สังคม
รวบหนุ่ม 17 ชิงทองกลางห้างดังรัชดา ชักปืนยิง พนง.วิ่งตาม อ้างเป็นไรเดอร์ เงินไม่พอเลี้ยงลูกเมีย
โดย nattachat_c
19 ส.ค. 2567
353 views
ตำรวจตามรวบโจ๋ 17 หลังควงปืนบุกเดี่ยว ชิงทรัพย์ร้านทองกลางห้างดังย่านรัชดา ก่อนฉกสร้อยข้อมือน้ำหนัก 5 บาท 1 เส้น หลบหนี ขณะที่พนักงานวิ่งไล่หวังตามจับตัว แต่ถูกคนร้ายชักปืนยิงใส่หน้า แต่โชคดีปืนขัดลำกล้อง ทำให้หัวกระสุนตกตรงบันไดเลื่อนชั้นล่าง 1 นัด ก่อนคนร้ายจะขี่ จยย.หลบหนีไป เจ้าตัวให้การสารภาพ ต้องการหารายได้มาใช้จ่ายจุนเจือ เนื่องจากมีลูกเล็ก อายุเพียง 1 ขวบ และภรรยาที่ต้องดูแล ประกอบกับค้างค่างวดรถจักรยานยนต์ และมีปากเสียงกับทางครอบครัวฝ่ายหญิง เรื่องการเลี้ยงดู จึงตัดสินใจก่อเหตุ
วานนี้ (18 ส.ค. 67) ตำรวจ สน.ห้วยขวาง รับแจ้งเหตุ มีชายชิงทรัพย์ร้านทอง ภายในห้างสรรพสินค้าชื่อดังย่านถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง โดยร้านทองที่เกิดเหตุ อยู่บนชั้น 2 ติดกับบันไดเลื่อน สอบถามพนักงานของร้านทอง แต่พนักงานร้านทองไม่ให้ข้อมูลใด ๆ รวมทั้งไม่อนุญาตให้บันทึกภาพบริเวณที่เกิดเหตุภายในร้าน
ขณะที่ พ.ต.อ.ประสพโชค เอี่ยมพินิจ ผกก.สน.ห้วยขวาง เล่าไทม์ไลน์เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า คนร้ายสวมเสื้อยืดสีดำ กางเกงขาสั้น และสวมหมวกแก๊ป พร้อมกับสวมหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า ก่อนเกิดเหตุ คนร้ายได้ทำทีมาเดินดูลาดเลาบริเวณหน้าร้าน แล้วเดินกลับออกไป ลักษณะเหมือนว่าชั่งใจที่จะก่อเหตุหรือไม่
จนผ่านไปประมาณ 5 นาที เวลาประมาณ 12.40 น. คนร้ายกลับมาที่ร้านอีกครั้ง พร้อมบอกพนักงานร้านว่า ขอดูสร้อยคอทองคำ โดยกล้องวงจรปิด จับภาพคนร้ายมายืนบริเวณด้านข้างของร้าน พนักงานร้านทองเห็นว่าผิดสังเกต และเกรงว่า หากลูกค้าคนนี้ได้สร้อยคอทองคำไปอยู่ในมือ อาจจะขโมยทองวิ่งหลบหนี จึงได้เรียกให้ลูกค้าคนนี้เข้ามาดูภายในร้าน
คนร้ายก็ทำทีขอพนักงานร้านดูสร้อยคอทองคำ 2 เส้น เส้นแรกเมื่อคนร้ายดูแล้ว ก็ส่งคืนกับพนักงาน และขอดูสร้อยเส้นที่ 2 ปรากฏว่า ในระหว่างที่คนร้ายกำลังดูสร้อยอยู่นั้น พนักงานร้านเห็นว่าคนร้ายมีลักษณะพิรุธคือ มือไม้สั่น รวมทั้งขณะนั้น คนร้ายสวมหมวก และหน้ากากอนามัยปิดบังใบหน้า จึงกำลังจะบอกให้คนร้ายถอดหมวก และเปิดใบหน้า แต่คนร้ายรีบคว้าสร้อยข้อมือทองคำ มูลค่า 5 บาท วิ่งออกไปจากร้านทันที โดยคนร้ายวิ่งไปสะดุดทางต่างระดับ จนทิ้งรองเท้าแตะเอาไว้ข้างหนึ่ง ก่อนจะวิ่งลงบันไดเลื่อนหนีไป
พนักงานร้านทองที่ทำหน้าที่เลี่ยมพระอยู่หน้าร้านได้เห็นเหตุการณ์ จึงวิ่งตามคนร้ายเพื่อช่วยสกัดจับ แต่พอถึงบันไดเลื่อนชั้น 1 ปรากฏว่า คนร้ายชักปืนหันมายิงใส่พนักงานร้านถึง 2 ครั้ง ครั้งแรกกระสุนด้าน ส่วนครั้งที่ 2 กระสุนลั่นลงพื้น ทำให้พนักงานร้านหยุดวิ่งไล่ตาม เพื่อความปลอดภัย แล้วจากนั้น คนร้ายก็วิ่งไปขึ้นมอเตอร์ไซค์หลบหนีไปทันที หลังเกิดเหตุ ชุดสืบสวนเร่งพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดี
ต่อมา พ.ต.อ.ประสพโชค ให้สัมภาษณ์ที่ สน.ห้วยขวาง แจ้งความคืบหน้าว่า ขณะนี้ ทางฝ่ายสืบสวนสามารถพิสูจน์ทราบตัวผู้ก่อเหตุได้แล้ว เป็นชายอายุประมาณ 17 ปี มีที่พักอาศัยอยู่ในย่านห้วยขวางไม่ไกลจากจุดเกิดเหตุ โดยได้สอบปากคำพยานแวดล้อมที่เกิดเหตุ และญาติพี่น้อง เพื่อรวบรวมพยานหลักฐาน และขอศาลออกหมายจับ
จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.40 น. ชุดสืบสวน บก.น.1 และ สน.ห้วยขวาง สามารถควบคุมตัวผู้ก่อเหตุ เป็นเยาวชนชายวัย 17 ปี พร้อมของกลาง สร้อยข้อมือหนัก 5 บาท เสื้อผ้า และจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ โดยญาติเกลี้ยกล่อมให้มอบตัว
ระหว่างถูกควบคุมตัวเข้าห้องสืบสวน ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ต้องการจะพูดอะไรหรือไม่ ผู้ต้องสงสัยพูดสวนว่า "จะให้ผมพูดอะไรพี่" ก่อนจะถูกควบคุมตัวเข้าห้องสืบสวนไป
ผู้ต้องหาให้การเบื้องต้นว่า ตนประกอบอาชีพไรเดอร์ส่งอาหาร หารายได้มาใช้จ่ายจุนเจือในครอบครัว แต่ไม่เพียงพอ เนื่องจากมีลูกเล็กอายุเพียง 1 ขวบ และมีภรรยาที่ต้องดูแล ต้องส่งเงินให้เดือนละ 5,000 บาท ประกอบกับค้างค่างวดรถจักรยานยนต์ 2,800 บาท เป็นรถคันที่ใช้ก่อเหตุ และมีปากเสียงกับทางครอบครัวฝ่ายหญิง เรื่องการเป็นหัวหน้าครอบครัว แต่ไม่สามารถเลี้ยงดูลูกเมียได้ จึงตัดสินใจก่อเหตุ
ด้าน พล.ต.ต.อัฏธพร วงศ์ศิริปรีดา ผบก.น.1 เปิดเผยว่าหลังได้รับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ใช้เวลาไม่นาน ก็ทราบตัวผู้ต้องหา แต่ขณะที่ตำรวจไปถึงที่พักของผู้ต้องหา บริเวณริมทางรถไฟมักกะสัน ก็คลาดกับตัวผู้ก่อเหตุ จึงสั่งเจ้าหน้าที่ติดตามไปยังพื้นที่เป้าหมาย คือ บ้านลูก บ้านแม่ และบ้านเพื่อน เพื่อกดดันผู้ต้องหา กระทั่งจับตัวได้พร้อมของกลาง
ผู้ต้องหาให้การว่า ก่อนจะก่อเหตุ มาเดินดูลาดเลา 1 ครั้ง ก่อนเข้าไปทำทีจะซื้อทอง และก่อเหตุ โดยอ้างว่า คิดแบบฉับพลัน ส่วนปืนก็สั่งซื้อมาจากออนไลน์ได้ปีกว่า
หลังก่อเหตุเสร็จ ได้นำทองไปซุกไว้ในยางอะไหล่รถยนต์ใต้ต้นมะขาม บริเวณแฟลต 9 เคหะชุมชนห้วยขวาง ส่วนอาวุธปืนได้นำไปโยนทิ้งที่คลองรังสิต ก่อนถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันอย่างหนัก ประกอบกับทางญาติเกลี้ยกล่อม จึงประสานญาติให้พาเข้ามอบตัว
ต่อมา เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนได้พาตัวผู้ต้องหาไปงมหาอาวุธปืนของกลาง พร้อมแจ้งข้อหา ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธปืนและยานพาหนะในการหลบหนี / พยายามฆ่าผู้อื่น / มีอาวุธปืน และเครื่องกระสุนปืนไว้ในการครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต / พกพาอาวุธปืนไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่มีเหตุอันควร
-------------
รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/wSamvB7CvGw