แม่คาใจ ลูกชายวัย 15 ออกจากบ้าน สุดท้ายเป็นศพถูกแขวนคอ เชื่อเป็นการจัดฉาก

จากเหตุการณ์ที่แม่ของนักเรียนชายอายุ 15 ปี เข้าร้องขอความช่วยเหลือกับนายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ก่อตั้งเพจสายไหมต้องรอด หลังเชื่อว่าลูกชายซึ่งพบเป็นศพถูกแขวนคอกับต้นไม้ที่บริเวณป่าชายเลน ใกล้สถานีสูบน้ำคลองเจริญราษฎร์ ในอำเภอบางปู จังหวัดสมุทรปราการ ไม่เชื่อลูกฆ่าตัวตาย คาดน่าจะถูกฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากมีพิรุธและเงื่อนงำหลายอย่าง

โดยแม่ของผู้เสียชีวิตเปิดเผยว่า ก่อนเกิดเหตุลูกชายได้ขี่ จยย. ออกไปจากบ้านซึ่งอยู่ที่ชุมชนคลองใหม่เหนือ ในอำเภอบางปู ช่วงเวลา 15.00 น. ของวันที่ 13 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยบอกว่าจะไปบ้านเพื่อน ซึ่งตนได้บอกลูกชายว่าให้กลับมาบ้านก่อน 4 โมงเย็น เพราะตนจะต้องเอา จยย. เพื่อขี่ไปทำงาน แต่พอ 4 โมงเย็น ลูกชายก็ไม่กลับมา จึงได้ทักแชตไปบอกให้ลูกชายเอา จยย. มาคืนได้แล้ว ลูกชายก็ตอบว่าจะกลับมาตอน 5 โมงเย็น แต่พอถึงเวลา 5 โมงเย็นลูกชายก็ไม่ได้กลับมาที่บ้าน

ตนจึงโทรไปอีกหลายรอบแต่ลูกชายก็ไม่รับสาย ตอนนั้นยอมรับว่ากังวลใจเพราะไม่รู้ลูกชายหายไปไหน พยายามติดต่อไปถามเพื่อนของลูกชายหลายคน แต่ทุกคนก็บอกว่าติดต่อลูกชายไม่ได้ วันรุ่งขึ้นตนจึงตัดสินใจไปแจ้งความกับตำรวจ สภ.บางปู และหลังจากนั้นได้นำเรื่องของลูกลงในเพจ "เผือกทุกเรื่อง" เพื่อช่วยให้ประกาศตามหาลูกชาย จนช่วงเวลาประมาณ 4 ทุ่ม ได้มีโทรศัพท์ ซึ่งไม่รู้ว่าเป็นใครโทรเข้ามาหาตน และพูดว่า "แม่..รักนะ" จากน้้นก็วางสายไป ซึ่งตนได้พยายามโทรกลับไปที่เบอร์ดังกล่าวแต่ก็ไม่ยอมรับสาย

จนกระทั่งวันที่ 15 สิงหาคม ตนได้รับแจ้งว่ามีพลเมืองดีเจอศพลูกชายอยู่ในสภาพแขวนคอที่ป่าชายเลน โดยเมื่อตนไปและลูกชายซึ่งเป็นพี่ของผู้เสียชีวิตไปดูศพ ก็พบว่าศพของลูกชายผิดปกติหลายอย่าง ทั้งมีรอยเขียวช้ำตามแขนและขาปากแตกหัวมีรอยช้ำ โดยเฉพาะเชือกที่ผูกอยู่ที่คอพบว่าปมเชือกอยู่ด้านหน้าใต้ลูกกระเดือก ซึ่งหากทั่วไปคนผูกคอตายปมเชือกจะต้องอยู่ที่ด้านหลังต้นคอ และความยาวของเชือกอยู่ห่างจากกิ่งไม้ที่ใช้ผูกคอประมาณเพียงหนึ่งคืบเท่านั้น

ซึ่งปกติคนผูกคอทั่วไปเชือกจะต้องยาวกว่านี้ ต่อมาตนได้รับหลักฐานสำคัญคือคลิปเสียงซึ่งเป็นรุ่นพี่ของสถาบันช่างกลแห่งหนึ่งในจังหวัดสมุทรปราการ ได้มีการพูดกันในกลุ่มเพื่อน ถึงเรื่องที่ลูกชายของตนเสียชีวิตว่า ลูกชายของตนถูกรุ่นน้องของพวกเขาจับมัดแขนมัดขา กระทืบจนสลบและแน่นิ่งไป รุ่นน้องกลุ่มนี้คิดว่าลูกชายของตนตาย จึงเอาร่างไปแขวนคอที่ต้นไม้ เพื่อจะจัดฉากว่าลูกชายตนผูกคอตาย แต่ลูกชายของตนกลับฟื้นขึ้นมาและพยายามตะเกียกตะกายเอาตัวรอดจากการถูกแขวนคอถึงขนาดกัดฟันตัวเองจนเลือดออกปาก แต่พวกที่ก่อเหตุก็ดูเฉย ๆ โดยไม่ได้เข้าไปช่วย(

ต่อมาตนมารู้ความจริงว่าวัยรุ่นที่โทรศัพท์มาหาตนก่อนนี้แล้วบอกว่า "แม่..รักนะ " เป็นนักเรียนช่างกลที่เรียนอยู่สถาบันเดียวกันกับที่มีคลิปเสียงหลุดออกมา ตนจึงได้นำเรื่องทั้งหมดไปแจ้งความที่ สภ.บางปู โดยต่อมาตำรวจได้เรียกนักเรียนช่างกลรายนี้มาสอบปากคำ โดยนักเรียนช่างกลรายนี้เมื่อเจอหน้าตนก็บอกว่าขอโทษที่โทรศัพท์มาก่อกวน ทำไปเพราะความคึกคะนอง

แต่ปฏิเสธว่าไม่ได้ฆ่าลูกชายของตน ซึ่งตนไม่เชื่อจึงตัดสินใจยกเลิกงานเผาศพลูกซึ่งจากเดิมจะต้องเผาวันที่ 18 สิงหาคม และนำร่างของลูกไปผ่าชันสูตรที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ กระทรวงยุติธรรม เพื่อพิสูจน์ความจริงในเรื่องนี้ ขณะที่นายเอกภพ เปิดเผยว่าได้ประสานไปยังผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ เพื่อให้ช่วยตรวจสอบเรื่องที่เกิดขึ้นแล้ว โดยเฉพาะการพิสูจน์ให้ทราบว่าผู้เสียชีวิตแขวนคอฆ่าตัวตาย หรือ ถูกทำร้ายจนตายแล้วเอาร่างไปแขวนคอซึ่งเป็นการจัดฉากฆาตกรรมอำพราง