น้ำทะลักเมืองน่าน หนักสุดในรอบ 100 ปี - น้ำท่วมวัดภูมินทร์ หวั่นกระทบภาพ 'กระซิบรักบันลือโลก'

ต้านไม่อยู่! น้ำทะลักท่วมเขตเทศบาลเมืองน่าน พื้นที่เศษฐกิจ ระดับน้ำในแม่น้ำน่านไหลผ่านเขตเมืองสูง 8 .67 เมตร สูงกว่าสถิติน้ำท่วมใหญ่เมื่อปี 2549 เข้าขั้นวิกฤต และท่วมวัดภูมินทร์-รพ.น่าน-ค่ายทหาร ขณะที่ มวลน้ำล้นพนังกั้นน้ำเอ่อท่วมบ้านท่าล้อ-บ้านแสงดาว อ.ภูเพียง

วันนี้ (23 ส.ค. 67) ช่วงเวลาเที่ยงคืนที่ผ่านมา เริ่มมีน้ำล้นพนังกั้นน้ำเพิ่มมากขึ้นโดยจากน้ำที่เข้าท่วมเดิมอยู่แล้วเฉลี่ยสูงขึ้นกว่าช่วงเย็นประมาณ 10 เซนติเมตร โดยสถานีวัดน้ำ N1 เวลา 00.00 น. วัดระดับน้ำได้ที่ 8.69 เมตร มีมวลน้ำอยู่ที่ 1456 ลูกบาตรเมตรต่อวินาที ซึ่งสูงกว่าตลิ่งของแม่น้ำน่านรวมพนังกั้นน้ำที่มีความสูงอยู่ที่ 8.50 เมตร ที่ 19 เซนติเมตร ทำให้มวลน้ำล้นพนังกั้นน้ำเข้าท่วมพื้นที่เศรษฐกิจเมืองน่าน โดยได้คาดการว่ามวลน้ำลูกใหญ่สุด ที่จะมาจากทางตอนเหนือ จะมาถึงเขตอำเภอเมืองน่าน ช่วงเวลา 23.00 น. - 00.00 น. คืนนี้ และคาดว่า ระดับน้ำแม่น้ำน่านจะขึ้นสูงสุดในเวลานี้

ทางด้าน นายสุรพล เทรียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน ได้คาดการว่า น้ำจะมากสุดในคืนนี้ จนถึงทรงตัว และจะเริ่มลดระดับลงในช่วงเช้า ๆ หรือสาย ๆ หากไม่มีฝนตกซ้ำ โดยมวลน้ำที่ไหลผ่านอำเภอเมืองน่าน จะไหลไปยังอำเภอเวียงสา ต่อไป

------------

วานนี้ (22 ส.ค. 67) สถานการณ์น้ำท่วมจังหวัดน่าน โดยมวลน้ำแม่น้ำน่าน ที่ไหลผ่านเขต อำเภอเมือง มีระดับสูง 8 เมตร 67 เซนติเมตร อยู่ในขั้นวิกฤต 

เมื่อเวลา 20.00 น. ทีมข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบน้ำท่วมในเขตเทศบาลเมืองน่าน พบว่า น้ำได้เอ่อล้นท่วมสะพาน หน้าค่ายทหารสุริยพงษ์ ข้างโรงพยาบาลน่าน ซึ่งสะพานดังกล่าวเชื่อมระหว่างเขตอำเภอเมืองไปยังอำเภอภูเพียง แต่รถเล็กยังสัญจรได้

นอกจากนี้ น้ำได้เอ่อล้นตลิ่งเข้าท่วมถนนข้างโรงพยาบาลน่าน เส้นหน้าค่ายทหารสุริยพงษ์ ระดับน้ำเลยฟุตบาท และยังได้ไหลเข้าท่วมพื้นที่บางส่วนของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดน่าน แลพโรงพยาบาลน่าน โดยมีการนำกระสอบทรายมาวางกั้น และมีการนำหินกรวดมาเทกั้นไว้ บริเวณประตูด้านข้างของโรงพยาบาล นอกจากนี้ น้ำยังไหลเข้าท่วมภายในค่ายทหารสุริยพงษ์  ซึ่งอยู่ติดกับโรงพยาบาลน่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น้ำจากแม่น้ำน่านดันขึ้นจากท่อระบายน้ำตั้งแต่กลางวัน จนน้ำหลากเข้าท่วมบ้านเรือน ร้านค้า สถานที่ราชการ ที่ลุ่มต่ำ ชาวบ้านในเขตเทศบาลเมืองน่านบางส่วนขนย้ายข้าวของทรัพย์สินไว้ที่สูงทัน เพราะได้รับการแจ้งเตือนล่วงหน้า ส่วนทางเทศบาลฯ เร่งสูบน้ำออกจากในเขตเศรษฐกิจ และมีการตัดกระแสไฟ

------------

ทั้งนี้ มวลน้ำยังทะลักเข้าท่วมวัดภูมินทร์ ซึ่งวัดแห่งนี้เป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญ และมีภาพฝาผนังอันโด่งดังเป็นที่รู้จักกันในชื่อ ภาพ 'กระซิบรักบันลือโลก' หรือ 'ปู่ม่านย่าม่าน'

ทำให้ชาวโซเชียลเป็นห่วงภาพจิตรกรรมที่สำคัญจะได้รับความเสียหาย แต่จากการตรวจสอบพบว่า น้ำยังไม่ท่วมเข้าไปในวิหาร

โดยมีภาพจากในโซเชียล โดยผู้ใช้ TikTok @pong.aekkarach โพสต์คลิปมวลน้ำไหลทะลักเข้าวัดภูมินทร์ 

อีกคลิป ผู้ใช้ TikTok @da_naka2205 โพสต์ภาพน้ำท่วมวัดภูมินทร์เช่นกัน โดยระบุ "น้ำท่วมมาถึงวัดภูมินทร์อย่างรวดเร็ว"

และยังมีภาพนิ่งจากผู้ใช้เฟซบุ๊ก Tantrakool Nutthawut พร้อมข้อความระบุ วัดภูมินทร์น้ำเข้าแล้ว ตอนนี้ 18.00 น.

ขณะที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวเทศบาลเมืองน่าน ได้เปิดให้ประชาชนที่ถูกผลกระทบน้ำท่วมนำมอเตอร์ไซค์ขึ้นมาจอดเพื่อหนีน้ำ และวัดพระธาตุกลางค้ำวรวิหาร ได้เปิดให้ประชาชนนำรถยนต์ และมอเตอร์ไซค์เข้าไปจอดในวัด โดยมีเจ้าหน้าที่ของวัดเฝ้าดูแล ซึ่งสถานการณ์น้ำในอำเภอเมืองน่านตอนนี้ น่าจะขึ้นถึงระดับสูงสุด ประมาณเวลา 01.00 น. ถ้าไม่มีฝนตกทั้งทางตอนเหนือ และในอำเภอเมือง ระดับน้ำอาจจะลดลง

------------

ขณะที่ย้อนกลับไปในช่วงกลางวัน ทีมข่าวลงพื้น พบว่า ในเขตเทศบาลฯ ที่ถูกน้ำท่วม อาทิ บ้านดอนศรีเสริม บ้านสวนตาลล่าง บ้านพวงพยอม บ้านดอนแก้ว บ้านหัวเวียงใต้ บ้านท่าช้าง บ้านเมืองเลน บ้านพระเนตร ตลาดตั้งจิตนุสรณ์ กาดศรีคำ /โรงเรียนน่านคริสเตียนศึกษา โรงเรียนสตรีศรีน่าน สภ.เมืองน่าน บ้านพักผู้ว่าราชการจังหวัดน่าน และสถานที่ราชการอีกหลายแห่ง

ส่วนบริเวณใจกลางเมืองน่าน และตลาดตั้งจิตนุสรน์ รวมถึงร้านค้าต่าง ๆ พบว่าพ่อค้าแม่ค้าต่างพากันเดินลุยน้ำเข้าไปเก็บข้าวของที่ค้าขายอยู่ในตลาด ยกขึ้นที่สูง และขนย้ายออกมาไว้ข้างนอก ของที่นำมาขายในตลาดถูกน้ำพัดลอยไหลไปกับกระแสน้ำ บางร้านเก็บสินค้าไม่ทัน ต้องปล่อยทิ้งให้จมน้ำ

ส่วนที่สี่แยกไฟแดงใกล้กับปั๊มน้ำมันพีทีในตัวเมืองน่าน ถนนมหายศ จุดนี้อยู่ต่ำน้ำไหลแรง เจ้าหน้าที่ได้นำเชือกฟางมาขึงกั้นไว้ และนำกระดาษ ฝากล่องโฟม ถาดพลาสติก มาผูกติดกับเชือกฟางให้เห็นเด่นชัด ชาวบ้านที่บ้านเรือนถูกน้ำท่วม ต่างถือถุงเสื้อผ้า-ของใช้จำเป็น เดินลุยน้ำออกมาจากบ้าน บางคนนำรถยนต์ หรือจักรยานยนต์ ไปจอดไว้บนสะพานพัฒนาภาคเหนือ

ชาวบ้านรายหนึ่ง เล่าว่า ได้เตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม โดยเข้ามาเก็บข้าวของในบ้าน เก็บเสื้อผ้าสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็น ยารักษาโรค ใส่กระเป๋า พาคุณแม่ออกไปเช่าโรงแรมนอน พร้อมกับแมว 1 ตัว ตนเองกับคุณแม่ไม่ทันออกจากบ้าน น้ำมาเร็วมาก ไม่คิดว่าครั้งนี้ น้ำจะหลากเข้าท่วมในเขตเทศบาลฯ เพราะทุกปี ระดับน้ำแค่ปริ่มตลิ่ง

ขณะที่ แม่ค้าขายน้ำพริกอยู่ในกาดศรีคำ ขณะนี้ ตลาดน้ำท่วมเต็มพื้นที่ เจ้าตัวก็ไม่คิดว่าน้ำจะท่วมตลาด เพราะช่วงเช้า น้ำยังไม่ท่วม จึงทำน้ำพริกผักลวกมาขายที่กาดศรีคำ ปรากฎว่า น้ำดันขึ้นตามท่อระบายน้ำ ก่อนจะหลากเข้าท่วมตลาด ตนจึงนำน้ำพริกมาวางขายหน้าโรงแรมเทวราช เช่นเดียวกับแม่ค้าคนอื่น ๆ 

ด้าน นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน เผยว่า เนื่องด้วยมีฝนตกสะสม ปริมาณน้ำในแม่น้ำน่านลำน้ำสาขา ลำน้ำห้วยลี่ เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง จึงได้ติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ณ คลองเจ้าฟ้า อาจจะระบายน้ำปริมาณมากในตัวเมืองไม่ทัน ซึ่งตอนนี้ ในเขตเทศบาลเมืองน่าน ได้มีน้ำระบายไม่ทัน ทำให้เอ่อล้นเข้าในเขตเทศบาลหลายจุด

ทั้งนี้ ให้ประชาชนที่มีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดน้ำท่วมในที่ลุ่มต่ำ ขอให้ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองน่าน โดยเฉพาะชุมชนที่เคยประสบภัยน้ำท่วม เมื่อปี พ.ศ.2554 เก็บข้าวของเครื่องใช้ขึ้นบนที่สูง และเตรียมอาหาร น้ำดื่ม ยารักษาโรค ให้พร้อม เพื่อเตรียมรับสถานการณ์มวลน้ำ ที่จะไหลเข้ามาถึงตัวเขตเทศบาลเมืองน่าน ประมาณตี 1 ของวันที่ 22 สิงหาคม

นายสุรพล เธียรสูตร นายกเทศมนตรีเมืองน่าน เผยปริมาณน้ำในแม่น้ำน่าน N1 กาดแลง เมื่อเวลา 15.00 น. ของวันที่ 22 ส.ค.67 อยู่ที่ 8.67 เมตร สูงกว่าระดับพนังกั้นน้ำ และสูงกว่าสถิติน้ำท่วมใหญ่ เมื่อปี พ.ศ.2549 ที่ระดับ 8.42 เมตร เทศบาลยังเร่งระบายน้ำออกจากตัวเมืองอย่างต่อเนื่อง คาดปริมาณน้ำมีแนวโน้มสูงขึ้น เตือนประชาชนเร่งขนย้ายสิ่งของจำเป็น​ อาทิ รถยนต์ เครื่องใช้ไฟฟ้า​ ฯลฯ​ ขณะที่ประชาชนรับทราบข่าวสารการแจ้งเตือนภัย มีการเตรียมการรับมือน้ำท่วมในครั้งนี้ ในหลายพื้นที่ในเขตเทศบาลเมืองน่าน

จากสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดน่านตอนนี้ เริ่มวิกฤตหนัก คาดว่าหนักสุดในรอบ 100 ปี  

----------

ล่าสุด คาเฟ่ชื่อดังใน จ.น่าน 'Lalana Cafe' ได้เผยให้เห็นสภาพคาเฟ่ที่พังเสียหายในชั่วข้ามคืน โดยเป็นภาพคาเฟ่ที่ถูกน้ำท่วมจนจมมิดหลังคา โดยทางคาเฟ่ดังได้ระบุว่า “ปีนึ้หนักมาก ทางร้านไม่ได้ทันตั้งตัว และไม่ได้ขนของใด ๆ ออกมาเลยค่ะ

ขอเวลาอีกสักพักนะคะ แล้วจะมาแจ้งให้ทราบอีกครั้งค่ะ ขอบคุณทุกกำลังใจของลูกค้าทุกคนนะคะ หวังว่าจะได้พบกันอีกค่ะ

โดยทางเจ้าของร้าน ระบุว่า ในชีวิตนี้ไม่เคยเจออะไรหนักเท่านี้เลย ร้านที่เราฝัน ที่เรารัก เราทำมันสำเร็จ แต่ตอนนี้ มันพังหมดภายใน 1 คืน จุกไปหมด”

----------

เมื่อเวลาประมาณ 22.15 น. ทาง เพจ สมาคมตอบโต้ภัยพิบัติ ประเทศไทย ได้โพสต์คลิปสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ จ.น่าน เป็นคลิปมวลน้ำมีสีแดงขุ้นไหลบ่าเข้าท่วมบ้านเรื่อนประชาชน พร้อมมีข้อความ ระบุ “เมืองน่านขณะนี้”

เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา (22 ส.ค. 67) เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก มูลนิธิประสาทบุญสถาน จังหวัดพิษณุโลก นำกำลังเจ้าหน้าที่กู้ภัยพร้อมเรือท้องแบน และอุปกรณ์ เพื่อลงพื้นที่ให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยด้านต่าง ที่อำเภอเวียงสา และตำบลในเวียง อำเภอเมือง จังหวัดน่าน หลังจากเดินทางจากจังหวัดพิษณุโลก ไป 300 กิโลเมตร ใช้เวลาประมาณ 4 ชั่วโมง ตั้งแต่ช่วงบ่าย เพราะประเมินสถานการณ์แล้วพบว่า ในพื้นที่จังหวัดน่านมีผู้ประสบภัยจำนวนมาก กำลังรอรับความช่วยเหลือหลายจุด

จากระดับน้ำยังท่วมสูงขึ้นเรื่อย ๆ มีการตัดกระแสไฟฟ้าบางจุด เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยพิษณุโลก ได้รับการประสานจากเจ้าหน้าที่กู้ภัยในจังหวัดน่านให้เข้าช่วยเหลือ อพยพเคลื่อนย้ายผู้ป่วยติดเตียงที่ต้องใช้เครื่องออกซิเจนออกจากบ้านโดยขึ้นเรือ ซึ่งบรรยากาศการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยเป็นไปอย่างทุลักทุเล เจ้าหน้าที่ช่วยกันยกเปลผู้ป่วยลงเรือ ก่อนส่งตัวขึ้นรถทหารไปอยู่ที่โรงพยาบาลเป็นการชั่วคราวระหว่างน้ำท่วม

นอกจากนี้ ยังพบว่า มีประชาชนเดินลุยน้ำออกจากที่พัก เพื่อย้ายไปอยู่ในพื้นที่ปลอดภัยจากน้ำท่วมด้วยเช่นเดียวกัน

----------

ส่วน สถานการณ์น้ำท่วมที่ อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน วานนี้ (22 ส.ค. 67) พบว่า ระดับน้ำยังคงท่วมบ้านเรือนประชาชน เสียหายเป็นวงกว้าง

โดยกระทบ 10 ตำบล 68 หมู่บ้าน โดยเฉพาะที่บ้านท่าวังผา ม.2 และ ม.7 บ้านอาฮาม ม.3 บ้านสบยาว ม.4 ตำบลท่าวังผา ระดับน้ำบางจุดสูงกว่า 2 เมตร แม้ว่าช่วงกลางวันน้ำจะลดลงไปบ้าง แต่พอตกกลางคืน ก็มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องอีก

น้ำท่วมครั้งนี้ ทำให้ชาวบ้านกว่า 500 หลังคาเรือน ในอำเภอท่าวังผา ถูกน้ำท่วม หลายหลังเป็นบ้านชั้นเดียว ชาวบ้านต้องอพยพไปอาศัยอยู่กับญาติ หรือที่โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม ซึ่งเป็นจุดอพยพชั่วคราวที่ทางอำเภอจัดไว้ให้ นอกจากนี้ ถนนสาย 101 ซึ่งเป็นถนนสายหลักก็ถูกน้ำท่วม  

ต่อมา อำเภอท่าวังผา บางพื้นที่ระดับน้ำเริ่มลดลงแล้ว นายอำเภอท่าวังผา และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย เร่งสำรวจความเดือนร้อนของชาวบ้าน พร้อมจัดอาหารและน้ำดื่ม แจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ติดค้างอยู่ในบ้านเรือน  

โดยมูลนิธิเพชรเกษมน่าน นำเรือเข้าไปส่ง และรับส่งชาวบ้านที่มีความต้องการออกมาข้างนอก เพราะยังมีบางพื้นที่ น้ำยังท่วมสูง โดยเฉพาะพื้นที่การเกษตร เช่น นาข้าว ถูกน้ำท่วมเสียหาย

ขณะเดียวกัน มีผู้สูญหายจากเหตุน้ำท่วมในอำเภอท่าวังผา 2 ราย  รายแรกคือนายอนันต์ ไชลสลี อายุ 59 ปี ชาวบ้าน บ้านนาเตา หายออกจากบ้าน เวลา 1 ทุ่ม วันที่ 21 ส.ค.ที่ผ่านมา เดินลุยน้ำท่วมออกไปรอรับลูก แล้วก็หายตัวไป ตอนนี้ ยังไม่เจอตัว อีกราย คือ นายยุทธภูมิ ศิริรัตน์ อายุ 40 ปี ชาวบ้านบ้านม่วง ต.ศรีภูมิ ที่พายเรือพลาสติกจะไปช่วยชาวบ้านที่น้ำท่วมภายในหมู่บ้าน แต่ถูกกระแสน้ำพัดไป ยังหาไม่เจอ

----------

ทีมข่าวไปสำรวจที่บ้านหนองบัว ม.5 ตำบลป่าคา อำเภอท่าวังผา บ้านเรือนประชาชน 250 หลังคาเรือนถูกน้ำท่วมทั้งหมด รวมถึงพื้นที่การเกษตร ระดับน้ำสูง 2 เมตรครึ่ง ซึ่งเมื่อวันที่ 21 ส.ค.น้ำลดลงไปมากแล้ว เหลือทิ้งไว้แต่ความเสียหาย

ทีมข่าวไปสำรวจวัดหนองบัว ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ 155 ปี มีภาพจิตรกรรมฝาผนังที่มีชื่อเสียง โดยจิตรกรผู้วาด เป็นคนเดียวกับที่วาดภาพจิตรกรรมฝาผนังวัดภูมินทร์ ซึ่งที่วัดแห่งนี้ก็ถูกน้ำท่วมได้รับความเสียหายด้วย พระสงฆ์ และกู้ภัย ต้องช่วยกันเก็บทำความสะอาดภายในโบสถ์ พื้นเต็มไปด้วยขี้โคลน ชาวบ้าน และพระลูกวัด ต่างกังวลว่า ความชื้นจะทำให้ภาพวาดจิตรกรรมฝาผนังอันเก่าแก่ จะได้รับความเสียหาย

ทีมข่าวได้คุยกับชาวบ้าน บ้านท่าค้ำ 2 หมู่ 7 ตำบลริม อำเภอท่าวังผา ที่ต้องอยู่ในบ้านท่ามกลางความมืดมิด เพราะถูกตัดไฟฟ้า จนต้องเอาไฟฉายติดศีรษะมาส่อง เพื่อถอนขนไก่ที่ตายจากน้ำท่วม เอาไว้กินเป็นอาหาร ชาวบ้านรายนี้เลี้ยงไก่ 20 กว่าตัว ในสวน แต่ถูกน้ำท่วมตายหมด จึงต้องนำไก่ที่ตายมาประกอบอาหาร และแบ่งให้เพื่อนบ้านประทังชีวิต ในช่วงนี้

----------

มีผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่ง ได้โพสต์ภาพเปรียบเทียบน้ำท่วมวัดดอนตัน อำเภอท่าวังผา ซึ่งเป็นภาพน้ำท่วมใหญ่ ปี 2549 ปี 2554 ปี 2561 และปี 2567 

โดยสังเกตจากรูปปั้นพญานาคที่กำแพงวัดและซุ้มประตู พบว่า

• ปี 2549 น้ำท่วมหนักจนสูงถึงเศียรพญานาค
• ปี 2554  น้ำท่วมหนักเช่นกัน แต่ยังเห็นลำตัวของพญานาคโผล่พ้นน้ำบางส่วน
• ปี 2561 น้ำก็ท่วมเช่นกัน แต่น้อยกว่าปีก่อน ๆ โดยน้ำท่วมสูงระดับกำแพงวัด และยังมองเห็นลำตัวพญานาคเกือบทั้งหมด
• ปี 2567 พบว่า ระดับน้ำสูงกว่าปี 54 และปี 61 เพราะน้ำท่วมขึ้นมาจนถึงคอพญานาค เกือบถึงหลังคาซุ้มป้ายวัด อีกนิดเดียวก็เกือบจะท่วมสูงเท่ากับปี 49 แล้ว

----------

จากการที่น้ำท่วมจังหวัดน่านครั้งใหญ่ ทำให้เมี่ยวบินต่าง ๆ ต้องยกเลิก

ล่าสุด สายการบินนกแอร์ ได้โพสต์ผ่านเพจเฟซบุ๊ก Nok Air เสนอมาตรการช่วยเหลือสำหรับผู้โดยสารที่มีเที่ยวบินเข้า-ออก ท่าอากาศยานน่านนครภายในวันที่ 26 สิงหาคม 2567

โดยระบุว่า “สายการบินนกแอร์ห่วงใยผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมในพื้นที่จังหวัดน่าน เสนอมาตรการช่วยเหลือสำหรับผู้โดยสารที่มีเที่ยวบินเข้า-ออก ท่าอากาศยานน่านนครภายในวันที่ 26 สิงหาคม 2567 ดังนี้

1.เปลี่ยนแปลงเที่ยวบิน

2.เปลี่ยนแปลงเส้นทางไปยังสนามบินใกล้เคียง*

3.เก็บวงเงินเครดิต 100% (Voucher)

ทางด้าน สายการบิน แอร์เอเชีย ได้แจ้งมาตรการช่วยเหลือผู้โดยสารที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์น้ำท่วมที่จังหวัดน่านเช่นกัน ระบุเนื่องจากเกิดสถานการณ์น้ำท่วมในหลายพื้นที่ของจังหวัดน่าน สายการบินไทยแอร์เอเชีย แจ้งว่า ผู้โดยสารที่ไม่สะดวกเดินทางเส้นทาง น่าน - ดอนเมือง สามารถติดต่อเลื่อนเที่ยวบินได้ภายใน 7 วัน โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ในระหว่าง วันที่ 22 - 23 ส.ค. 2567

----------

ด้าน จ.พะเยา วานนี้ (22 ส.ค. 67) พบว่า ระดับน้ำในหลายพื้นที่ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้างขึ้น และบางแห่งระดับน้ำยังเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

โดยในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองดอกคำใต้ และตำบลดอกคำใต้ ตำบลดอนศรีชุม ระดับน้ำได้เพิ่มสูงขึ้น บางแห่งอยู่ในระดับ 1.20 เมตร จนถึง 1.50 เมตร โดยระดับน้ำยังมีแนวโน้มที่เพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเป็นสถานที่รองรับน้ำจากพื้นที่ตำบลบ้านปิน และขณะนี้ มวลน้ำดังกล่าวยังเข้าเติมพื้นที่อยู่ตลอดเวลา

เช่นเดียวกันกับจุดแลนมาร์คของ จ.พะเยา คือ ธุมะสิกขีศรีจอมทอง (ลานพญานาคกว๊านพะเยา) ที่มีป้ายข้อความต้อนรับบอกว่า “แอ่วพะเยาม่วนใจ๋” ซึ่งกว๊านพะเยาจุดนี้ เป็นทะเลสาบน้ำจืดขนาดใหญ่ที่สุดในภาคเหนือที่รองรับน้ำจากลำห้วยต่าง ๆ ไว้กว่า 18 สาย ตอนนี้ น้ำล้นตลิ่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 21 ส.ค. ที่ผ่านมา เป็นวันที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก จนส่งผลให้ นายชัย อายุ 56 ปี ชาวบ้านบ้านแสะ ม.6 ต.ควร อ.ปง จ.พะเยา ประสบกับมวลน้ำขณะรีบเดินข้ามลำน้ำห้วยไปในไร่นาท้ายหมู่บ้านเพื่อเก็บสิ่งของใต้กระท่อมไว้ข้างบน

พร้อมกันนี้ มีมวลน้ำป่าไหลเชี่ยวมาอย่างเร็ว จนพัดเอากระท่อมหายไปกับสายน้ำ จนคุณลุงชัย ต้องยืนจับต้นไม้ไว้แน่น และไม่สามารถเดินข้ามฝ่ากระแสน้ำที่ไหลแรงมาขึ้นฝั่งได้ จึงตะโกนร้องเรียกเพื่อนบ้าน และญาติ ให้ช่วยเหลือ แต่ไม่สามารถช่วยเหลือได้ จนต้องแจ้ง ผญบ. กำนัน เจ้าหน้าที่อบต. นำเอารถแบคโฮ มาใช้แขนรถยื่นไปช่วยแต่ไม่ถึง และไม่สามารถช่วยเหลือได้ แต่ล่าสุด ปลอดภัยแล้ว เพราะใช้โดรน

----------

ด้านจังหวัดเชียงราย มีพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมเช่นกัน โดยรวมทั้งสิ้น 10 อำเภอ 30 ตำบล 221 หมู่บ้าน โดยมีราษฎรได้รับผลกระทบ 5,579 ครัวเรือน ส่วนพื้นที่ทางการเกษตรได้รับผลกระทบ 12,828 ไร่ บ่อปลา/บ่อกุ้ง 68 บ่อ

ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในพื้นที่จังหวัดเชียงรายมีผู้เสียแล้ว 3 ราย

• วันที่ 20 ส.ค. พบร่างผู้เสียชีวิตจมน้ำที่หมู่บ้านปงน้อย หมู่ 10 ต.ปงน้อย อ.ดอยหลวง เป็นชายอายุ 77 ปี เสียชีวิตขณะออกไปหาปลา บริเวณทุ่งนาที่ถูกน้ำท่วม
• หญิง อายุ 39 ปี ชาว ต.ตับเต่า อ.เทิง สูญหายไปตั้งแต่เกิดน้ำหลาก เมื่อเช้าวันที่ 17 ส.ค. 67 เจ้าหน้าที่พบร่างเสียชีวิตอยู่ในลำน้ำหงาว พื้นที่หมู่บ้านทรายกาด หมู่ 6 ต.ตับเต่า
• วันที่ 21 ส.ค.67 พบร่างผู้เสียชีวิตในไร่ข้าวโพด พบว่าเป็นชาวบ้านศิลาแดง ต.ปอ อ.เวียงแก่น จ.เชียงราย

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/3e8WvHjc4q0