร รพ.วชิระภูเก็ต และยังพบพบร่างชาย 1 รายในบ้านพัก ขณะเดียว เจ้าหน้าที่ทำการค้นหาต่ออย่างเนื่อง ข้อมูลเบื้องต้น จากชาวบ้านว่ามีเด็ก 1 ราย และหญิง 1 ราย ที่ยังสูญหาย



ขณะที่ ความช่วยเหลือ งานป้องกันและบรรเทาสาธารณะภัยเทศบาลตำบลกะรน เข้าไปจุดเกิดเหตุ เฝ้าติดตามสถานการณ์ และให้การช่วยเหลือโดยสั่งการให้กำนันและผู้ใหญ่บ้านในเขตพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบเข้าช่วยเหลือดูแลราษฎรที่ได้รับความเดือดร้อนและรายงานให้อำเภอเมืองภูเก็ตทราบโดยด่วน และได้สั่งการให้ชุดเคลื่อนที่เร็วอำเภอเมือง นำโดยปลัดอาวุโส ปลัดงานป้องกัน เข้าพื้นที่เพื่อตั้งศูนย์บัญชาการร่วมกับเทศบาลตำบลกะรน ณ วัดกะตะ ส่วนผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต



ได้สั่งการให้สำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ตเข้าจุดเกิดเหตุเพื่อดูแลและให้การช่วยเหลือ พร้อมทั้ง ให้การไฟฟ้าจังหวัดภูเก็ตทำการตัดกระแสไฟฟ้าในพื้นที่ได้รับผลกระทบ ขณะที่นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดภูเก็ตเองก็ได้นำกำลังพร้อมเครื่องจักรสาธารณภัย เข้าให้การช่วยเหลือดูแลราษฎรได้รับความเดือดร้อน, มูลนิธิกุศลธรรมภูเก็ต ได้ส่งเครื่องมือและอุปกรณ์กู้ฟภัยและกำลังพล เข้าสนับสนุนจุดเกิดเหตุเพื่อให้การช่วยเหลือราษฎรที่รับความเดือดร้อน



สำหรับ สถานการณ์ขณะนี้ในพื้นที่ ยังคงมีฝนตกในลักษณะเบาบาง อย่างต่อเนื่อง ยังคงมีปริมาณน้ำท่วมขัง บริเวณบ้านเรือนราษฎรและทางถนนสัญจร ได้ลดลงเกือบจะเข้าสู่ภาวะปกติแล้ว ยานพาหนะสามารถสัญจรได้แต่การจราจรยังไม่คล่องตัวมากนัก




คุณอาจสนใจ