สังคม

เปิดใจอดีตแชมป์บาริสตาใส่ขาเทียมสู้ชีวิต ขายบะหมี่เกี๊ยว หลังถูกคนเมาขับรถชนจนต้องตัดขา

โดย kanyapak_w

22 ส.ค. 2567

242 views

เปิดใจอดีตแชมป์บาริสตาใส่ขาเทียม สู้ชีวิตขายบะหมี่เกี๊ยวกลางคืน หลังถูกคนเมาขับรถชนขาขาด



จากกรณีโซเชียลแชร์ภาพชีวิตหนุ่มพ่อค้าขาเหล็ก สู้ชีวิตขายบะหมี่เกี๊ยวกลางคืน กับภรรยาคู่ใจที่ป่วยเป็นนิ่วในถุงน้ำดี หลังประสบอุบัติเหตุรถชนขาขาด ทำให้ชีวิตจากแชมป์ลาเตอาร์ต ชีวิตพลิกผันกลายเป็นคนพิการต่อสู้คดีนานกว่า 2 ปี จนปัจจุบันศาลจังหวัดนนทบุรีพิพากษาให้ชนะคดี เมื่อวันที่ 3 ส.ค. 67



เมื่อวันที่ 21 ส.ค. 67 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่บริเวณหน้าตลาดสมบัติ ตรงข้ามห้างเมเจอร์พลาซ่า นนทบุรี ต.สวนใหญ่ อ.เมืองนนทบุรี พบรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวแบบพวงรถจยย.จอดอยู่บริเวณข้างทางใต้สะพานลอย หน้าร้านเขียนชื่อว่า หมี่เกี๊ยว ขาเหล็ก บนรถเข็นตกแต่งด้วยตู้กระจก มีเส้นบะหมี่ เนื้อหมูแดง เกี๊ยวหมู โดยที่ร้านจะขายก๋วยเตี๋ยวหมูน้ำใส และน้ำตก มีหลากกลายชนิด เส้นบะหมี่ เกี๊ยวหมู เส้นเล็ก เส้นใหญ่ เส้นมาม่า เส้นหมี่ขาว และเกาเหลา ราคาธรรมดา 35-40 บาท พิเศษ 45-50 บาท ประชาชนแห่มุงเข้าคิวรอซื้อ มีทั้งใส่ถุงกลับบ้าน และนั่งรับประทานทานที่ร้าน



สำหรับประวัติพ่อค้าขาเหล็กสู้ชีวิตคนนี้ คือ นายอาธร หรือเขาค้อ อายุ 31 ปี ชาว จ.อุดรธานี อดีตมีอาชีพเป็นกัปตันบาร์เทนเดอร์ร้านอาหารแห่งหนึ่งย่านเมืองทองธานี และเป็นอดีตแชมป์ลาเต้อาร์ต ของร้านกาแฟในเครือเมืองทองธานีจนกระทั่ง ภรรยาคือ น.ส.ผกาวรรณ อายุ 27 มีบุตรสาว 2 คน ชื่อน้องมิลค์ อายุ 12 ปี และน้องมายด์ อายุ 4 ปี จนกระทั่งเมื่อวันที่ 3 เม.ย.65 ได้ประสบอุบัติเหตุถูกรถเก๋งพุ่งชนรถจยย.ที่นายอาธรขับระหว่างทางกลับที่พักหลังจากเลิกงาน บริเวณทางเข้าซอยสหกรณ์ 3 ถนนติวานนท์ ต.บางพูด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เมื่อเวลา 00.30 น. ได้รับบาดเจ็บสาหัสต้องตัดขาซ้าย กลายเป็นคนพิการ และพบว่าคู่กรณีมีพ่อเป็นนายตำรวจยศ พ.ต.ท.อยู่ที่จังหวัดปราจีนบุรี ต้องต่อสู้คดีนานกว่า 2 ปีจนชนะคดีในที่สุด




นายอาธร เปิดเผยว่า ที่ชีวิตต้องพลิกผันมาขายบะหมี่เกี๊ยวข้างทาง เนื่องจากเมื่อก่อนตนทำงานประจำที่ร้านอาหาร เป็นบาร์เทนเดอร์ เมื่อปี 65 ขับรถจักรยานยนต์กลับจากที่ทำงาน และประสบอุบัติเหตุ มีคนเมาสุราขับรถชน ต่อสู้คดีมาจนศาลตัดสินเมื่อ 13 ส.ค. 67 ให้ตนชนะคดี และให้รับผิดชอบค่าเสียหายแก่ตน คู่กรณีขอผ่อนเดือนละ 3000 บาท เป็นระยะเวลา 6 ปี โดยจะเริ่มผ่อนเดือน พ.ย. 67 เป็นงวดแรก หลังจากประสบอุบัติเหตุต้องตัดขา จากคนที่เคยมีราางการครบ 32 เดินทางไปไหนสะดวกสบาย ตอนนี้ร่างกายเช่นมือ นิ้วมือ ก็ไม่ปกติ และขาข้างซ้ายต้องตัดออก จึงต้องใส่ขาเทียม



นายอาธร กล่าวต่อว่า ก่อนที่จะประสบอุบัติเหตุ ต้นเคยเป็นบาริสตา และเป็นแชมป์ในเครือเมืองทองธานี หลังประสบอุบัติเหตุ จนไม่สามารถที่จะเป็นบาริสตาได้อีก เพราะข้อมือไม่สามารถที่จะสะบัดได้ ทำให้ตนเสียโอกาสและเสียความฝันที่จะไปต่อ ชีวิตกำลังจะรุ่งและไม่เคยคิดว่าจะต้องมาขายก๋วยเตี๋ยว ตอนแรกตนรู้สึกเสียดายมาก รอดูร่างกายตอนขณะพักฟื้นว่าจะกลับมาเป็นบาริสตาได้อีกหรือไม่ ในที่สุดตนก็รู้ว่าร่างกายตนเองไม่ไหว ความคล่องแคล่วในการทำงานความคล่องแคล่วในการทำงานหายไป จนไม่อยากไปเป็นภาระบริษัทจึงให้ทางบริษัททำเรื่องจ้างตนออก จากเหตุการณ์ที่เกิดอุบัติเหตุ คู่กรณีไม่เคยเอ่ยปากขอโทษตนสักคำ อาจจะเป็นเพราะพ่อเค้าเป็นนายตำรวจ ในที่สุดศาลสั่ง คู่กรณีถึงขอโทษตน



นายอาธร กล่าวอีกว่า ทุกวันนี้มาขายก๋วยเตี๋ยวทำให้ชีวิตดีขึ้น มีลูกค้ามารีวิวให้หลายเพจ ทำให้ลูกค้าเยอะ ตอนแรกแรกคนไม่กล้าที่จะมาซื้อทาน ไม่เปิดใจเพราะเห็นว่าตนเป็นเด็กและพิการด้วย ช่วงแรกขายหมูปิ้งที่หน้าบ้าน เพราะร่างกายยังไม่ค่อยแข็งแรง ขายหมูปิ้งก็ได้กำไรเล็กน้อยวันละ 100-200 บาท พอได้ค่าข้าวลูก พอดีตนมีสูตรก๋วยเตี๋ยวที่เคยไปขายกับญาติ จึงนำเงินก้อนสุดท้ายไปซื้อซาเล้งเอามาลงทุน



เพราะตนคิดว่าถ้าไม่ทำอาชีพนี้เงินที่มีจะหมดแล้ว รถก๋วยเตี๋ยวคันนี้ ตนได้การช่วยเหลือมาจากหลายที่ กระทรวงยุติธรรม เงินจากบริษัทที่จ้างออก ตอนแรกคิดจะกลับบ้านที่ จ.ร้อยเอ็ด เพราะวันนั้นไม่มีเงินซื้อของมาขาย ตนจึงตัดสินใจไปยืมเงินลูกสาวคนเล็กในกระปุกออมสินมา 500 บาทซื้อของสดมาขายก๊วยเตี๊ยว แล้วมีเพจมาเช็คอินรีวิวให้ตั้งแต่นั่นมาก็ขายดีขึ้น ตอนนี้ชีวิตครอบครัวดีขึ้น แต่ตนก็ยังรอให้คู่กรณีมารับผิดชอบตน



นายอาธร กล่าวเพิ่มเติมว่า อยากฝากถึงคนที่กำลังท้อแท้ หมดหนทาง หรือทางตันแล้ว ให้ดูตนเป็นตัวอย่างก็ได้ ตนเสียขาไปจากอุบัติเหตุ ตนยังคิดถึงคนข้างหลัง ต้องสู้เพื่อตนเองและคนข้างหลัง ไม่มีใครช่วยเราได้ต้องช่วยตัวเองก่อน ส่วนคนที่คิดว่าจะออกไปฉลองหรือดื่มสุรา และไปเที่ยวตามร้านเหล้า ถ้าเป็นไปได้ให้นั่งรถสาธารณะดีกว่า ไม่ต้องขับรถไปเอง หรือหาคนขับรถให้ จะได้ไม่เกิดอุบัติเหตุ ไม่ทำให้คนอื่นเดือดร้อน จนเป็นภาระสังคม ตนจะสู้ชีวิตต่อไปเพราะตนยังมีลูกเล็กอีก 2 คน สุดท้ายตนขอฝากร้าน หมี่เกี๊ยวขาเหล็ก เปิดขายทุกวัน ตั้งแต่เวลา 20.00-02.00 น. หรือติดตามในเฟซบุ๊กหมี่เกี๊ยว ขาเหล็ก โทร 0952517072



นายวาทิน อายุ 48 ปี อาชีพรับจ้าง ลูกค้า กล่าวว่า ตนมาซื้อก๋วยเตี๋ยวทานประจำเกือบทุกคืน เพราะกลางคืนไม่มีที่กิน อละของน้องเขาก็อร่อย ทั้งเส้นบะหมี่ และน้ำตกอร่อยมาก นิ่งแตกต่างจากที่อื่น กินที่อื่นก็อร่อยไม่เท่า ราคาถูก 40-45-50 บาท ตนทราบว่าน้องเขาพิการ ตนเพิ่งมาอยู่ได้ปีดว่าออกมาตอนดึกครั้งแรกมาเจอน้องเขาขายก็กินมาตลอด ตนไม่รู้ว่าขาน้องเขาขาขาดเพราะอะไร แต่คนอดทนมีมุมานะก็ทำได้ เขาเก่งมีความสามารถ



น.ส.อภัสนันท์ อายุ 47 ปี พนักงาน ธนาคาร กล่าวว่า ต้นมาซื้อก๋วยเตี๋ยวร้านนี้ครั้งที่สามแล้ว โดยเห็นเค้าโพสต์จาก TikTok จึงตามมาชิม อร่อยดี ตนเห็นว่าเขาขาไม่ดี แต่ก็ชอบที่เขาไม่ท้อ เลยมาอุดหนุน ราคาถูก ปริมาณเยอะมาก วันนี้รู้สึกดีที่เขาแจกฟรี



น.ส.เสาวนีย์ อายุ 49 ปี แม่บ้าน แฟนคลับ กล่าวว่า ตนเห็นจากรายการทีวีเมื่อเช้า ว่าน้องเขาถูกรถชนขาขาดเลยตามมาอุดหนุนน้องเขา จึงคิดมาลองชิมครั้งแรก ตอนที่มาเห็นคนเยอะมาก จากเรื่องของน้องเขาที่เกิดอุบัติเหตุก็อยากฝากถึงคนเมาอย่าขับรถดีกว่า เพราะมันทำให้คนคนหนึ่งเสียโอกาส น้องเขาสู้ชีวิตมาก ไม่ใช่แค่ขาเหล็ก ใจน้องเขาก็เหล็กด้วย




คุณอาจสนใจ

Related News