แก๊งโจ๋บุกเคลียร์อริ ชักปืนยิงถล่ม 7 นัด หญิงพิการเคราะห์ร้าย โดนลูกหลงดับคารถ 3 ล้อ

วันที่ 22 ส.ค. 2567 ร.ต.อ.วรบูรณ์ บุญมาก รอง สว.สอบสวน สภ.เมืองสมุทรสงคราม ได้รับแจ้งเหตุยิงกันมีผู้เสียชีวิตบริเวณหลังวัดพวงมาลัย ม.1 ต.ท้ายหาด อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม จึงไปตรวจสอบพบศพ น.ส.พัชณี อายุ 46 ปี ชาว ต.แม่กลอง อ.เมืองสมุทรสงคราม สวมเสื้อยืดแขนสั้นสีดำ นุ่งกางเกงขาสั้นสีน้ำเงิน ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาด จุด 38 กระสุนเข้าทางหน้าผากซ้ายฝังใน สภาพนั่งบนรถโยก 3 ล้อ ห่างไปประมาณ 75 เมตร บนถนนวัดพวงมาลัยท้ายหาด พบปลอกกระสุนขนาด จุด 38 ตกอยู่ 7 ปลอก เจ้าหน้าที่เก็บไว้เป็นหลักฐาน โดยมีญาติๆ ของ น.ส.พัชณี ร้องไห้เสียใจจากการจากไป

นางสุวพิชชา อายุ 47 ปี ลูกสาวคุณลุงเพื่อนบ้านที่ น.ส.พัชณี มานั่งคุยด้วย และอยู่ในที่เกิดเหตุ เล่าว่า ก่อนเกิดเหตุคนอยู่บนบ้าน ได้ยินเสียงเด็กๆ มาเคลียร์กัน จึงมาช่วยไกล่เกลี่ยแล้ว และตบสั่งสอนเด็กของเราให้แล้ว กลุ่มผู้ก่อเหตุจึงเดินออกไป ไม่นานก็สาดกระสุนปืนเข้ามาในบ้าน และเสียงรถก็ขับออกไป ซึ่งโชคดีที่ไม่โดนพ่อของตนไปแล้ว

นายสงคราม 50 ปึ สามีผู้ตาย กล่าวว่า ภรรยาของตน จะออกมาหาเพื่อนบ้านเป็นประจำทุกวัน ซึ่งตนก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะทำงานอยู่ในบ้าน ก่อนเกิดเหตุ ภรรยาชอบบ่นเกี่ยวกับเรื่องความตาย และมักร้องเพลงใครตายก่อนใคร ซึ่งตนก็อยากให้ดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ก่อเหตุอย่างเต็มที่ ซึ่งภรรยาตนไม่รู้เรื่องอะไรด้วยต้องมาตายบนรถโยก 3 ล้อ ซึ่งตนเสียใจมากที่ภรรยาต้องมาจากไป

ด้านนายดนุสรณ์ อายุ 22 ปี เด็กวัดหลังบ้าน ซึ่งถูกวัยรุ่นมาหาเรื่องนั้น กล่าวว่า เมื่อ 3 สัปดาห์ก่อน จะมองหน้ากับกลุ่มวัยรุ่น และเกิดกระทบกระทั่งกัน ซึ่งก็ให้ผู้ใหญ่เคลียร์กันไปแล้ว กระทั่งวันนี้ตนมาหาเพื่อนที่บ้านในหลังวัดพวงมาลัย จู่ๆ ก็มีกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่นที่ตนมีปัญหากันมาก่อน เข้ามาหาเพื่อต้องการจะเคลียร์ ซึ่งผู้ใหญ่ก็ช่วยเคลีย แล้ว และก็ให้นายธนากร เพื่อนตน ตบหน้าตนไป 3 ที เพื่อสั่งสอน และขอให้ผู้ก่อเหตุเลิกลากันไป ก่อนที่ผู้ก่อเหตุจะออกไปจากบ้าน ไม่นานก็ได้ยินเสียงปืน 7 นัด มีผู้เสียชีวิตดังกล่าว

ต่อมา เวลา 22.30 น. พล.ต.ต.สมภพ คูหาวิชานันท์ ผบก.ภ.จว.สมุทรสงคราม ได้เดินทางมาที่ สภ.เมืองสมุทรสงคราม เพื่อเรียกประชุมชุดคลี่คดี เพื่อติดตามกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี โดยกำชับให้เจ้าหน้าที่จับกุมกลุ่มผู้ก่อเหตุมาให้ได้เร็วที่สุดพล.ต.ต.สมภพ กล่าวว่า เบื้องต้นทราบว่า เป็นกลุ่มวัยรุ่นต่างถิ่น 8 คน ทราบตัวแล้ว เข้ามาเคลียร์และมีปากเสียงกันเล็กน้อย ก่อนจะเดินทางกลับ และเป็นวิสัยวัยรุ่นที่อยากโชว์ศักยภาพตนเอง ข่มขวัญฝ่ายตรงข้ามซึ่งเป็นเจ้าถิ่น แต่เกิดไปโดนหญิงพิการเสียชีวิต ซึ่งถือว่าเป็นคดีอุกฉกรรจ์ ซึ่งขณะนี้ได้ให้ชุดสืบสวนติดตามไล่ล่าตัวอย่างใกล้ชิด